โดนโจมตีจากหลายๆ ด้านจนทนเก็บไว้ไม่ไหว ถึงคราว "น้องมิ้ง ศวภัทร สุนทรนันท" เปิดปากพูดให้หมดเปลือก หลังถูกแม่ผู้ชายเขี่ยทิ้งไม่เหลือเยื่อใย ทางค่ายยึดผลตรวจจากแพทย์ เจอแรงกดดันจากแฟนคลับที่หลงประเด็นต้องออกมาทำอะไรบ้าง ขณะอีกฝ่ายยังคลุมเครือ .... ทีมข่าวบันเทิงนิว 18 สรุปเหตุการณ์ทั้งหมดไว้เรียบร้อยแล้ว ...
หลังข่าวแพร่สะพัดไปทั่ว ทางค่ายต้นสังกัดโทร.หาคุณแม่ของน้องมิ้ง ต้องการให้ไปตรวจกับบริษัท แต่ใบตรวจครั้งก่อนถูกริบไป ตนเข้าใจที่กัปตันให้สัมภาษณ์คงเพราะค่ายบรีฟมา เพราะแต่ก่อน ห้ามมิ้งพูด ห้ามให้สัมภาษณ์ ห้ามลงรูป ห้ามทุกอย่าง ทางมิ้งก็ยอม ยอมมาโดยตลอด ซึ่งน้องมิ้งขอคุยกับกัปตันแค่สองคน แต่ถูกกีดกัน จึงตัดสินใจลงรูป มีคนเห็นก็เลยเป็นข่าว ตอนนี้น้องมิ้งโดนคนด่า โดนคนมองไม่ดี หาว่าเคยท้องมาแล้ว หรือมีคนอื่น ท้องกับใครกันแน่
ส่วนเรื่องที่เลิกกันคือเรื่องจริง ตั้งแต่ปลายปี แต่ทุกอย่างปกติยังคงปฏิบัติต่อกันเหมือนเดิม และเพิ่งไปเที่ยวสงกรานต์ด้วยกัน น้องมิ้งรู้ตัวเองว่าท้อง วันที่ 27 พ.ค. ความรู้สึกคือไม่โอเคด้วยกันทั้งคู่ ทำอะไรไม่ถูกกันเลย เบลอไปหมด ซึ่งทั้งคู่บรรลุนิติภาวะแล้ว น้องมิ้งจึงปรึกษากับอาที่เป็นทนาย ตามกฎหมาย มิ้ง กับ ตัน มีสิทธิ์ตัดสินใจร่วมกัน ซึ่งฝั่งพ่อแม่เขา หรือพ่อแม่ของมิ้ง ต้องให้เราตัดสินกันร่วมกัน ทางค่ายไม่เกี่ยว แม้กระทั่งพ่อแม่ของกัปตันยังพูดกับพ่อแม่มิ้งว่า ตอนนี้ดูแลตัวเองไปก่อน ไม่ต้องติดต่อกัปตันอีก ถ้าตรวจดีเอ็นเอแล้วเป็นหลานของเขาจริง ก็ไม่ใช่ว่าจะรับผิดชอบ
ซึ่งน้องมิ้งขอปรึกษากับตันอีกที ส่วนตันเองก็ช็อกและเอ๋อเอามากๆ ร้องไห้และขอโทษตลอดเวลา ความรับผิดชอบนั้นกัปตันมีอยู่เต็มตัว มีแต่ทางค่ายกับพ่อแม่ตันต่างหากที่ไม่โอเค โดยก่อนหน้านั้น 4 วัน น้องมิ้งเข้าไปคุยกับทางค่าย ก่อนตัดสินใจลงภาพ ทางค่ายแจงว่าจะให้กัปตันพูดตามความจริง แต่อยากให้มิ้งไปตรวจเลือด-อัลตราซาวนด์พร้อมกับทางค่าย ซึ่งมิ้งอยากคุยกับกัปตันก่อน เพราะติดต่อไม่ได้เลยหลังรู้ผลตรวจ ทั้งคู่จะได้ปรึกษากันเองไม่ต้องผ่านคนอื่นๆ
แต่ทางฝั่งเขาบังคับให้มิ้งต้องตรวจโรงพยาบาลนี้เท่านั้น ต้องทำตามที่เขาบอกทุกอย่าง มิ้งก็เลยโมโห ไม่เข้าใจว่าทำไมมิ้งต้องทำตามที่เขาสั่งทุกอย่าง ในเมื่อสิ่งที่มิ้งขอไป แค่อย่างเดียว คือ ขอเจอกับกัปตัน คุยกันส่วนตัว โดยที่ไม่มีผู้ใหญ่มานั่งบีบเขา ทำไมไม่มีใครให้มิ้งได้ เพราะถ้าต้องนั่งคุยโดยมีผู้ใหญ่นั่งบีบ มันมีเรื่องที่ไม่กล้าพูด อีกอย่างคือหลังจากที่กัปตันให้สัมภาษณ์แบบนั้นออกไป มิ้งไม่เข้าใจว่าทำไมทางค่ายทำกันขนาดนี้ มันแสดงถึงฝ่ายมิ้งมีคนอื่นแล้วมาโบ้ยลูกในท้องให้กัปตัน พอมิ้งโพสต์แบบนั้นไปทางค่ายก็ไม่พอใจ เพราะติดต่อกัปตันไม่ได้ไงมิ้งถึงต้องทำแบบนี้ ทางค่ายเขาก็ขอโทษมาในจุดนี้ แต่เขายังบอกว่าอย่าให้สัมภาษณ์นะ ซึ่งมิ้งก็จะไม่สัมภาษณ์
แต่วันนี้กับสิ่งที่เขาคุยกับแม่มิ้ง ไม่โอเคมาก คือแม่เริ่มโมโหว่าทำไมต้องให้ลูกเขามาทำตามคำสั่งเขาทุกอย่าง โดยที่มิ้งขอแค่เรื่องเดียวคือ ขอคุยกับ กัปตัน เป็นการส่วนตัวว่าตกลงจะเอายังไง มันจะได้ไม่เป็นเรื่องใหญ่ ทำไมทำให้ไม่ได้ ทางพวกเขาบอกว่ายังไงเขาก็ไม่ให้เจอแบบไม่มีเหตุผลที่ควร อีกอย่างหลังจากวันงานรางวัล มิ้งเองยังไม่ได้คุยกับกัปตันเลย เพราะแม่กัปตันยึดโทรศัพท์ไป ขนาดพ่อมิ้งบอกว่าลูกผู้ชายเป็นคนทำก็ต้องออกมาสิ แต่ก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้น ทั้งที่ กัปตัน เป็นคนพูดเอง ต่อหน้าพ่อแม่เขา ผู้จัดการค่ายเขา 2 คน แล้วก็แม่มิ้ง แม่มิ้งถามเขาว่า แน่ใจมั้ยว่าลูกในท้องมิ้งคือลูกเขา กัปตันพูดเลยว่า กัปตันมั่นใจ แต่มาจนวันนี้มิ้งก็ยังไม่ได้คุยกับกัปตัน
ฝ่ายมิ้งรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว ทำไมต้องมานั่งทำตามทุกอย่างที่อีกฝ่ายบอก ไปหาที่บ้านก็ไปเอง ไปหาที่ค่ายก็ไปเอง ทำทุกอย่างด้วยตัวเอง แล้วยังต้องการอะไรกันอีก ห้ามซะทุกอย่าง ฝ่ายนั้นควรให้สิทธิ์มิ้งบ้าง น้องมิ้งต้องการปรึกษากันสองคนเท่านั้นยังให้ไม่ได้ ซึ่งหลังจากกัปตันพูดไปแบบนั้น แม่ของตันโทร.หาแม่มิ้ง แต่ว่าแม่มิ้งไม่อยากคุยด้วยแล้ว ก็เลยคุยกับผู้จัดการส่วนตัวเขาแทน เพราะว่าแม่มิ้งคุยกับแม่เขาไม่รู้เรื่อง แม่เขาเอาแต่ลูกเขาอย่างเดียว
ทั้งนี้ทั้งนั้น หลังจากทราบผล วันที่ 27 กัปตันกับมิ้งก็มีข้อตกลงกัน แต่มิ้งไม่ยินยอมในข้อเสนอนั้น มิ้งจึงโทร.ไปบอกทางค่ายว่า มิ้งจะไม่ทำสิ่งที่ตกลง แต่ก็ไม่ได้รับการติดต่ออะไรกลับมา เขาจะให้มิ้งติดต่อกลับไปฝ่ายเดียว พอมิ้งบอกอะไรไป เขาก็บอกไม่ได้ เขาจะเอาแค่ของเขา มิ้งก็โมโหมาก ทำไมไม่ปล่อยให้คนสองคนคุยกัน น้องมิ้งบอกว่า กัปตันเป็นคนดี คบกันมานาน รู้ว่าเขาเป็นคนดีจริงๆ รู้ว่าเวลาคุยกัน 2 คนเขาจะพูดอะไร พ่อแม่บอกรู้จักลูกตัวเองดี แต่มิ้งมองในส่วนที่เป็นแฟนมันไม่เหมือนกัน กับแฟนเขาพูดแบบนี้ กับพ่อแม่เขาพูดแบบนี้ ไม่ได้เป็นคนแบบนี้ มันไม่เหมือนกัน วันนั้นมิ้งรู้สึกว่า กัปตันอึดอัดมาก ที่รู้แล้วผู้ใหญ่ทุกคนมารุมกดดัน เขานั่งกำมือร้องไห้อย่างเดียว
มิ้งเลยพูดขึ้นมาว่า 'กัปตันอยากคุยกับมิ้งสองคนมั้ย' กัปตันก็รีบพยักหน้า และเดินเข้าห้อง ก็เลยได้คุยกัน แต่ก็ยังไม่ได้อะไร เพราะผู้ใหญ่ก็จับจ้อง แล้วสุดท้ายพ่อแม่เขาก็ไม่ให้คุยกับมิ้ง ซึ่งยังแอบติดต่อกันผ่านไลน์ แต่แม่เขามาเห็นว่าเขาแอบตอบไลน์มิ้ง เลยโดนยึดโทรศัพท์ เราคบกันมา 1 ตัดสินใจเลิกกันตอนสิ้นปี แต่ยังทำทุกอย่างเหมือนเคย ถามว่าเลิกทำไม ยังหาเหตุผลไม่ได้เลย อาจเป็นเวลาที่ไม่ตรงกัน นิสัยที่เปลี่ยนไป พอสถานะเปลี่ยนไปมิ้งก็โอเคขึ้น ดีกว่าตอนเป็นแฟนกันอีก ไม่ต้องคาดหวังอะไรต่อกัน
ตอนนี้น้องมิ้งประมาณเด็กในท้องก็น่าจะประมาณเดือนครึ่ง ยังไม่มีอาการแพ้ให้เห็น มีหน้ามืดบ้าง คงเป็นเพราะเครียดหรืออะไรยังไม่ทราบ กลางคืนนอนไม่หลับเพราะถูกกดดันจากอีกฝ่าย อนาคตก็คงเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว เพราะฝ่ายชายหากจะรับผิดชอบอะไร คงส่งเสียให้แต่เรื่องการเงิน และเรื่องที่จะกลับไปคบกันใหม่คงไม่มีทาง
ทางค่ายอยากให้ตรวจอัลตราซาวนด์ และตรวจเลือด แต่น้องมิ้งต้องได้เจอกัปตัน และคุยกันส่วนตัวสองคน เราต้องคุยกันก่อน อย่าคิดว่า มิ้งไม่ห่วงอนาคตกัปตัน ไม่ต้องกลัว มิ้งห่วงอนาคตเขา แต่มิ้งก็ห่วงอนาคตตัวเองเหมือนกัน มิ้งเองก็ยังถามทาง "นาดาว" ว่ากัปตันเป็นไงบ้าง เครียดหรือเปล่า แต่สุดท้าย มิ้งว่าถึงเวลาที่ต้องห่วงตัวเองแล้ว
ไอจีคู่
แม่กัปตันพูดกับแม่น้องมิ้ง ว่า ระวังไว้หน่อยก็ดี ฝั่งครอบครัวเขามีโรคทางพันธุกรรมเยอะ ดาวน์ซินโดรมก็มี มิ้งก็รู้สึกว่าพูดแบบนี้คืออะไร เป็นห่วงหรือยังไง ไม่อยากมองเขาในแง่ร้าย ส่วนเรื่องที่ตัดสินใจเปิดสาธารณะไอจีคู่ปล่อยภาพจนเป็นข่าว เพราะว่าหาทางติดต่อกัปตันไม่ได้แล้วจริงๆ น้องมิ้งคิดว่าถ้าเปิดขึ้นมา กัปตันต้องติดต่อมาบ้าง มิ้งต้องเลือกทางแบบนี้แล้ว แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ติดต่อมา เขาเลือกที่จะหนีปัญหา มิ้งรู้แหละว่าแฟนมิ้งเป็นคนหนีปัญหา แต่มิ้งจะบอกว่าปัญหานี้มันหนีไม่ได้
การให้พ่อแม่หรือทางผู้ใหญ่มาคุยแทนมันไม่ใช่ เราควรคุยกันสองคน มาวันนี้ค่ายบอกว่า การที่จะคุยกันสองคนมันเป็นเรื่องเก่าไปแล้ว มันเป็นเรื่องก่อนสัมภาษณ์ ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว แต่มิ้งขอยืนยันคำเดิม มิ้งต้องการสิ่งเดิมคือคุยกับกัปตันสองคน ถ้าเขายังยืนยันไม่ให้เจอ มิ้งจะไปตรวจเอง ไม่ไปโรงพยาบาลที่เขาสั่งให้ไปตรวจ มิ้งจะฝากครรภ์ของมิ้งเอง อยากคุยกับกัปตันว่า มาช่วยกันคิดสิว่าจะเอายังไงกันต่อดี ให้เซฟด้วยกันทั้งคู่ แบบที่ไม่ต้องโดนด่ากันทั้งสองฝ่ายแบบนี้ แบบที่ไม่ต้องให้ผู้ใหญ่มาพูดแทน
หนทางสุดท้ายที่เป็นทางออกคือ การได้พูดคุยกับกัปตัน แต่ไม่คิดเรื่องแต่งงาน เพราะว่าพ่อแม่มิ้งเขาไม่เอา และยังไม่ได้วางแผนเรื่องการเลี้ยงลูกเลย ซึ่งตอนนี้มันจะปล่อยไปไม่ได้แล้ว มีอีกหนึ่งชีวิตเข้ามาในท้อง มันต้องปรึกษากันว่าจะเอายังไง แม่มิ้งบอกว่าจริงๆ ค่ายเขาไม่ต้องเข้ามายุ่งขนาดนี้ก็ได้ ค่ายคือคนนอก
อยากบอกกัปตัน ว่า ทำทุกอย่างให้มันเป็นธรรม แฟร์ๆ ทั้งสองฝ่าย ทางเขาต้องการอะไรมิ้งทำให้ได้ แต่ถ้ามิ้งต้องการอะไร เขาก็ต้องทำให้เหมือนกัน มิ้งทำให้เขามามากแล้ว ยอมมาเยอะแล้ว ตอนนี้มิ้งต้องการในสิ่งที่มิ้งต้องการ ที่มิ้งต้องการคือได้คุยกับ กัปตัน โดยตรง ไม่ใช่ผ่านคนอื่น มันไม่ใช่เรื่องยากเลย แค่ให้กัปตันมาคุยกัน ปรึกษากันเท่านั้นพอ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
หลุดแชตลับ "กัปตัน" ป้องคนรักไม่อยากให้ใครด่า