พ่อแม่ของ “จ.อ.สมาน” ร่ำให้จะขาดใจ รับไม่ได้ หลังลูกชายเสียชีวิตขณะปฏิบัติภารกิจช่วยทีมหมูป่าออกจากถ้ำ
เมื่อเวลา 11.10 น. วันที่ 6 ก.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 44 หมู่ที่ 3 บ้านหนองคู ต.เมืองหงส์ อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นบ้านของ จ.อ.สมาน กุนัน อายุ 38 ปี อดีตหน่วยซีล ที่เสียชีวิตจากการเป็นจิตอาสาเข้าไปช่วยเหลือ ทีมหมูป่าอะคาดามีแม่สาย 13 ชีวิตที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ก่อนเป็นลมหมดสติขณะกลับออกมา ทีมงานรีบนำส่ง รพ.และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้พบกับ นางสำราญ กุนัน อายุ 64 ปี แม่ของ จ.อ.สมาน ร้องให้ด้วยความเสียใจ โดยมีเจ้าหน้าที่ชุด เยียวยาจิตใจ จาก รพ.จตุรพักตรพิมาน พัฒนาสังคมจังหวัด ตำรวจ นายอำเภอ และพี่น้องประชาชนช่วยกันปลอบใจ และให้กำลังใจ โดยนางสำราญ กล่าวทั้งน้ำตาว่า รับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น และไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดกับครอบครัว
"ช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คาดคิดว่าจะสูญเสียบุตรชาย ซึ่งตามปกติจะกลับมาบ้านทุกเดือน เพื่อมาดูแลกิจการฟาร์มไก่งวงที่เลี้ยงไว้ ก่อนบุตรชายเสียชีวิต เมื่อวานนี้เวลา 07.00 น. ได้โทรศัพท์มาหาบอกว่า กำลังทำหน้าที่ในการช่วยเหลือเด็ก 13 คนที่ติดถ้ำ โดยบอกว่า จะกลับมาบ้านตามปกติ ที่เคยกลับเดือนละครั้ง ภายในวันที่ 15 ก.ค.ที่จะถึงนี้ แล้วจะกลับมาขายไก่งวง ที่ครบกำหนดขาย แล้วจะกลับมาจัดเลี้ยงกินข้าวร่วมกันกับทุกคน ก่อนจะเดินทางกลับไปทำงานรักษาความสงบเรียบร้อยที่สนามบินสุวรรณภูมิ พร้อมกับภรรยา นอกจากนี้ยังบอกว่า ได้โอนเงินมาให้แม่ 9,000 บาท เพื่อซื้ออาหารไก่ก่อน หลังจากเสร็จภาระกิจแล้วจะรีบกลับมา"นางสำราญ กล่าวทั้งน้ำตา
ด้านนายวิชัย กุนัน อายุ 62ปี ผู้เป็นพ่อ บอกว่า รู้ข่าวตอน 10.00 น.รู้สึกเสียใจมาก ผู้เสียชีวิตเป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว ปกติ จ.อ.สมานเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรง ไม่เที่ยว ไม่ดื่ม รักพ่อ แม่ และเป็นนักกีฬาไตรกีฬา ซึ่งล่าเหรียญรางวัลถ้วยรางวัลมามากต่อมาก ก่อนเกิดเหตุ ลูกชายได้โทรมาบอกว่า ได้อาสาเดินทางไปกับคณะเพื่อนร่วมงานเข้าไปช่วยเหลือทีมหมูป่าอะคาเดมีที่ถ้ำหลวง จ. เชียงราย ตนก็ได้บอกลูกชายไปว่า พ่อแม่เป็นห่วงไม่อยากให้เข้าไปในถ้ำกลัวได้รับอันตราย ซึ่งลูกก็รับปากว่าครับ ก่อนจะมาทราบข่าวว่าหลังจากที่ปฏิบัติภารกิจ ตอนขากลับออกจากถ้ำ ลูกหมดสติ ถูกหามส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
นายวิชัย เล่าอีกว่า ก่อนหน้านี้ จ.อ.สมาน เคยรับราชการสังกัดกองทัพเรือ ผ่านการอบรม หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ จนสำเร็จหลักสูตรนักทำลายใต้น้ำจู่โจมชั้นสูง รุ่นที่ 30 เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2558 ก่อนที่จะลาออกไป สมัครงาน เป็นเจ้าหน้าที่ลาดตะเวนระงับเหตุ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) ฝ่าย รปภ. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และได้แต่งงานกับแฟนสาวซึ่งทำงานอยู่ที่เดียวกัน แต่ยังไม่มีบุตรด้วยกัน
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดีใจ คือลูกได้อาสาไปช่วยเหลือคน แต่เสียใจที่ต้องมาเสียลูก ไม่อยากโทษใครทั้งนั้นรวมทั้งทีมหมูป่า สิ่งไหนจะเกิดมันก็ต้องเกิด การสูญเสียลูกชายถือว่าเป็นเสาหลักของครอบครัวผมยังคิดอะไรไม่ถูก ได้แต่เตรียมจัดงานศพให้เสร็จสิ้นก่อนเท่านั้น และอยากให้หน่วยงานหรือผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวด้วย เพราะก่อนเหตุเลวร้ายเกิดขึ้นลูกกำลังก่อร่างสร้างตัว วางแผนชีวิตไว้เมื่อเกษียณแล้ว ก็จะมาอยู่กับพ่อ แม่ ประกอบอาชีพการเกษตรหารายได้เลี้ยงดูพ่อแม่อยู่ที่บ้านเกิด”คุณพ่อของ จ.อ.สมาน กล่าว
ด้านนางสุขใจ บุญเหลี่ยม น้าของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า คาดไม่ถึงกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น ก่อนเกิดเหตุ ได้รับโทรศัพท์แจ้งจากหลานชายว่าได้ลางาน เดินทางไปตั้งแต่วันศุกร์ เพื่อที่จะไปช่วยชีวิตเด็กที่ติดในถ้ำ ไม่ให้ตนเองบอกแม่ และยืนยันว่า จะรีบกลับมาทันทีที่เสร็จภารกิจ ไม่คิดว่าจะเป็นการคุยกันครั้งสุดท้าย แล้วจะไม่ได้พบกันอีก รู้สึกเสียใจ แต่ก็ภาคภูมิใจในความเสียสละของหลานชาย ที่ชอบช่วยคน และบำเพ็ญประโยชน์เพื่อผู้อื่น มาโดยตลอด ทั้งนี้หลังทราบว่าหลานชายเสียชีวิต ก็ได้ให้ญาติที่อยู่กรุงเทพฯ และภรรยา เดินทางไปรับศพ เพื่อนำกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้าน โดยยังไม่ได้กำหนดว่า จะตั้งศพบำเพ็ญกุศลกี่วัน ทั้งนี้จะมีการกำหนดการอีกครั้ง หลังจากรับศพมาถึงบ้านแล้ว จึงจะมีการวางแผน ตกลงกันต่อไป