เจ้าอาวาสวัดดังหัวหินโพสต์เดือดหลัง ผอ.พศ.ขอข้อมูลวัดที่มีการวางระบบเกี่ยวกับการจัดการด้านการเงินและบัญชีของวัด
เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่เฟซบุ๊กชื่อ “แดง จิตต์วารินทร์” ของพระครูบุญญาภิราม หรือ พระอาจารย์แดง เจ้าอาวาสวัดถ้ำเขาเต่า อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กภายหลัง พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เรื่อง ขอข้อมูลวัดที่มีการวางระบบเกี่ยวกับการจัดการด้านการเงินและบัญชีของวัด เรียน ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดทุกจังหวัด (พศจ.) ว่า “สมัยบวชใหม่ๆออกจาริกไปอยู่วัดป่าห่างไกลผู้คนปีหนึ่งจะมีงานสวดไม่เกินสามครั้งต้องเดินไปสวดมาติกาบังสุกุล 6 กิโลไปกลับ 12 กิโล สวดองค์เดียว โยมถวาย 20 บาท ก็เอามาซื้อโกโก้ตรานางพยาบาลเก็บเอาไว้เผื่อหมู่คณะเพื่อนพระมาหาจะได้มีเลี้ยงท่าน ปัจจุบันวัดตามบ้านนอกไกลความเจริญก็ยังมี จะมีกิจนิมนต์ปีหนึ่งซักกี่ครั้งยังจะให้ไปยึดของท่านมาเป็นของสงฆ์อีก แล้วเวลาท่านไปไหนมาไหน มีประชุมสงฆ์ไปเติมน้ำมันรถ เข้าไปจอดในปั้นแล้วบอกว่าขอบิณฑบาตน้ำมันเต็มถังเขาจะให้ไหม ท่านเอาสมองส่วนไหมมาคิดมาออกกฎต่างๆให้ใช้พระเนี่ย และถ้าพระออกกฎหมาย ห้ามท่านรับเงินเดือนจะได้ไหมล่ะท่าน ห้ามพระรับปัจจัย แต่ออกกฎหมาย พระขึ้นรถจ่ายครึ่งราคา แล้วพระจะเอาที่ไหนจ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ ใครออกให้ล่ะ พระสวดมนต์ปีละสามสี่ครั้ง โยมถวายงานละ 200 สี่ครั้ง 800 บาทต้องเสียภาษีเท่าไร ช่วยแจงให้ฟังหน่อย
“อยู่ยากนักสึกๆกันทั้งประเทศเลยดีไหม ใครเอาด้วยยกมือ วัดบางวัดสร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของพระและศรัทธาของญาติโยมบริจาคมา ไม่เคยขอและไม่มีปัจจัยสนับสนุนจากภาครัฐเลยซักแดงเดียว ต่างจากศาสนาอื่นที่ได้รับทุกบาททุกสตางค์ นี้คืออะไรกันจะให้เราคิดไหมว่าคุณกำลังทำลายพุทธศาสนา เพื่อสร้างอีกศาสนา มันบ้าเกินกว่าจะรับกันได้แล้วจ้า ท่านตกลงเดี๋ยวนี้สํานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเขามีหน้าที่ออกกฎหมายบังคับพระกันแล้วหรือ ไม่ใช่มีไว้สนองงานพระแล้วหรือ ปัจจุบันวัดตามบ้านนอกจะหาพระมาบวชก็แสนยากอยู่แล้ว ยังจะออกกฎมาบังคับให้พระทำนั้นนี้อีก ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า พระสวดฉันเพล โยมถวายปัจจัยให้ วัดจัดงานต่างๆในวัดมีรายได้ต้องจ่ายภาษี พระลูกวัดไม่ให้รับปัจจัย ถ้ารับให้เอาเข้าบัญชีวัด ห้ามพระเรียนทางโลกและยังมีแผนที่เตรียมไว้ที่จะนำมาเพื่อใช้ปกครองคณะสงฆ์ทั้งประเทศโดยยุบเจ้าคณะตำบล ยุบเจ้าคณะอำเภอ ยุบเจ้าคณะจังหวัดแล้วตั้งคณะปกครองสงฆ์จังหวัด คณะปกครองสงฆ์อำเภอที่มาจากรัฐบาลมาจากฆราวาสที่รักษาศีล 5 ยังไม่ได้มาปกครองแล้วลองคิดดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น”พระอาจารย์แดง ระบุ
ด้านหลวงพ่อเกษตร ปคุโณ เจ้าอาวาสวัดเขาหินเทิน ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้แจ้งให้ไวยาวัจกรเตรียมเอกสารรายรับ รายจ่าย รายงานให้ พศจ.ทราบ ตามแนวทางที่ขอความร่วมมือเพื่อให้เป็นไปตามมติมหาเถรสมาคมเนื่องจากวัดเขาหินเทินมีพระจำพรรษาเพียงรูปเดียวจึงไม่มีปัญหาจากการรับเงินบริจาคจากญาติโยม ส่วนค่านิตยภัตหรือ "เงินเดือนพระ" ที่ได้รับโอนรายเดือนเกือบ 2,000 บาท ไม่เคยนำไปใช้จ่ายแต่อย่างใดเนื่องจากอาตมาฉันอาหารเพลเพียงมื้อเดียว ไม่ดูโทรทัศน์ ไม่ฟังวิทยุ ไม่มีเฟซบุ๊ก ไม่เล่นไลน์ ส่วนโทรศัพท์มือถือจะเปิดใช้เฉพาะมีกิจจำเป็น นอกจากนี้ที่วัดไม่มีตู้บริจาค ไม่มีกระบอกเซียมซี ไม่ผลิตวัตถุมงคลเพื่อจำหน่ายหารายได้เข้าวัด หลังจากเดินธุดงค์มาจำพรรษาภายในถ้ำวัดเขาหินเทินตั้งแต่เดือนเม.ย. 2526 จากนั้นได้พัฒนากระทั่งกรมป่าไม้อนุญาตให้ใช้ที่ดินเพื่อพัฒนาศาสนสถาน ได้แจ้งให้ญาติโยมไม่ต้องนำจีวรมาถวายเพราะอาตมาไม่ได้ใช้จีวรใหม่ ยกเว้นจะสวมใส่เฉพาะการเดินทางไปประชุมร่วมกับคณะสงฆ์ หากจำวัดตามปกติประชาชนทั่วไปจะเห็นจีวรที่อาตมาสวมใส่มีการใช้ผ้าเก่าหรือบังสุกุลเท่านั้นขอให้มองเป็นเรื่องปกติ
ขณะที่นายวิวัฒน์ วันกุมภา ผอ.พศจ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ทำบันทึกรายงาน พศ.ว่าไม่มีข้อมูลจากวัดในจังหวัดเสนอรายงานถึง พศจ. กรณีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายตามมติมหาเถรสมาคม แต่หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจสอบการทำบัญชีรายรับจ่ายรวมถึงวัดบางแห่งพระภิกษุเคร่งครัดในพระธรรมวินัยไม่ถือเงินสดและรายได้ที่เข้าบัญชีส่วนกลางของวัดเป็นอย่างไรซึ่งยอมรับว่าบางวัดมีพระภิกษุสูงอายุจำวัด 2 - 3 รูปอยู่ในถิ่นทุรกันดารจะมีปัญหาในการดำเนินการพอสมควรเพราะมีความจำเป็นต้องถือเงินสดเพื่อใช้จ่าย ขณะที่เจตนาของ พศ.แจ้งให้ตรวจสอบเนื่องจากสังคมต้องการรับรู้ว่าวัดที่รับเงินบริจาคนำไปใช้จ่ายเรื่องใดและใช้ตามวัตถุประสงค์ถูกต้องหรือไม่ตามเจตนาในการทำบุญของพุทธศาสนิกชน สำหรับการแต่งตั้งไวยาวัจกรเพื่อดำเนินการเรื่องการบริหารจัดการทรัพย์สินยอมรับว่าเป็นอำนาจของเจ้าอาวาสวัด
