คุมตัวพระชั้นผู้ใหญ่วัดดังฝากขัง

2018-05-24 18:05:21

คุมตัวพระชั้นผู้ใหญ่วัดดังฝากขัง

Advertisement

ตำรวจกองปราบคุมตัวพระเถระชั้นผู้ใหญ่วัดดัง พร้อมฆราวาส ไปขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางฝากขัง พร้อมคัดค้านการประกันตัว

เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 24 พ.ค. พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.)ได้นำตัวพระเถระชั้นผู้ใหญ่จาก 2 วัด ประกอบด้วยวัดสามพระยาวรวิหาร 1.พระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัด กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร 2.พระอรรถกิจโสภณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัด เลขานุการเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร 1.พระศรีคุณาภรณ์ 2.พระครูสิริวิหารการ และ 3.พระวิจิตรธรรมาภรณ์ หรือ เจ้าคุณเทอด ทั้ง 3 รูปเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาส และฆราวาสอีก 4 ราย ประกอบด้วย น.ส.ฑัมม์พร นิพนธ์พิทยา อดีตเจ้าของ หจก. ดี ดี ทวีคูณ มารดาของ ร.ท.ฐิติทัศน์ แม่บ้าน และชายอีก 2 คน ผู้ต้องหาร่วมกันฟอกเงิน คดีทุจริตเงินทอนวัด ไปขออำนาจศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางฝากขัง พร้อมยื่นคัดค้านการประกันตัว หลังจากบุกวัดตั้งแต่ช่วงเช้าเชิญตัวมาสอบสวน



เบื้องต้นจากการสอบถามทนายความของเจ้าอาวาสวัดสามพระยาวรวิหาร ยอมรับว่า มีการรับเงินที่จัดสรรมา 5 ล้านบาทจริง แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดว่ามีการส่งต่อไปที่ใด




อย่างไรก็ตามในวันนี้ในส่วนของวัดสัมพันธวงศาราม พระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม กรรมการ มส. และเจ้าคณะภาค 4-7 ไม่ปรากฎตัวในวันนี้



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวัดสามพระยาวรวิหาร และวัดสัมพันธวงศาราม ตำรวจพบว่าได้รับเงินงบประมาณมาวัดละ 5 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นงบอุดหนุนวัด แต่เงินถูกโอนเข้าบัญชีฆราวาส รวม 9 บัญชี ส่วนวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ตำรวจพบการทุจริตเงิน 2 ปีงบประมาณ คือ 1. ปี 2557 งบประมาณสนับสนุน รร.ปริยัติธรรม ของวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร จำนวน 87.5 ล้านทั้งที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ไม่มีการจัดตั้งโรงเรียนดังกล่าว แต่กลับรับงบประมาณดังกล่าวมาจึงมีความผิดชัดเจน 2. ปี 2559 ซึ่งแบ่งเป็น 2 โครงการ ได้แก่ โครงการอบรบคุณธรรม งบประมาณ 37.2 ล้านบาท ถูกนำไปกระจายให้วัด 2 แห่งในต่างจังหวัดรวม 8 ล้านบาท และได้มีการทอนคืนวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร 29.2 ล้านบาท โดยตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเงินที่ทอนคืนวัดนั้นได้มีการคืนให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) หรือ อยู่ที่ผู้ใด/ส่วนโครงการศูนย์กลางเผยแผ่พระพุทธศาสนา งบประมาณ 32.5 ล้านบาท ซึ่งตำรวจพบว่างบดังกล่าวไม่ได้นำไปใช้บำรุงศาสนาแต่อย่างใด แต่ถูกโอนเข้าบัญชีของน.ส.นุชรา สิทธินอก จำนวน 25 ล้านบาท และ นายธีระพงษ์ พันธุ์ศรี อีก 5 ล้านบาท ทำให้ทั้ง 2 เข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงินด้วย