นับถอยหลังวันเสกสมรสของเจ้าชายแฮร์รี รัชทายาทลำดับที่ 6 แห่งราชวงศ์อังกฤษ พระชนมายุ 33 พรรษา กับ น.ส.เมแกน มาร์เคิล พระคู่หมั้น ดาราสาวเปรี้ยวชาวอเมริกัน วัย 36 ปี ในวันเสาร์ที่ 19 พฤษภาคมนี้ มีหลายคนสงสัยกันว่า ระหว่างมาร์เคิล นักแสดงมากความสามารถ งานล้นมือ ทำงานหลากหลายอาชีพตั้งแต่เรียนจบ เป็นทั้งบล็อกเกอร์, นักประดิษฐ์ตัวอักษร, งานแสดงละครซีรีย์ และภาพยนตร์ รวมทั้งยังเป็นเซเลบคนดังในสังคม กอบโกยรายได้เป็นกอบเป็นกำ มีทรัพย์สินมากกว่า เจ้าชายแฮร์รี หรือไม่ แล้วราชวงศ์อังกฤษ ทำไมมีทรัพย์สินร่ำรวยเข้าขั้นเศรษฐี ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำงานทำการอย่างชาวบ้าน
นี่เป็นคำถาม ที่คอลัมน์ "ลัดเลาะรอบโลก" กับสันติ สร้างนอก จะพาไปหาคำตอบกันในวันนี้ เพื่อพิสูจน์ความมั่งคั่งร่ำรวยของราชวงศ์มากธรรมเนียมปฏิบัติแห่งนี้ .....ไปเฉลยคำตอบแรกกัน
เมื่อไล่เลียงดูรายได้ของมาร์เคิลแล้ว พบว่าเธอมีทรัพย์สินอยู่ประมาณ 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 160 ล้านบาท เมื่อเทียบกับทรัพย์สินของเข้าชายแฮร์รีแล้ว ยังห่างไกลกันหลายช่วงตัว เพราะเจ้าชายแฮร์รี มีทรัพย์สินกว่า 40 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 1,300 ล้านบาท (1 USD = 31.9423 THB วันที่ 15 พ.ค.2561)
แล้วเจ้าชายแฮร์รี และราชวงศ์อังกฤษมีรายได้มาจากไหน แต่ละองค์ ถึงได้ร่ำรวยมหาศาลขนาดนี้ ไปดูกัน
แน่นอนว่า ผู้คนส่วนใหญ่จะได้เงินมาก็ต้องจากการทำงาน แต่ราชวงศ์อังกฤษไม่ใช่
สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธ ที่ 2 และสมาชิกราชวงศ์เมืองผู้ดี มีแหล่งรายได้จากหลายแหล่งมาก มากพอที่จะเป็นค่าใช้จ่ายและจุนเจือครอบคลุมการใช้ชีวิตได้อย่างสบาย แต่ทั้งหมดก็ไม่ได้ร่ำรวยมหาศาลอย่างที่หลายคนคาดกัน รายงานของสื่อมวลชนประเมินว่า ทรัพย์สินส่วนพระองค์ของควีนเอลิซาเบธ ที่ 2 มีอยู่ที่ 360 ล้านปอนด์ (470 ล้านดอลลาร์) หรือประมาณ 15,600 ล้านบาท
ควีน และเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฏราชกุมาร ได้รับรายได้ทั้งหมดจากรัฐบาล และอสังหาริมทรัพย์ของพระองค์เอง ส่วนองค์อื่น ๆ ซึ่งรวมทั้งเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าหญิงแคทเธอรีน ดยุกและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์, เจ้าชายแฮร์รี ก็ได้รับรายได้จากกองทุนของราชวงศ์
เฉพาะควีนเอลิซาเบธนั้น แหล่งรายได้หลัก ๆ ของพระองค์มี 3 แห่ง คือกองทุนเงินอุปถัมภ์ส่วนพระมหากษัตริย์ (The Sovereign Grant) หรือจะบอกว่าเงินปีของพระมหากษัตริย์ก็ได้ จะถูกนำไปใช้ในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจ และการดำเนินงานต่าง ๆ ของสำนักพระราชวังฯ เช่น ค่าจ้างบุคลากร การดูแลซ่อมบำรุงพระราชวัง ค่าใช้จ่ายในการเดินทางและรายจ่ายจิปาถะอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังได้จากดัชชีแห่งแลงคาสเตอร์ (Duchy of Lancaster) ซึ่งทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยได้รับการละเว้นการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล และอีกหนึ่งแหล่งก็เป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์และการลงทุน
ควีนได้รับเงิน 42.8 ล้านปอนด์ (58 ล้านดอลลาร์) โดยไม่ต้องจ่ายภาษีจากกองทุนเงินอุปถัมภ์ส่วนพระมหากษัตริย์ ในปีการเงิน 2559-2560 ส่วนรายจ่ายคาดว่าเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 78 อยู่ที่ 76.1 ล้านปอนด์ (103 ล้านดอลลาร์) ในงบประมาณปีล่าสุด เพื่อช่วยเหลือด้านการเงินในการซ่อมบำรุงพระราชวังบักกิงแฮมที่ใช้เงินจำนวนมาก
ควีนเอลิซาเบธ ยังมีทรัพย์สินส่วนพระองค์ ซึ่งรวมทั้งปราสาทบัลมอรัล ในสกอตแลนด์ และปราสาทแซนดริงแฮม ในภาคตะวันออกของอังกฤษ ทั้ง 2 แห่งนี้ เป็นมรดกตกทอดมาจากพระบิดาของพระองค์และเป็นสถานที่พักผ่อนของสมาชิกในราชวงศ์ที่ทรงโปรดมาก แต่ความมั่งคั่งของพระองค์ นอกเหนือจากอสังหาริมทรัพย์แล้ว ก็ยังมีการสะสมแสตมป์ที่ทรงคุณค่า, ผลงานด้านศิลปะจำนวนมากและยังมีรายได้จากการลงทุนในตลาดหุ้นด้วย
ส่วนเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ พระสวามีของควีน มีรายได้ประจำปี 359,000 ปอนด์ (488,000 ดอลลาร์) เป็นค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติพระราชกรณียกิจของพระองค์ และพระองค์ทรงเกษียณเมื่อปีที่แล้ว หลังตรากตรำมานานกว่า 60 ปี
ด้านเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์ และคามิลลา พระชายา ดัชเชสแห่งคอนวอลล์ ต้องพึ่งพารายได้จากทั้งรัฐบาลและทรัพย์สินส่วนพระองค์ กว่าร้อยละ 90 ของรายได้ มาจากดัชชีแห่งคอร์นวอลล์ (Duchy of Cornwall) ที่ดูแลอสังหาริมทรัพย์ส่วนพระองค์ ซึ่งตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2480 เพื่อจัดหารายได้ให้เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พระโอรสองค์โต โดยทำธุรกิจด้านที่ดินทั้งในเมืองและชนบท มีโครงการลงทุนสำคัญ 15 แห่ง ซึ่งมีตั้งแต่โครงการพัฒนาเมือง ท่าเรือ ฟาร์ม เกาะ ที่อยู่อาศัย และเงินลงทุนในกิจการต่างๆ
ในปีงบประมาณที่ผ่านมา ทั้ง 2 พระองค์มีรายได้จากอสังหาริมทรัพย์ 20.7 ล้านปอนด์ (28 ล้านดอลลาร์) นอกจากนี้ ทั้ง 2 พระองค์ยังได้รับเงินจำนวน 1.3 ล้านปอนด์ หรือ 1.8 ล้านดอลลาร์ จาก Sovereign Crant ของควีน และอีก 461,000 ปอนด์ (627,000) จากหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐบาลสหราชอาณาจักร
ประมาณครึ่งหนึ่งของรายได้ประจำปีของทั้ง 2 พระองค์ ถูกใช้ไปกับการปฏิบัติพระราชกรณียกิจและการเดินทางต่าง ๆ ขณะที่อีก 1 ใน 4 จ่ายภาษี ส่วนที่เหลือ 6.6 ล้านปอนด์ (8.9 ล้านดอลลาร์) เป็นส่วนแบ่งของพระโอรสของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์, จับจ่ายใช้สอยอย่างไม่เป็นทางการ และเข้าบัญชีเงินฝากของราชวงศ์ เมื่อเมแกน มาร์เคิล เข้ามาเป็นทองแผ่นเดียวกัน มันก็อยู่ที่ดุลยพินิจของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ในการจ่ายเงินเพิ่มให้เจ้าชายแฮร์รีและมาร์เคิล
เจ้าชายวิลเลียม, เจ้าหญิงเคท และเจ้าชายแฮร์รี ยังมีรายได้จากเงินชดเชยเมื่อปฏิบัติภารกิจอย่างเป็นทางการในนามของควีน ขณะเดียวกัน เจ้าชายวิลเลียม และเจ้าชายแฮร์รี ยังมีทรัพย์สินส่วนพระองค์, ทรัพย์สินที่เป็นมรดกจากเจ้าหญิงไดอานา พระมารดาด้วย
ส่วนสมาชิกในราชวงศ์องค์อื่น ๆ ก็จะมีรายได้ในลักษณะเดียวกัน โดยพระโอรสและพระธิดาที่เหลือของควีน ก็จะได้รายได้จากทรัพย์สิน Sovereign Grant และดัชชีแห่งแลงคาสเตอร์ (Duchy of Lancaster)
อย่างไรก็ตาม สมาชิกราชวงศ์รุ่นต่อไป คาดว่าจะประกอบอาชีพสร้างฐานะด้วยลำแข้งตัวเองอย่างเป็นอิสระมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น พระธิดาของเจ้าชายแอนดรูว์ คือเจ้าหญิงเบียทริซ และเจ้าหญิงยูจีนี ทำธุรกิจเต็มเวลา แต่ก็ยังได้รับเงินสนับสนุนจากพระบิดาอยู่