เคลียร์ไม่จบ “หนุ่มกะลา”ยื่น 1 แสนประกันตัวคดีลิขสิทธิ์เพลง

2018-03-13 10:10:39

เคลียร์ไม่จบ “หนุ่มกะลา”ยื่น 1 แสนประกันตัวคดีลิขสิทธิ์เพลง

Advertisement

เคลียร์ไม่ลงตัว “หนุ่มกะลา” ยื่น 1 แสนประกันตัวข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์เพลงดัง “ยาม” ค่าย มิวสิค บั๊กส์ ด้านเจ้าตัวเผยยอมรับผิดแต่ไม่เจตนาพร้อมรับผิดชอบ ยันทำไปเพราะไม่ทราบว่าเป็นเพลงที่มีปัญหา ไม่เคยได้รับแจ้งมาก่อน เผยนำเพลงนี้ไปร้องด้วยความที่เข้าใจว่าเป็นลิขสิทธิ์แกรมมี่ เมื่อทราบว่ามีปัญหาก็ไม่เคยนำเพลงนี้มาเล่นหรือแสดงอีก



เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายบุญธรรม เพ็ชรนารถ ประธานกรรมการบริษัทจัดเก็บลิขสิทธิ์เพลง เพ็ชรเมโทร จำกัด พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ ได้นำหมายศาลจังหวัดพัทยา ที่ จ. 99/2561 ลงวันที่ 8 มี.ค.2561 เดินทางไปที่ตึกแกรมมี่ เพื่อจับกุมตัว นายณพสิน แสงสุวรรณ อายุ 36 ปี หรือ “หนุ่ม กะลา” ศิลปินชื่อดัง ในความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นเพื่อการค้าด้วยการเผยแพร่ภาพและเสียงต่อสาธารณะชนโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยระบุว่า เมื่อคืนวันที่ 23 พ.ย.2560 ที่ผ่านมา หนุ่ม กะลา ได้ไปเปิดแสดงคอนเสิร์ตที่ร้าน คลับ อินซอมเนีย ถนนวอล์คกิ้งสตรีท ต.หนองปรือ อ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี และนำเพลง “ยาม” ไปร้องในร้านและในสถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ตต่างๆ อีกหลายครั้งหลายสถานที่ โดยไม่ได้มีการขออนุญาตกับทางเจ้าของลิขสิทธิ์แต่อย่างใด



ต่อมาเมื่อช่วงค่ำ วันที่ 12 มี.ค. ที่ผ่านมา นายณพสิน แสงสุวรรณ หรือ “หนุ่ม กะลา” ได้เดินทางพร้อมด้วยทนายความและกลุ่มเพื่อนเข้าพบ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ 2537 ในมาตราที่ 27 ที่ระบุว่า กระทำอย่างใดอย่างหนึ่งแก่งานอันมีลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 15(5) ได้แก่การทำซ้ำหรือดัดแปลงและเผยแพร่ต่อสาธารณะ มาตรา 28 กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งแก่โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์หรือสิ่งบันทึกเสียงอันมีลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาต และ 29 (3) จัดให้ประชาชนฟังหรือชมงานแพร่เสียงแพร่ภาพ โดยเรียกเก็บเงินหรือผลประโยชน์อย่างอื่นในทางการค้า ซึ่งมีโทษความผิดทางอาญาจำคุก 4-6 ปี และปรับ 1 แสน -8 แสนบาท โดย “หนุ่ม กะลา” ได้รับฟังข้อกล่าวหาเบื้องต้น ก่อนถูกเชิญตัวไปสอบปากคำตามขั้นตอน ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัว นายชนินทร์ วรากุลนุเคราะห์ กรรมการบริษัท เพาเวอร์ เทรเซอร์ จำกัด หรือ มิวสิค บั๊กส์ เข้ามาร่วมเจรจาไกล่เกลี่ย โดยใช้เวลากว่า 2 ชม.ซึ่งผลสรุปว่าทั้ง 2 ฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ โดย “หนุ่มกะลา” ได้ยอมรับผิด และขอประกันตัวในวงเงิน 1 แสนบาท





นายชนินทร์ วรากุลนุเคราะห์ กรรมการบริษัท เพาเวอร์ เทรเซอร์ จำกัด เปิดเผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นถือว่าหลายกรรม หลายวาระ ทางบริษัทจึงได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย เนื่องจากถูกละเมิด ซึ่งแท้จริงแล้วพยายามพูดคุยและเจรจากับศิลปินมาแล้วหลายครั้งแต่ก็ตกลงไม่ได้ นอกจากนี้ยังเคยเดินทางไปพบตัวที่ตึกแกรมมี่ แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมลงมาพบจึงปล่อยให้เป็นไปตามขบวนการทางกฎหมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเคารพและให้ความสำคัญ โดยหลักการแล้วการดำเนินการครั้งนี้ไม่ได้มีเจตนาในเรื่องของการเรียกร้องอะไรมากมาย แต่เพลงนี้เป็นลิขสิทธิ์ของบริษัทที่ถือเป็นทรัพย์สิน เมื่อมีคนมาขโมยออกไป ก็คงต้องขอคืนหรือเรียกร้องค่าเสียหายตามระเบียบ ส่วนที่ว่าจะเคลียร์อย่างไร เท่าไหร่หรือเมื่อไหร่นั้นคงเป็นเรื่องที่จะพูดคุยกันคงบอกในขณะนี้ไม่ได้ ซึ่งส่วนตัวได้ให้เบอร์โทรศัพท์กับ “หนุ่มกะลา” ไปแล้ว และก็พร้อมเจรจาทุกเมื่อ หากตกลงกันได้ก็พร้อมถอนคดี เพราะเป็นเรื่องที่สามารถตกลงและยมความกันได้



ขณะที่ นายไพศิษฐ์ ชาครานนท์ ทนายความส่วนตัวของ “หนุ่มกะลา” เผยว่าที่ผ่านมา “หนุ่มกะลา” นำเพลงนี้ไปร้องแสดงตามงานต่างๆทั่วประเทศ ตั้งแต่ช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.2560 ด้วยความที่เข้าใจว่าเพลงนี้เป็นลิขสิทธิ์ของบริษัทแกรมมี่ ต้นสังกัด โดยไม่ทราบมาก่อนว่าเพลงนี้มีปัญหา และไม่มีเจตนาที่จะกระทำผิดกฎหมายแต่อย่างใด กระทั่งมาทราบว่ามีการแจ้งความดำเนินคดีใน 47 สถานีทั่วประเทศ ในช่วงเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งก็ไม่ได้ละเลยหรือนิ่งเฉยได้พยายามติดต่อพนักงานสอบสวน และค่ายเจ้าของลิขสิทธิ์มาตลอดแต่ก็หาข้อยุติไม่ได้ ขณะนั้น “หนุ่มกะลา” จึงประสานให้ตนเข้ามาทำหน้าที่ในการดูแลเรื่องคดีกระทั่งมีการออกหมายจับในพื้นที่เมืองพัทยาเป็นที่แรก จึงได้เดินทางมารับฟังข้อกล่าวหาและประกันตัว สำหรับคดีนี้เป็นความเข้าใจผิดและความผิดพลาดของศิลปินเอง ที่ไม่ทราบถึงกรณีดังกล่าวมาก่อน และเมื่อทราบว่ามีปัญหาก็ไม่เคยนำเพลงนี้มาเล่นหรือแสดงอีก อย่างไรก็ตามคดีนี้เป็นคดีที่ยอมความกันได้ และตัวศิลปินก็พร้อมเจรจายินดีชดใช้และเยียวยา





ด้าน นายณพสิน แสงสุวรรณ หรือ “หนุ่ม กะลา” กล่าวว่า ยอมรับผิดแต่ที่ทำไปเพราะไม่ทราบว่าเป็นเพลงที่มีปัญหา และไม่เคยได้รับแจ้งมาก่อน อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดปัญหาขึ้นก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและพยายามประสานงานเพื่อแก้ไขมาตลอด แต่ติดปัญหาบางอย่างจึงทำให้เกิดความล่าช้ากระทั่งมีหมายจับ ส่วนตัวแล้วอยากให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี แม้จะมีผลกระทบกับงานเป็นอย่างมากเพราะต้องทำงานตลอด 7 วัน ทำให้การพักผ่อนน้อยเพราะต้องเดินทางไปพบพนักงานสอบสวนตามสถานีต่างๆทั่วประเทศ ขณะที่การเจรจากับเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงจากนี้คงจะมีการนัดเพื่อหาทางออกและต้องขอความอนุเคราะห์และความเห็นใจจากค่ายเพลงด้วย เพราะที่ทำไปเป็นเรื่องที่ไม่ตั้งใจหรือเจตนา ส่วนเรื่องที่เกิด ขึ้นต้องขอขอบคุณแฟนเพลงทุกคนที่คอยให้กำลังใจ ส่วนที่สงสัยว่าทำไมนิ่งเฉยจนปล่อยให้มีการออกหมายจับนั้น ยืนยันว่าไม่ได้บ่ายเบี่ยงหรือหลบเลี่ยงแต่เป็นความผิดพลาดเรื่องของเวลาเท่านั้น