หลังจาก "โบว์-แวนดา สหวงษ์" โพสต์ข้อความบนอินสตาแกรมส่วนตัวเรื่องเปลี่ยนผู้จัดการจากเดิมที่เป็น "อาน้ำอ้อย-ศรมนตรา พิชัยศรแผลง" อดีตผู้จัดการส่วนตัวของปอ ทำเอาหลายคนมองว่าทั้งสองได้แตกหักเพราะเรื่องของผลประโยชน์ ล่าสุดเจอสาวโบว์ที่มาร่วมงานโครงการ From hat to Heart มากกว่า “ใส่หมวกคือใส่ใจ”เลยถามถึงเรื่องดังกล่าวโดยเจ้าตัวได้เผยว่า
จบไปแล้วค่ะ ตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างก็เรียบร้อยแล้ว เอาง่ายๆเราแค่ต้องการปกป้องตัวเราและครอบครัวของเราเอง
ไปเจออะไรมาถึงได้โพสต์?
จบไปแล้วค่ะ ไม่อยากพาดพิงถึงใครทุกคนก็คงจะทราบว่าเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่โบว์ทำไปก็ไม่ได้ทำให้ใครหลายๆคนโบว์เป็นยังไงแล้วก็ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นการไตร่ตรองจากตัวเรานานมากแล้ว ไม่ใช่เอะอะอะไรมาโพสต์เพื่อเอากระแส โบว์ไม่ต้องการกระแส เพราะโบว์เป็นยังไงมาก็อยากเป็นอย่างนั้น
ได้เคลียร์กับอาน้ำอ้อยนานยัง?
ไม่ได้คุยกันนานมากแล้ว คือคิดว่าต่างคนก็ต่างมีเหตุผล ต่างคนก็ต่างใช้ชีวิตของตัวเอง
เหมือนตอนเราโพสต์ทางคุณพ่อพี่ปอก็ออกมาซัพพอร์ตเรา?
กับคุณพ่อนี่โบว์ไม่ค่อยได้คุยกับคุณพ่อ ด้วยเวลาที่โบว์มีปัญหาโบว์ไม่ค่อยเล่าให้ครอบครัวรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ตามอย่างที่คุณพ่อสัมภาษณ์ค่ะ ไม่ได้เกี่ยวว่าเราเป็นลูกสะใภ้ท่านแล้วท่านต้องมาซัพพอร์ตเรา เข้าข้างเรา โบว์เชื่อว่าคุณพ่อพี่ปอมีวุฒิภาวะที่เป็นผู้ใหญ่พอค่ะ
เลยโดนมองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากเรื่องเงิน?
ไม่มีค่ะ และทีผ่านมาเรื่องเงินเรื่องทองไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญในชีวิตโบว์ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเงินทองสำคัญกับชีวิต แต่ก็ไม่ได้สำคัญที่สุดสำหรับชีวิตโบว์
สาเหตุที่เกิดขึ้นเพราะอะไร?
ทัศนคติอาจจะไม่ตรงกัน ไม่มีใครผิดหรอกค่ะ สิ่งที่โบว์ทำไปหลายคนก็ด่าว่าโบว์ หยาบๆคายๆ ก็บอกตัวเองว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป
ส่งผลกระทบกับงานเราด้วยไหมเพราะดูงานน้อยลง?
โบว์ไม่ได้รับเองด้วยค่ะ ก็ไม่ได้อยากแบบเป็นกระแสมาเรียกงาน โบว์คงไม่เอากระแสแบบนี้มาทำให้ครอบครัวโบว์ต้องรู้สึกเจ็บปวดโบว์ไม่ต้องการ คือถ้าไม่ใช่งานในวงการโบว์ก็คงทำมาหากินอย่างอื่นได้
ปัญหาจากการรับงานหรือเปล่า?
ไม่...ไม่มีเรื่องรับงาน คือจะมีงานหรือไม่มีงานในวงการมันไม่ใช่ อย่างที่บอกไปว่าโบว์เจออะไรมาเยอะกับครอบครัวคุณปู่คุณย่าและครอบครัวโบว์ เราผ่านตรงนั้นมาแล้ว มันทำให้เราคิดและโตขึ้นเยอะและเงินไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดของชีวิต
สรุปเป็นเรื่องทัศนคติที่ไปด้วยกันไม่ได้ ?
ความคิดไม่ตรงกันแค่นั้นค่ะ ก็ยังเคารพคุณอาเหมือนเดิมค่ะ
จะมีโอกาสหันมาเดินคนละครึ่งทางเพื่อปรับความเข้าใจกันไหม ?
ไม่น่ามีแล้วค่ะ
ไม่เผาผีเลยไหม?
ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ แค่เราเลือกอยู่ในจุดที่เราสบายใจ มีความสุข ทั้งครอบครัว ตัวเรา คุณปู่คุณย่าและคนรอบข้างมีความสุขแค่นั้นพอ ทุกวันนี้เราก็ยังคงห่วงใยคุณอาอยู่ แต่คนเรามีทางเลือกที่จะยืนอยู่ตรงจุดไหนแล้วสบายใจทั้งสองฝ่ายมากกว่า
ตอนนี้กลายเป็นมีทีมโบว์ ทีมอาน้ำอ้อย ไปหมดแล้ว ?
ไม่หรอกค่ะเราก็พยายามบอกแฟนคลับของโบว์ว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของโบว์ เพราะฉะนั้นอย่าให้ความรู้สึกข้างใดข้างหนึ่งมาทำลายความรู้สึกที่เราเคยมีดีๆ ด้วยกันทั้ง 2 ฝ่ายให้มันแย่หรืออะไร ทุกคนมีเหตุผลค่ะ แต่เราไม่สามารถอธิบายเหตุผลให้คนทั้งโลกเข้าใจว่าที่เราทำเพราะอะไร รู้อยู่ที่เราทำไปแล้วโดนด่าแน่นอน รู้อยู่ว่าทำไปแล้ววันที่ลงต้องโดนด่าแน่นอน คิดเลยว่าต้องโดนด่า อกตัญญู เนรคุณ เห็นแก่เงิน ยิ่งกว่านี้ก็โดนด่า จนโบว์ต้องเก็บตัวอยู่ในบ้านอาทิตย์นึงถามว่าเครียดไหมเครียด แล้วปัญหาที่ผ่านมามันเครียดอยู่แล้ว มาครั้งนี้ก็ยิ่งเครียดไปอีก แต่ก็บอกตัวเองว่าที่เราทำมันถูกต้อง เดี๋ยวมันก็ผ่านไป
คำไหนที่เรารู้สึกว่าแรงที่สุด?
เนรคุณ อกตัญญู
โดนด่าขนาดนี้มีร้องไห้ไหม ?
โดนด่าโดนว่า ไม่ร้องหรอกค่ะ เพราะโดนมาเยอะแล้ว แต่ที่ร้องไห้เนี่ยมันก็ร้องในสิ่งที่เราไม่อยากทำแต่เราต้องทำ ร้องไห้ในมุมมองที่ว่าถึงเวลาที่มันต้องทำอ่ะ เราไม่อยากทำร้ายใครอยู่แล้วไม่อยากโดนด่า แต่เมื่อคนมันถึงที่สุดก็ต้องลุกขึ้นมาปกป้องตัวเอง จริงๆ วันนี้ก็ไม่อยากให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้เพราะไม่อยากให้กระทบถึงอีกฝั่งหนึ่ง เขาก็ใช้ชีวิตของเขาดีแล้ว ต่างคนก็ต่างทำมาหากิน เรายังยืนยันว่าไม่อยากให้มีวันนี้เกิดขึ้น ไม่อยากให้เป็นแบบนี้ และไม่อยากให้คนในสังคมต้องมารับรู้เรื่องราวแบบนี้ที่มันเป็นเรื่องราวส่วนตัวของโบว์
บางคนก็บอกว่าเรามาจากอาน้ำอ้อยเพราะเรากำลังจะมีสามีใหม่ ?
โอ๊ย... อยากตีปากคนที่พูดจังเลยค่ะ ไม่มีหรอกค่ะ สามงสามีก็ไม่มีหรอกค่ะ ยังคงเป็นพี่ปออยู่แบบนี้แหละ
ทางอาน้ำอ้อยเคยให้สัมภาษณ์ว่าเราหูเบา อาจจะไปเชื่อคนรอบข้าง?
โบว์ว่าโบว์มีวุฒิภาวะพอ มีสมองพอที่จะไตร่ตรองก่อนว่าใครเป็นยังไง ถ้าโบว์เชื่อหรือหูเบาป่านนี้โบว์คงไม่มีความเป็นตัวโบว์แล้วค่ะ เพราะที่ผ่านมาตั้งแต่ที่คนเริ่มรู้จักโบว์ครั้งแรกก็เห็นอยู่ว่าคนรอบข้างโบว์เยอะแค่ไหน ถ้าโบว์ไม่เข้มแข็งพอ คิดเองไม่ได้ โบว์คงเลอะเทอะไม่มีจุดยืนในชีวิตแล้ว
ตอนนี้ไม่สามารถเจอกันหรือเข้ามาหากันที่บ้านได้เลยใช่ไหม?
โบว์ว่าต่างคนต่างอยู่ดีกว่าค่ะ ทุกคนมีจุดยืนของตัวเอง”
ที่โพสต์คือการตัดขาดกันอย่างชัดเจนเลยใช่ไหม ?
ที่โพสต์ไปโบว์ไม่ได้บอกว่าใครนะคะ แต่พอหลังจากนั้นทางคุณอาก็ได้ออกมาสัมภาษณ์ วันนี้ก็กำลังจะสัมภาษณ์ในเรื่องที่คุณอาสัมภาษณ์ ส่วนที่โบว์โพสต์โบว์ไม่ได้บอกว่าเป็นใคร”
น้องมะลิค่อนข้างจะใกล้ชิดกับคุณอา เราได้อธิบายให้น้องฟังไหมว่าทำไมคุณอาหายไป ?
ความสัมพันธ์มันยังอยู่ ทุกครั้งที่น้องถามถึงคุณอา โบว์ก็จะบอกว่าคุณอาไปทำงานนะคะ หรือคุณอาไม่มีเวลา อย่างที่บอกโบว์ไม่อยากให้เรื่องเป็นแบบนี้ อยู่ดีๆ โบว์จะมาหาเรื่องให้คนด่าโบว์มันก็ไม่ใช่เรื่อง แต่ก็ยังยืนยันว่าถึงเวลาที่โบว์ต้องปกป้องตัวเองแล้ว
