"ลีน่า จัง" แจ้งความเอาผิดโค้ชเอก ทีมฟุตบอลหมูป่า พาเด็กเข้าถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน โดยไม่รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ ระบุว่า อยากให้มีมาตรฐานเดียวกันกับที่ตนเองโดนตั้งข้อหาบุกรุกถ้ำเช่นกัน
วันที่ 19 ก.ค. 2561 "นางลีนา จังจรรจา" เดินทางมาที่กองปราบปรามเพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ "นายเอกพล จันทะวงษ์" หรือ "โค้ชเอก" ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี กรณีนำเด็กและเยาวชนเข้าถ้ำหลวงขุนน้ำ-นางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางเจ้าหน้าที่ หลังจากเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ยืนยันว่ากลุ่มเด็กๆ เข้าไปโดยไม่ได้ขออนุญาต จึงอยากให้ดำเนินคดีเป็นมาตรฐานเดียวกัน กับที่ตนเองถูกกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช แจ้งความดำเนินคดี ที่เข้าไปเที่ยวถ้ำพระยานคร ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทั้งที่มีการซื้อตั๋วอย่างถูกต้อง โดยมีการแจ้งข้อหาว่าไม่มีการขออนุญาตในการถ่ายทำ ประกอบกับมีการส่งเสียงดังอื้อฉาว พิจารณาแล้วกรณีดังกล่าวเป็นการกระทำผิดตาม พรบ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มาตรา 16(13) มาตรา 16(17) มาตรา 18 และระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติฯ ว่าด้วยการเข้าไปถ่ายทำภาพยนตร์ในอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2552
ลีน่าจัง ได้อ้างว่า ตนเองได้รับการประสานจากชาวบ้านในละแวกดังกล่าวว่า การท่องเที่ยวถ้ำพระยานคร ซบเซา จึงอยากไปโปรโมทการท่องเที่ยว เมื่อไปถึงก็พบกลุ่มเด็กที่มากับครอบครัวที่บอกว่าอยากว่าอยากดัง จึงชักชวนให้มีการเต้นและร้องเพลง และนำคลิปเผยแพร่ผ่านเพจส่วนตัว โดยไม่ได้มีเจตนาล้อเลียนทีมหมูป่า อะคาเดมี เพราะไม่ได้มีการพูดถึงชื่อใคร ซึ่งคลิปที่มีการถ่ายทำไม่ได้มีคลิปนี้คลิปเดียว แต่ยังมีการถวายพระพรด้วย
ทั้งนี้ ลีน่าจัง ยืนยันว่าจะให้ตำรวจดำเนินคดีกับโค้ชเอกให้ได้ ที่เข้าไปภายในถ้ำหลวง เพราะทำให้รัฐบาลต้องใช้งบประมาณกว่า 500 ล้านบาท ในการเข้าไปช่วยเหลือกลุ่มเด็กๆออกมา ทำให้ทรัพยากรทางธรรมชาติต้องเสียหาย