พ่อแม่ของ “ดนุเดช” พอใจประหารชีวิตนักโทษเด็ดขาดชาย “ธีรศักดิ์ หลงจิ” ฆ่าลูกอย่างโหดเหี้ยม ฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ศาล เชื่อมั่นกระบวนการยุติธรรมทำได้จริง เผย 6 ปีที่ผ่านมาความรู้สึกยังเหมือนเดิม ใช้ชีวิตไปวัน ๆ เป็น 6 ที่ผ่านมาปีที่ทรมานที่สุด ไม่มีกะจิตกะใจทำอะไร ฝากตำรวจล่าคนร้ายที่เหลือมาดำเนินคดี
จากกรณีกรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการบังคับโทษตามคำพิพากษาของศาลด้วยการประหารชีวิต นักโทษเด็ดขาดชายธีรศักดิ์ หลงจิ อายุ 26 ปี ผู้ต้องขังในคดีฆ่าผู้อื่นอย่างทารุณโหดร้ายเพื่อชิงทรัพย์ เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2555 เหตุเกิดที่ จ.ตรัง โดยนักโทษเด็ดขาดชายธีรศักดิ์ ได้ทำร้ายและบังคับให้เอาทรัพย์สิน คือ โทรศัพท์มือถือ และกระเป๋าสตางค์ รวมทั้งใช้มีดแทงนายดนุเดช สุขมาก รวม 24 แผล เป็นเหตุให้เหยื่อถึงแก่ความตาย ศาลชั้นต้น พิพากษาประหารชีวิต ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกาพิพากษายืน เป็นผลให้คดีถึงที่สุด ซึ่งมีการประหารชีวิตด้วยวิธีการฉีดยาหรือสารพิษให้ตายไปเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ผู้สื่อข่าว จ.ตรัง เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 90 หมู่ที่ 3 ต.นาโต๊ะหมิง อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นบ้านของ นายสุนทร และนางยุคล สุขมาก อายุ 46 และ 47 ปี พ่อและแม่ของนายดนุเดช ซึ่งมีสมาชิกครอบครัว 5 คน ทั้งนี้นายสุนทร และ นางยุคล ได้นำเอกสารหลักฐานการร้องทุกข์ เอกสารข่าวต่าง ๆมาห้สื่อมวลชนดู หลังจากที่เก็บเอกสารดังกล่าวไว้เป็นเวลานานกว่า 6 ปี
นายสุนทร กล่าวว่า ขอบคุณสำหรับศาลที่ให้ความเป็นธรรม ทำให้เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม กว่า 6 ปีที่ผ่านมานอนก็ไม่สบายใจ
ด้านนางยุคล กล่าวว่า สึกดีใจหลังทราบข่าวผ่านสื่อมวลชนว่า คนร้ายถูกศาลพิพากษาประหารชีวิต และดีใจที่คำตัดสินแบบนี้ รู้สึกว่าได้ความยุติธรรมกลับมาให้ทั้งครอบครัว ตนและครอบครัว ฝากขอบคุณ ทางเจ้าหน้าที่ศาลที่ได้ตัดสินแบบนี้ ให้ประหารชีวิต และในตอนนี้ทางครอบครัวเชื่อในกระบวนการยุติธรรมสามารถทำได้จริง เชื่อมั่น 100% แล้ว ความเชื่อมั่นมีมาก ซึ่งความรู้สึกของตนเอง ที่เป็นพ่อและแม่ในตอนนี้ยังรู้สึกเหมือนเดิม
“6 ปีที่ผ่านมาความรู้สึกยังเหมือนเดิม ใช้ชีวิตเรื่อยๆไปในแต่ละวัน จะกินจะนอนในแต่ละวันก็ไม่สบายใจเป็น 6 ปีที่ทรมานที่สุด ตั้งแต่ที่น้องเสีย ไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรได้เลย ก่อนที่น้องจะเสียน้องจะช่วย แบ่งเบาภาระทุกอย่าง ก่อนจะไปโรงเรียน น้องก็จะช่วยกรีดยางพาราให้ก่อนไปโรงเรียนทุกครั้ง แม่แทบจะไม่ต้องทำเลยน้องจะช่วยพ่อกับแม่ตลอด แล้วก็ไปโรงเรียนทุกวันไม่เคยขาดเรียน ไม่เคยมีประวัติที่ไม่ดี เป็นนักกีฬาดีเด่นของโรงเรียน ตอนนี้ทางครอบครัวก็ได้ทำอาชีพรับซื้อน้ำยางด้วย แต่ก็ไม่มีกำลังใจจะทำซึ่งความเป็นอยู่ในปัจจุบัน ต้องอยู่ในสภาพที่รู้สึกแย่ ไม่มีแรงต่อสู้ ที่ทำไปแต่ละวันต้องทำไปเพราะความรับผิดชอบที่ต้องมี” นางยุคล กล่าว
นางยุคล กล่าวอีกว่า อยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ให้ช่วยดำเนินคดีคนที่เหลือ เพราะในหลักฐานไม่ใช่คนเดียวที่จะทำ อยากให้ดำเนินคดีต่อให้จนจบ ขอความเป็นธรรมแก่ครอบครัวด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฉีดยาประหารชีวิต “ธีรศักดิ์ หลงจิ”
