เจ้าหน้าที่ตำรวจสนธิกำลังทลายแก๊งเครือข่าย เมจิก สกิน จำนวน 13 จุด พบของกลางเป็นจำนวนมาก
วันที่ 21 เม.ย. ที่กองบังคับการสืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.) พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง ผบก.ทท.3 พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบก.สส.บช.น. สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 100 นาย ทลายแก๊งเครื่องสำอาง อาหารเสริม ในเครือข่าย บริษัท เมจิก สกิน จำกัด ทั้งหมด 13 จุดทั่วประเทศ ผู้ต้องหาตามหมายจับทั้งหมด 8 ราย 1. นางวรรณภา พวงสน หัวหน้าทีม 2.นายกร พวงสน ทำหน้าที่ดูแลการเงิน 3.นายกสิทธิ์ วรชิงตัน 4.นายไมยสิทธิ์ สว่างธรรมรัตน์ ทำหน้าที่จัดโรงเรียนสอนรวย 5.นายพิร์นิธิ ติรณวัตถุภรณ์ ทำหน้าที่เป็นผู้ว่ากลยุทธ์ 6.นางสาวธนัญพรรธน์ บุญโญสิทธิ์ 7.นางสาวตรีชฎา ใจสบาย 8.นางสาวมธุรส แดงสัมฤทธิ์ ทำหน้าที่ผู้สั่งผลิตแบะเป็นเจ้าหน้ายี่ห้อสินค้า
พล.ต.อ.วิระชัย เปิดเผยว่า เนื่องจากวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมามีผู้เสียหายจำนวนมากเดินทางเข้าร้องทุกข์ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ดำเนินคดีกับ บริษัท เมจิก สกิน จำกัด ซึ่งจากการสืบสวนพบว่าบริษัทดังกล่าวผลิตสินค้ายี่ห้อดังหลายประเภท ได้แก่ apple slim , slim milk , snow milk , Fern , เมจิก สกิน , ชิโนชิ , ตรีชฎา และ Mezzo โดยสินค้าดังกล่าวจะใช้เครื่องการค้าอาหารและยา (อย.) ปลอม ติดเครื่องหมายการค้าผิดประเภท ผลิตอาหารเสริมไม่ได้คุณภาพ จากการตรวจมีผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 8 ราย ซึ่งทั้ง 8 ราย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหมายจับแล้ว สำหรับในการตรวจค้นวันนี้เพื่อทำการจับกุมผู้ต้องหาและตรวจยึด ของกลาง และทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ ปปง.ตรวจสอบว่าเข้าข่ายการฟอกเงินหรือไม่ ทั้งนี้หากตรวจสอบพบว่าบุคคลใดเป็นผู้ถือทรัพย์สินแทนก็จะดำเนินคดีในข้อหา ฟอกเงิน เช่นกัน นอกจากนี้ตรวจบัญชีพบว่ามีเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาท
ต่อมาเวลา 07.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าค้นทาวน์โฮม 4 ชั้น บ้านเลขที่ 230/7 หมู่บ้านกลางเมือง ซอยลาดพร้าว71 ถนนนาคนิวาส 10 แขวและเขตลาดพร้าว ซึ่งเป็นบ้านที่พักอาศัยนายไมยสิทธิ์ พบของกลาง เครื่องสำอางบำรุงผิวหน้าหน้ายี่ห้อ Mezzo , Fern จำนวน 3 กล่อง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า Mezzo ไม่ได้มีรกแกะเป็นส่วนสกัดแต่อย่างใด เป็นเพียงน้ำสกัดจากถั่วเหลืองเท่านั้นและผลิตที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ด้านนายไมยสิทธิ์ ผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ตนไม่ใช่เจ้าของแบรนด์ดังกล่าวเป็นลูกค้าที่ซื้อสินค้าต่อจาก นาย กสิทธิ์ และนำมาขาย ตนเป็นเพียงผู้สอนคอร์ส 90 วันในการขายยังไงให้ได้สมาชิก 500 คน ต่อมาเข้าค้นจุดที่ 2 เป็นบ้านทาวน์โฮม 4 ชั้น 429/2 หมู่บ้าน Premium Place ekamai-ramindra 2 เป็นออฟฟิศทำงานของนายไมยสิทธิ์ ซึ่งเปิดเป็นโรงเรียนสอนของนายไมยสิทธิ์
ด้าน พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า บริเวณชั้น 2 ของบ้านหลังดังกล่าว ชื่อว่าห้องสอนรวย ซึ่งจะคอยสอนว่าหากมีสินค้าควรจะจำหน่ายอย่างไร หรือถ้ามีการซื้อสินค้า 100 ชิ้นขึ้นไป ก็จะมีการสอนแต่งหน้า หรือถ้าซื้อ 1,000 ชิ้นขึ้นไป จะมีการสอนทำเฟซบุ๊ก และการขายสินค้าออนไลน์ ดังนั้นพวกที่โชว์หน้าสวย ไม่ได้ใช้สินค้าจริงๆ ซึ่งถือว่าเป็นการแสดงข้อมูลอันเป็นเท็จ และยอดไลก์ ยอดแชร์ที่เห็นว่ามีการกระจายในโลกออนไลน์นั้น จริงๆแล้วมีคอมพิวเตอร์ หรือโรบอดคอยทำยอดไลก์ ยอดแชร์อัติโนมัติ ซึ่งการกระทำดังกล่าว ผิดฐานโฆษณาเกินจริง และนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ มีโทษจำคุก 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และชั้น 5 เป็นโรงงานของนาย กสิทธิ์ ที่ใช้ผลิตเครื่องสำอางปลอม แล้วนำไปใส่บรรจุภัณฑ์แล้วอ้างว่าผลิตที่ต่างประเทศนั้นไม่เป็นความจริง นอกจากนี้ไม่มีใบอนุญาตในการตั้งโรงงาน ไม่มรวบอนุญาตในเรื่องของส่วนผสม ทั้งนี้จะต้องส่งสารดังกล่าวให้กับเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบให้ละเอียด
ห่างกันประมาณ 30 เมตรเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าค้นบ้านเลขที่ 429/7 ซึ่งเป็นที่เก็บของของนาย กสิทธิ์ หรือหญิงย้วย พบของกลางผลิตภัณฑ์ยี่ห้อ kinjuju จำนวนมาก ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเรื่องลดน้ำหนัก นอกจากนี้มีรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า แคมรี่ สีดำ หมายเลยทะเบียน ชช 9562 กรุงเทพมหานคร แต่ไม่พบเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว