4 วันสูญสิ้น 10 ล้าน ผีพนันเข้า "แน็คกี้ นพดล ดำรงค์" ช้ำหนักเกือบพักหายใจไปชั่วชีวิต พร้อมควงภรรยา "บลู รุ้งจรัส" นางเอกลิเก คณะเทพบุตรสุดที่รัก เปิดใจหลังขึ้นแท่นเป็น พ่อ-แม่มือใหม่ เผยกฎเหล็กบ้านพ่อ "เอกชัย" ห้ามลูกมีเมีย ด้าน "นีโน่" รับดีใจมากกำลังจะมีหลาน ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow
ก่อนอื่นต้องแสดงความยินดีกับคุณพ่อ คุณแม่ มือใหม่ และคุณลุงมือใหม่ด้วยนะคะ?
บลู : ขอบคุณค่ะ
กี่เดือนแล้ว?
บลู : เข้า 7 แล้วค่ะ ท้องใหญ่ขึ้นมากเลยค่ะ เริ่มใหญ่ขึ้นตอน 5 เดือน แต่ก่อนหน้านั้นไม่มีอาการแพ้อะไรเลย โชคดีมาก
นีโน่ : พอน้องบอกว่าท้องเห็นได้ชัดเลย
ตอนนั้นไปตรวจครรภ์มา?
แน็คกี้ : เขาไปตรวจกับลุงเขา 2 คน
แล้วคุณพ่อละ?
แน็คกี้ : ตอนนั้นผมไม่รู้ครับ
นีโน่ : พอครั้งที่2 เขาไปตรวจ คุณหมอถามคนนี้ใคร
เพราะอะไรทำไมเราถึงเก็บความลับเอาไว้ไม่ให้เขารู้?
บลู : ตอนนั้นประสบปัญหา พี่เขาป่วยเป็นโรคซึมเศร้ามานานมากแล้ว และเราก็ได้เห็นว่าเขาเครียดมาก แล้วก็สูญเงิน 10 ล้าน แล้วเป็นโรคซึมเศร้าแบบหนักหน่วง เราเห็นเขาทุกข์มากๆ พอหนูท้องน้องก็เลยปิดมา เพราะหนูรู้ตอน 3 เดือน ปิดมาเรื่อยๆ จน 5 เดือน รู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว น้องเริ่มใหญ่ขึ้น และเริ่มมีผลกับชุดลิเกแล้ว มีผลกับการทำงาน ก็เลยตัดสินใจที่จะบอกคุณลุงจ๋าก่อน เพราะเขาใจเย็นกว่าเยอะ
นีโน่ : แต่ว่าก่อนหน้านั้นก็ได้ทักนะ ว่าทำไมอ้วนจัง แต่น้องๆ ในคณะลิเกเขาจะชวนกันกินอยู่แล้ว เราไม่ได้สังเกต
ไปรักกันได้ยังไง?
แน็คกี้ : อยู่ในพาร์ตงาน ตอนทำงานผมเป็นหัวหน้างานของน้อง และมีการดูแลตั้งแต่น้องมาอยู่กับผม พ่อเอกก็สั่งให้ผมดูแลน้องประหนึ่งว่าพ่อเอกดูแลผม ผมก็ดูแลกันมาตลอด เหมือนผู้ใหญ่ดูแลเด็กคนนึง
มีคนบอกมาว่าจริงๆ บลูแอบชอบเขาก่อน?
แน็คกี้ : เรื่องจริง ช่วงนั้นผมเป็นดาราครับ
บลู : แค่แอบปลื้มค่ะ เพราะเป็นสายอาชีพเดียวกัน แล้วเขามีชื่อเสียงตั้งแต่เด็ก หนูเลยปลื้ม เพราะว่าเขาหน้าตาดี เขาหล่อ แต่ตอนนั้นยังไม่ได้ชอบ เพราะเราเด็กมาก
แล้วจุดไหนที่รู้สึกว่าชอบแล้ว?
บลู : ตอนอยู่ด้วยกันมากกว่า ความผูกพัน เพราะว่าเราเล่นลิเกด้วยกัน เราเป็นคู่จิ้นกัน เราต้องคุยงานกันตลอด แล้วทำงานด้วยกันมา 8 ปี
จากคู่จิ้นเปลี่ยนมาเป็นคู่จริงตอนไหน?
แน็คกี้ : ผมว่าเกิดขึ้นจากความผูกพันกับความสงสาร น้องเกิดมาในชีวิตที่ไม่ราบเรียบเลย เราเห็นชีวิตเด็กคนนี้น่าสงสาร ไม่มีคนปกป้อง ไม่มีคนดูแล แล้วพอเราได้เข้ามาดูแล มันเกิดความผูกพัน แล้วเรารู้สึกว่าแม่เคยบอกว่าผู้หญิงดีๆ สมัยนี้หายากนะลูก เราก็สมัยก่อนเป็นผีเสื้อราตรี โบยบินไปเรื่อย แต่ตอนนี้เป็นผีเสื้อกลางวัน ก็ดูแลกันมา เราก็ไม่ได้มีใคร เขาก็ไม่ได้มีใคร อยู่หน้าเวทีมันเหมือนหมาหยอกไก่ มันหยอกไปเรื่อย นัดกันไปมา ก็สนิทกัน คุยกัน
น้องนีโน่รู้ได้ยังไงว่า 2 คนนี้ชอบกัน?
นีโน่ : ด้วยความที่แน็คกับโน่เหมือนเป็นชีวิตเดียวกัน อยู่ด้วยกันตั้งแต่เด็กๆ จนโต เพิ่งแยกที่นอนกันเมื่อปีที่แล้ว เราสังเกตอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่โน่ให้เกียรติน้องเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องส่วนตัวของน้อง แต่ก็เห็นเวลาเขาแซวกัน จนแม่ก็ถามว่ายังไงเนี่ย เขาก็แอบมากระซิบถามโน่ เพราะโน่อยู่กับแน็คตลอด เราก็บอกว่าน่าจะไม่มั้งแม่ ด้วยความที่เราอยากให้เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา
ในคณะมีกฎไหมว่าห้ามพระเอก-นางเอก คบกันไม่ได้นะ?
แน็คกี้ : ก่อนหน้านี้เป็นกฎของพ่อครับ กฎว่าลูกเขาห้ามมีเมีย แต่ว่ากฎของทางคณะไม่ได้มี เพราะคณะผมกับพี่โน่เป็นผู้นำ แต่อันนี้มันเป็นกฎในบ้านของพ่อที่เป็นลูกของพ่อเอก
ซึ่งอันนี้โอเคอยู่?
แน็คกี้ : อันนี้โอเคครับ แต่ว่าถ้า ณ เวลานั้นไม่โอเค เพราะพ่อเขาสั่งห้ามอยู่แล้วว่าห้ามลูกมีเมีย ก็แอบคบกันมาตั้งนานแล้ว ผมว่าเวนั้นเมื่อประมาณ 6-7 ปี ลิเกเขาโดนปลูกฝังกันมา ถ้าเกิดมีคนมานั่งอยู่หลังเวทีมันเหมือนมีเจ้าของแล้ว คนดูจะเข้าไม่ถึง พ่อแกกลัวแบบนั้น
แอบคบกันมา 6 ปี?
แน็คกี้ : ครับ ประมาณ 6 ปีกว่า ก็มีพี่โน่รู้ แล้วเพื่อนของน้องบลู แล้วก็คนในคณะก็พอจะรู้บ้าง แต่คุณพ่อเอกไม่รู้
6 ปีที่คบกัน ได้เจอกันตอนทำงาน?
แน็คกี้ : ครับผม
บลูทนได้ยังไง?
บลู : จุดมุ่งหมายของเรา 2 คนน่าจะเป็นเรื่องงาน ส่วนมากเราทำงานด้วยกันแล้วช่วงที่ซูเปอร์ฮีโร่ดัง เราก็ทำงานอย่างเดียวเลย ส่วนมากจะมาเจอกันที่งาน คุยกันน้อยมาก บอกรักกันน้อยมาก แต่มันใช้ความเข้าใจ
นีโน่ : เชื่อไหมโน่ใช้คำพูดว่า หนูคบกับแน็คคือเวรกรรมของหนู คือมันเป็นการพูดเล่น เราโตมากับน้อง แล้วเราก็รู้ว่าแน็คไม่ได้มีโมเมนต์ความโรแมนติกสักนิดเลย
6 ปีมันไม่ได้ง่ายนะ ผ่านมรสุมเยอะมาก?
บลู : ผ่านมาเยอะค่ะ แล้วมาหนักช่วงท้ายๆ ตอนหลังนี่พี่เขาประสบปัญหาชีวิต เป็นโรคซึมเศร้าแล้วหนักมาก
เกิดจากอะไรรู้ไหม?
แน็คกี้ : มันเกิดจากความอกหักหลายๆ อย่าง อกหักจากเรื่องงาน เรื่องเพื่อนที่หักหลังเรา แล้วผมเป็นคนทำอะไรที่สุดโต่ง เวลาทำอะไรไม่สุดไม่ทำ มันไม่มีตรงกลาง แล้วพอลิเกซูเปอร์ฮีโร่ดังแต่พอมาถึงช่วงโควิดทุกอย่างมันเปลี่ยนหมด ทีมงานแตก เป็นโรคซึมเศร้า กินยาแล้วหยุดยา จนมาเสียเงิน เดินทางผิด
เสียเงิน เดินทางผิดคืออะไร?
แน็คกี้ : เล่นการพนันครับ ไปหาคุณหมอ คุณหมอบอกให้ไปหาความสุข สมัยก่อนเราเสพสิ่งเสพติดทุกอย่าง เอฟเฟคในช่วงเวลานั้นมันมาเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ มันเลยเกิดอาการซึมเศร้า พอเราคิดว่าความสุขเราคืออะไร เราก็นึกไม่ออก เพราะเราไม่ยุ่งกับยาเสพติดอยู่แล้ว ก็ไปเล่นการพนัน 4 วันเสียไป 10 กว่าล้าน
หมายถึงเข้าบ่อนไปเลย?
แน็คกี้ : ไม่ครับ ออนไลน์
คือวันละ 2 ล้านกว่าบาท?
แน็คกี้ : มันเล่นไป เสียไป
น้องบลูทราบไหมว่าเขาแอบเล่นการพนัน?
บลู : ตอนนั้นรู้ว่าเขาเล่นบ้าง แต่ไม่คาดคิดว่าเขาจะเล่นแบบขาดสติแล้วหมดไป เพิ่งมารู้ตอนที่เขาบอกว่าหมดแล้ว แย่แล้ว ทีนี้เขาก็เครียดแล้วก็แย่ไปใหญ่ ประจวบเหมาะกับหนูก็ประสบปัญหาชีวิตของหนูพอดี แล้วเผอิญมามีน้อง แต่ตอนนั้นก็ปิดเขา น้องคนแรก หนูตัดสินใจปิดเขาไว้ก่อน มีอาการป่วย ปวดท้อง สุดท้ายพอไปตรวจหนูท้องนอกมดลูก แล้วมีเลือดออกในช่องท้องเป็นจำนวนมากก็เลยต้องทำการผ่าตัดเดี๋ยวนั้น พี่ๆ 2 คนเขาก็มีงานอยู่ก็เลยให้เขาไปแสดงลิเก แล้วโทรบอกเขาว่า หนูเป็นซีสต์ หนูต้องผ่าตัด คือเราหลุดไปแล้ว หนูจะมาบอกว่าพี่หนูท้องนะ แต่ว่าน้องไปแล้ว หนูก็ไม่อยากบอกให้เขาเครียด ก็เลยตัดสินใจบอกว่าเป็นซีสต์แล้วให้เขาทำงานไป เขาก็มาเยี่ยมปกติ จนหมอบอกว่าหนูเหลือแค่ปีกข้างเดียวแล้วนะ จะมีลูกยากแล้ว หนูก็ไม่คาดคิดอีกไม่เท่าไหร่ก็ท้องน้องอีกคน แต่พอท้องน้องแล้วพี่ก็ยังหนักอยู่ กินไม่ได้ นอนไม่หลับ
แน็คกี้ : ช่วงท้องเป็นช่วงที่เสียเงิน ถ้าเกิดนับไทม์ไลน์ช่วงนั้นพอดี
มันหนักถึงขนาดไหน?
แน็คกี้ : ขับรถไปกลางสะพานแล้วจะกระโดดลงมาเลย กะฆ่าตัวตายเลย เพราะมันเหมือนมันไม่เหลืออะไรแล้ว
นีโน่ : ก่อนหน้านี้โน่ไปงานกับแน็คตลอด เขาจะบ่นกับโน่ทุกครั้งว่าเขาไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว เขาอยากตาย จนโน่แบบว่าไปฟังหลายๆ อย่าง เพื่อมาสอนเขา คุณเชื่อไหมต่อให้พระพุทธเจ้ามาพูดกับคุณต่อหน้า คุณก็ยังลุกไม่ขึ้น โน่พยายามพูดจนโน่จะเป็นซึมเศร้าตามเขาไปแล้ว นั่งร้องไห้มาก ขับรถไปบอกผมไม่อยากมีชีวิตอยู่ พูดอยู่อย่างนี้ทุกวัน
จนวันนั้นมาจริง ขึ้นไปจริงๆ บนสะพาน จะกระโดดจริงๆ ?
แน็คกี้ : จะกระโดดจริงๆ แต่คิดถึงพี่โน่ เพราะพี่โน่กับผมมันคือชีวิตเดียวกัน มันเหมือนหยินกับหยาง เราโตมาด้วยกัน คิดว่าถ้าเราตายไปพี่โน่จะอยู่ยังไง
อะไรเป็นส่วนที่ช่วยให้เราพัฒนาตัวเอง เลิกละไม่อยากฆ่าตัวตาย?
แน็คกี้ : หลังจากนั้นผมไปกราบพ่อเอก กราบขอโทษแก ร้องไห้ ขอโทษที่ทำให้พ่อเสียใจ ขอโทษที่ทำให้พ่อผิดหวัง แล้วเข้าไปหาครอบครัว ตอนมีเงินผมมองข้ามทุกอย่างเลย เหมือนเราอีโก้สูง แล้วพอเราหมดทุกอย่าง มันเหมือนเราลืมตาขึ้นมาอยู่ในน้ำ แล้วตามันฝ้าๆ ซึ่งเราจะเห็นไม่กี่คน แม่ พ่อ น้องชาย น้องสาว พี่โน่ คนข้างๆ แค่เข้ามาจับไหล่เรามันเหมือนแบบ.. เมื่อก่อนเขามาจับไหล่ไม่รู้สึกอะไรเลย แต่ตอนนั้นแค่แตะนิดเดียวแล้วบอกว่าสู้ๆ นะ มันเหมือนแบบ..นี่แหละ หมดอะดีแล้ว เราจะได้รู้ว่าเรามีใครอยู่ข้างๆ
ที่เรารู้ว่าเขาจะไปกระโดดแล้วเขาไม่ทำ เพราะคิดถึงเรา เขามาบอกเราว่าอะไร?
นีโน่ : ใจมันถึงใจอยู่แล้ว แค่น้องมองหน้าโน่ โน่ก็รู้แล้วว่าน้องกำลังแย่ คือตอนนั้นเราได้แต่ให้กำลังใจเขา ให้เขาสู้ๆ นะ ในชีวิตนี้ยังไงคุณก็ยังมีผม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมพร้อมซัพพอร์ตคุณอยู่เสมอ ณ ตอนนั้น
แน็คกี้ : ตอนนั้นผมร้องไห้แล้ว ผมไม่เหลืออะไรแล้ว ผมจับหน้าเขา แล้วมองหน้า เขาก็บอกว่ามึงคิดดูให้ดีว่าเหลืออะไรบ้าง ผมก็บอกว่าไม่เหลืออะไรแล้วจริง พี่โน่ก็บอกว่ามึงยังเหลือกูไง
แล้วเขามีเล่าให้น้องบลูฟังไหมว่าเขาเคยคิดฆ่าตัวตาย?
บลู : รับรู้มาตลอด พยายามให้กำลังใจเขาตลอด แต่ ณ ช่วงนั้นหนูก็แย่มากๆ แต่พยายามให้กำลังใจเขาถึงได้ปิดเรื่องลูกมาถึง 5 เดือน สำหรับหนู หนูไม่ได้ต้องการอะไรจากเขาอยู่แล้ว แค่แบบอยากให้เขามีความสุข ไม่อยากให้เขาทุกข์ ไม่อยากให้เอาเรื่องของเราไปถาโถมเขาอีก อยากให้ถึงที่สุดก่อนแล้วค่อยบอกเขา อยากให้เขาดีขึ้นในเร็ววัน
นีโน่ : ทีนี้กลายเป็นโน่ต้องรับฟังทั้ง 2 คน เพราะเขาทุกข์ทั้ง 2 คนเลย แต่ว่าเขาก็ไม่บอกกันนะครับ โน่จะเป็นคนกลางในการให้กำลังใจ พอมารู้เรื่องหลาน แว๊บแรกโน่ดีใจที่สุดในชีวิตเลย ไม่รู้ว่าเป็นอะไร ด้วยความที่เรารู้สึกว่าเรากำลังจะมีหลานคนแรกของบ้าน บลูก็ปรึกษา เลยพาไปหาหมอไปตรวจ ก็เลยทำคลิปเลยว่าเป็นหลาน น้องก็มาปรึกษาโน่ว่าจะทำยังไงดี จะบอกพี่แน็คดีไหม โน่เลยบอกไม่ได้ ยังไงต้องบอก เพราะโน่รู้ว่ามันจะเป็นผลบวกมากกว่า เรารู้ว่าแน็คสิ่งที่ยึดเหนี่ยวตอนนี้คืองาน แล้วถ้าเขารู้สึกว่าเขาได้มีเด็กตัวน้อยๆ กำลังจะเกิดมา โน่รู้ใจของน้องแต่บลูเขากลัว ก็เพิ่งรู้ตอน 6 เดือน
แน็คกี้ : ก่อนหน้านี้ประมาณอาทิตย์กว่าๆ ที่บอกพ่อเอก แล้วประมาณ 2 อาทิตย์ที่ผมเพิ่งมารู้เรื่องน้องท้อง
พอรู้แล้วความรู้สึกมันเปลี่ยนไปจากตอนแรกไหม?
แน็คกี้ : เลิกกันครับ ทะเลาะกัน
บลู : เขาคิดว่าทำไมเพิ่งบอกเขา เขาเป็นใคร ทำไมถึงให้คนอื่นรู้ก่อน ในการทะเลาะกันหนูก็ผิดด้วย หนูใช้อารมณ์ แล้วหนูก็บอกว่า กลัวว่าพี่จะให้เอาลูกออก
แน็คกี้ : คำนี้แหละ มันเป็นเหมือนคำดูถูกของลูกผู้ชายอย่างผม คุณคิดอะไรอยู่ว่าผมจะเอาลูกออก และในระยะเวลา 5-6 เดือนที่ผ่านมาคุณทำอะไรอยู่ คุณเครียด คุณก็ต้องมีผลต่อเด็ก เด็กในท้องมันลูกของผม มันก็เลยทะเลาะๆ งั้นเลิกกันไปเลย เดี๋ยวดูแลลูกเอง ทุกอย่างมีอะไรบอกมา ก็เลิกกัน น้องเขาก็หนัก แย่
นีโน่ : ผมเข้ามาเห็นร้องไห้ก็ต้องปลอบ บอกไม่เป็นไรๆ ตอนนั้นกำลังร้อนกันทั้ง 2 คน เดี๋ยวโน่เป็นกาวให้ก็ค่อยๆ ปลอบน้อง ค่อยๆ ให้กำลังใจเขาไป แต่สุดท้ายพ่อจัดการเคลียร์ให้
พ่อเอกจัดการยังไง?
แน็คกี้ : เอาตอนเคลียร์ก่อน พอคุยกันแล้วก็เกิดการแถลงข่าวขึ้นมา แต่ก่อนหน้าที่จะแถลงข่าวคุยกันประมาณ 3 วัน ผมไม่รู้ว่าจะต้องดูแลยังไง พ่อโทรมาถามผมว่า ไอแน็ค ไอบลู มันเป็นยังไงบ้าง ผมบอกไม่รู้ เขาก็ด่าผม มึงต้องรู้สิว่าเมียมึงต้องบำรุงครรภ์ยังไง กินอะไร อยู่แบบไหน ด่าผมจนแบบอะไรวะ แล้วเขาหวงอะ ในท้องนั้นเป็นหลานกู แล้วไม่ได้ด่าวันนั้นวันเดียว วันแถลงข่าวผมต้องไปรับเขาที่สนามบิน คือตอนแถลงบอกว่าน้องบลูท้อง แล้วบอกแฟนคลับกลุ่มที่รักพวกเรา ทีนี้มันกลายเป็นวงกว้าง พ่อเอกเขามีหลานคนแรก ก่อนหน้านี้ไปรับเขาที่สนามบิน เขาก็ด่าผม มึงเป็นพ่อประสาอะไร เด็กในท้องเป็นหลานกู เป็นลูกมึง ด่านู้น นี่นั่น ก่อนจะเข้าไลฟ์ ผมก็นั่งหน้าบึ้ง ผมก็โกรธ ผมก็นั่งคิดว่าผมผิดอะไร 5-6 เดือนก็ไม่รู้ว่าท้อง แล้วพอจะมาเป็นพ่อคนก็ไม่รู้ตัวว่าจะทำตัวยังไง
เห็นในคลิปน้องบลูมีร้องไห้ด้วย?
บลู : ใช่ค่ะ วันนั้นเหมือนพ่อเอกมาช่วยปลดล็อกทุกอย่าง ทำให้หนูโล่งใจ จากที่หนูเครียดมาแบบ 5 เดือนเต็ม หนูทุกข์มาตลอด แล้วพอบอกกันก็ทะเลาะ เลิกกันอีก เป็นอะไรที่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดมากๆ แล้วพอพ่อออกมาแถลงมันทำให้ทุกอย่างโล่งขึ้น ดีขึ้น เหมือนพ่อมาเป็นกาว หนูไม่ขออะไร ขอแค่ให้คนรักลูกหนู ให้หนูมีที่ทำมาหากิน แล้วก็ให้พ่อเขารักลูกแค่นี้ก็ดีแล้ว
แน็คกี้ : ต้องบอกอย่างนึงว่าน้องบลูเป็นเด็กน่าสงสารมาก เขาบอกเสมอว่าไม่ต้องการให้พี่เปลี่ยนแปลงอะไร กลัวว่าถ้าบอกผม ผมจะเปลี่ยนไปเป็นอีกคนนึง ต้องมาดูแลเขามากขึ้น เขาอยากให้ผมเป็นผมที่เป็นแบบนี้ เขาต้องการแค่พื้นที่ทำมาหากินแค่นั้นเอง ถึงจะต้องการอะไรก็แล้วแต่คุณก็ต้องบอก ถ้าอยู่หน้างานผมก็เป็นหัวหน้าคุณ ถ้าอยู่ในชีวิตจริงคุณก็เป็นแฟนผม เด็กในท้องก็เป็นลูกผม คือทำตัวแบบว่าหนูไม่ต้องเป็นดาวพระศุกร์มาก หนูอย่าเป็นคนดีเยอะ
อะไรที่ทำให้คบกับพี่แน็คมาได้นานขนาดนี้?
บลู : พี่แน็คเป็นคนที่จริงใจ จริงจังแล้วก็เด็ดขาด อย่างที่บอกหนูเข้ามาอยู่ในความดูแลของพี่เขาด้วยความเป็นน้อง เป็นลูกน้อง คือเขาดูแลอย่างดี คอยซัพพอร์ตในเรื่องใหญ่ๆ เรื่องบ้าน จัดการชีวิตหนู ทำให้หนูกล้าซื้อบ้าน กล้าทำอะไรในแบบที่ตัวเองไม่กล้าทำ และทำให้หนูประสบความสำเร็จ มีบ้าน มีรถ มีชีวิตที่ดีขึ้นก็เพราะเขาแล้วก็คุณลุงจ๋าด้วย
น้องนีโน่ น้องแน็คกี้เกือบจมน้ำเสียชีวิต?
แน็คกี้ : ไปเล่นลิเกในผับ เล่นเรื่อง ชาละวัน แล้วลืมเอาอุปกรณ์เล่นตลกไป ก็เลยแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า คืออยู่ติดคลอง จะทำยังไงดีให้ชาละวันกับไกรทองแข่งกัน ซึ่งจริงๆ ต้องต่อยมวย แต่ลืมเอาอุปกรณ์ต่อยมวยไป ผมก็เลยว่ายน้ำแข่งกัน
นีโน่ : คลองธัญบุรี
แน็คกี้ : ผมว่ายน้ำ พี่โน่พายเรือ แล้วด้วยความสนุกของผม ผมผลักเรือพี่โน่ล้ม ผมชอบแกล้ง
แล้วจมทั้งคู่?
แน็คกี้ : ใช่ครับ พอไปถึงกลางคลอง ผมรู้สึกตัวแล้วตะคริวกินขาขวา แล้วพี่โน่เป็นคนไม่แข็งแรงแล้วไปอยู่กลางคลอง
นีโน่ : ก่อนหน้านี้โน่รำฉุยฉาย มีต่อยมวยบนบกด้วย แล้วไม่ได้นัดกันก่อน แล้วชุดลิเกมันอุ้มน้ำด้วย โน่ว่ายไม่ไป ต้องใช้สติมากเลย วันนั้นรู้สึกเลยการที่เราจะตายเป็นยังไง
แน็คกี้ : พอขึ้นมาก็จะขึ้นร้องเพลงไม่ไหวแล้ว รถพยาบาลมารอแล้ว ทีนี้เจ้าของงานเขาเป็นคนจ้างงานเรา เราไม่อยากให้เขารู้สึกไม่ดีก็เลยทำหน้าที่ให้จบ ผมก็ขึ้นไปร้องเพลงต่อ ทั้งๆ ที่เหนื่อย ร้องไป 3 เพลงแล้วภาพตัด วูบเลย
ต้องเข้าโรงพยาบาลไหม?
แน็คกี้ : แอดมิทครับ
นีโน่ : ต้องสแกนปอด สแกนสมอง เพราะกลืนน้ำเข้าไป
คลิปสัมภาษณ์ https://youtu.be/UI71MPaYFZY?si=Sh5MkpjPnM3BxBbt