รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยายืนยันว่า “น้องอิน” คาดเข็มขัดนิรภัยขณะเกิดอุบัติเหตุ เตรียมเรียกสอบพยาน 4-5 ปาก รวมไปถึง “บิณฑ์ บันลือฤทธิ์”หลังพิธีฌาปนกิจศพ
จากกรณีที่ น.ส.ณัฐนิชา เชิดชูบุพากรี หรือ “น้องอิน” อายุ 21 ปี ประสบอุบัติเหตุขับรถยนต์ BMW รุ่น X1 สีขาว หมายเลขทะเบียน 5กบ-5248 กรุงเทพมหานครชนต้นไม้จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนทางหลวงหมายเลข 9 บริเวณ เชิงสะพานข้ามทางรถไฟ หลักกิโลเมตรที่ 79 มุ่งหน้าสระบุรี ต.เชียงรากน้อย อ. บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 เม.ย. ที่ผ่านมานั้น
เมื่อวันที่ 9 เม.ย. พ.ต.อ.สง่า ธีรศรัณยานนท์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา) เปิดเผยกับนิว 18 ว่า พนักงานสอบสวนเตรียมเรียกสอบปากคำพยาน 4-5 ปาก ก่อนจะสรุปสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ ว่าเกิดจากสาเหตุใด โดยหนึ่งในพยานที่ตำรวจจะเรียกสอบ คือ นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ที่ทราบความเคลื่อนไหวของผู้ตาย และครอบครัวเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามคาดว่า หลังเสร็จสิ้นช่วงงานศพ ที่จะมีพิธีฌาปนกิจ ในวันที่ 11 เม.ย.นี้ พยานที่ตำรวจจะเรียกมานั้น น่าจะพร้อมเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน
พ.ต.อ.สง่า กล่าวต่อว่า ส่วนเส้นทางที่น้องอินขับมาจากไหนนั้น ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนเร่งตรวจหากล้องวงจรปิดตามเส้นทางมาประกอบสำนวนการสอบสวนด้วย สำหรับประเด็นที่ หลายคนสงสัยว่า ขณะเกิดเหตุน้องอิน ได้คาดเข็มขัดนิรภัย หรือ ไม่นั้น พ.ต.อ.สง่า ระบุว่า ผู้ตายได้คาดเข็มขัดอย่างแน่นอน
ทั้งนี้บริเวณที่เกิดอุบัติเหตุเป็นพื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง ตั้งเเต่ต้นเดือน ม.ค.มาจนถึงปัจจุบัน “น้องอิน”เป็นรายที่ 4 เเล้วที่เสียชีวิต หากเฉลี่ยต่อปีการเกิดอุบัติเหตุในจุดนี้จะอยู่ที่ประมาณ 20-30 ครั้งต่อปี มีทั้งรับเเจ้งเเละไม่ได้รับเเจ้ง ส่วนผู้เสียชีวิตนั้นต่อแล้วประมาณ 5-10 ราย
ขณะเดียวกันทาง บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบพบว่า ม่านถุงลมด้านข้างทำงาน แต่ถุงลมด้านหน้าไม่ทำงาน จากข้อมูลเบื้องต้นคาดว่า มีการชนจากด้านข้างอย่างรุนแรง ทำให้ม่านนิรภัยทำงาน แต่ที่ถุงลมด้านหน้าไม่ทำงาน เนื่องจากไม่ได้ชนด้านหน้าตรง เซ็นเซอร์จึงไม่ได้รับข้อมูลที่จะปล่อยถุงลม