ระทมปมชีวิต!! "ปวีณา ชารีฟสกุล" ไม่เคยเจอพ่อนาน 20 ปี (มีคลิป)

2018-07-29 12:50:51

ระทมปมชีวิต!! "ปวีณา ชารีฟสกุล" ไม่เคยเจอพ่อนาน 20 ปี (มีคลิป)

Advertisement

หลากหลายบทบาทที่คุณผู้ชมได้เห็นเธอผ่านทางหน้าจอทีวีอยู่ทุกวันนี้ จนกลายเป็นไอดอลของดาวรุ่นใหม่ๆ ที่อยากสดใสอยู่ในวงการ สำหรับ "เจี๊ยบ ปวีณา ชารีฟสกุล" ที่ตอนนี้ได้รับฉายาสุดพิเศษเป็นแม่ทุกสถาบัน เพราะไม่ว่าละครเรื่องไหนที่เจี๊ยบรับเล่นเป็นต้องปังไปทุกเรื่องเลยทีเดียว 

คลิปสัมภาษณ์ เจี๊ยบ ปวีณา 





ล่าสุด เจ้าตัวได้มาเปิดใจอีกแง่มุมของชีวิตที่ไม่มีใครรู้ผ่านทางรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง One31 ที่มีนีโน่ เมทนี และหนิง ปณิตา เป็นพิธีกร

ตอนนี้ได้รับฉายาเป็นแม่ทุกสถาบัน


ใช่ค่ะ มีคนเค้ามอบตำแหน่งมาให้ ก็โอเคนะคะ ได้เป็นแม่พระเอก นางเอกเกือบทุกคนเลย



ถ้าย้อนกลับไปตอนเข้าวงการแรกๆ พี่เจี๊ยบรับบทเป็นนางเอกหรือตัวร้ายคะ ?
นางเอกก็เป็น นางเอกร้ายก็มี



พี่เจี๊ยบรับบทแม่มาแทบทุกสถาบัน ทำไมถึงตัดสินใจรับ เพราะบางคนไม่กล้ารับเพราะคนอื่นจะมองว่าแก่ ?
ไม่หรอก ถ้าเกิดไม่ได้อยู่ในจอ พี่ก็จะใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ แล้วกางเกงยีนส์ขาดด้วย



นี่จะบอกให้ฟังเรื่องกางเกงยีนส์ขาดปวีณาใส่คนแรกนะ
ใช่ๆ ตอนร้องเพลง จริงๆ เป็นคนชอบใส่กางเกงยีนส์



เล่นบทแม่จำได้ไหมว่าเล่นมากี่เรื่อง ?
ไม่เคยนับนะถามว่าถึงร้อยเรื่องไม่ ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง



เล่นมาหลายเรื่องแล้ว แต่หน้าพี่ไม่เปลี่ยนเลย น้องอยากถามว่าศัลยกรรมส่วนไหนบ้างไหมคะ ?
ไม่ๆ พี่ไม่ศัลยกรรมเลย กลัวเข็ม แต่จะมีประเภทกินวิตามิน ทาครีมบำรุงผิวพรรณ



คนเราถ้าอยู่ในวงการมาได้ขนาดนี้มันต้องมีกฎเหล็กในชีวิต
แน่นอน กฎเหล็กข้อแรกสุดเลยคือเรื่องตรงต่อเวลา ส่วนอันอื่นก็คือทำการบ้าน ถ้ามีบทประพันธ์เราก็ไปซื้อมาอ่าน พี่จะได้เข้าใจในบทละครที่เรารับผิดชอบ



จริงไหมพี่เจี๊ยบที่ดารารุ่นใหม่ๆ เข้ามองข้ามเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านบทประพันธ์ ตรงต่อเวลา
พี่ว่าอาจเป็นแค่บางคน เหมารวมไม่ได้หรอก บางคนเข้าอาจจะใหม่มาก แล้วไม่เข้าใจระบบพวกนี้ว่าควรทำยังไง ซึ่งถ้าพี่ไปเล่นกับเด็กใหม่พี่ก็จะสอนเค้า พี่จะบอกว่า ถ้าอยากจะเข้าใจบทประพันธ์ทั้งหมดอันดับแรกหนูไปซื้อมาอ่านก่อน แต่ถ้าเกิดมันไม่มีคุณเดินไปหาผู้จัด ผู้กำกับ คนเขียนบท ถามเลย ทุกวันนี้พี่ก็เป็น บางทีเป็นการเขียนบทใหม่ไม่มีหนังสือให้อ่าน



พี่เคยเจอไหมกับคนไม่ทำการบ้านแล้วทำออกไปผิดๆ มีอีโก้ด้วย ?
มันก็มีบ้าง เขาก็จะรับผิดชอบในส่วนของเขาเอง พูดเสร็จเขาก็นิ่ง เราก็เลยบอกว่า ลูกเล่นอย่างนี้ไม่ได้ เราต้องเล่นตลอดกล้องจับ 3 ตัวไม่รู้จะตัดมาเมื่อไหร่ ถ้าตัดมาแล้วหนูยืนเฉยๆ หนูก็ตายอนาถอยู่กลางฉากเลยนะ

มาจนวันนี้ได้ กว่าชีวิตจะผ่านความลำบากในอดีต เป็นเสาหลักของครอบครัว
ก็เป็นจนทุกวันนี้ เป็นมาตั้งแต่อายุ 15 ปี



เพราะอะไรเราถึงดูแลทั้งครอบครัวคนเดียว ?
คือพี่บ้านแตก คุณพ่อ คุณแม่แยกกัน พี่ก็อยู่กับคุณแม่ ส่วนคุณพ่อก็ไปมีชีวิตของเค้า พี่ก็สงสารแม่ว่าแม่ต้องเป็นคนหาเงินเลี้ยงเรา ส่งเราเรียนหนังสือ พอเข้าโรงเรียนก็มีพี่หนึ่งเค้ามีบุญคุณกับพี่มากเค้ามาชวนว่าน้องไปถ่ายโฆษณาไหม คำถามแรกที่เราถามพี่เค้าว่าได้ตังค์ไหม ถ้าได้ตังค์ก็ไป แต่ก่อนต้องไปแคสต์มีคู่แข่งมากมายกว่าจะได้สักงาน

ปัญหาสุขภาพของตัวเองก็มีหนักด้วยเช่นกัน
ใช่ พี่เป็นโรคลิ้นหัวใจสะบัดตั้งแต่เกิด พี่ก็จะเหนื่อยง่าย



พี่เจี๊ยบไม่มีสามี พี่บอกว่าคือโชคดี หมายถึงพี่ไม่มีแฟนเลยหรอ ?
มี พี่มีแฟนแล้ว แต่พี่จะขอให้เรื่องนี้เป็นส่วนตัวของเรา แอบแต่งงานมาเกือบ 20 ปีแล้ว

เค้าเป็นใครอยู่ในวงการหรือเปล่า ?
ไม่ได้อยู่ในวงการค่ะ เป็นข้าราชการ เป็นทหารค่ะ เราเจอกันที่สนามกอล์ฟ เราคบกันมานานมากเกือบ 20 ปีแล้ว



แล้วทำไมไม่มีลูก ?
พี่ไม่อยากมีลูก คือพี่เลี้ยงน้องมาเหมือนลูก พอน้องมีลูกพี่ก็เลี้ยงหลานมาเหมือนลูก ก็เหมือนว่าพี่มีลูกหลายรุ่นแล้ว แล้วพี่ก็รู้ว่าการเลี้ยงหลานไม่เหมือนกับเลี้ยงลูก คือพี่เป็นคนที่ทำอะไรต้องเป๊ะๆ พี่กลัวว่าถ้าพี่มีเค้าพี่จะต้องการความเพอร์เฟกต์ทุกอย่างในชีวิตเค้า ก็จะกลายเป็นเราจะไปกดดันเค้าไหม กลัวเป็นแบบนั้น แล้วถ้าเค้ารับไม่ได้เตลิดไป อิฉันคงผูกคอตายแน่นอน



แล้วทำไมตอนแต่งงานมันไม่มีข่าวออกมาเลย ?
อันนี้พี่อยากให้ส่วนตัวจริงๆ เค้าก็เคยไปกองถ่าย เค้าก็เห็นว่าเราทำงานหนักมาก ก็เลยคุยกันว่างาน ของคุณก็ทำของคุณไป ของเราก็ทำของเรา



เห็นบอกว่าไม่เคยเจอหน้าพ่อแท้ๆ เลย หรือ ?
ใช่ค่ะ คุณพ่อไปตอนประมาณพี่ 2-3 ขวบ ตอนนั้นเหมือนเค้าจะไปเรียนต่อ เพราะคุณพ่อคุณแม่เจอกันตอนอายุยังน้อย พอเค้าไปก็ขาดการติดต่อกันไปเลย ไม่ได้เจอกันเกือบ 20 ปี

ปัจจุบันคุณพ่ออยู่ประเทศไทยไหม ?
อยู่ค่ะ ก็เจอกันคุยกันปรับความเข้าใจกันเรียบร้อยหมดแล้วในความเข้าใจผิดทุกเรื่อง



จุดไหนที่เรารู้สึกว่าต้องหาเค้าให้เจอ ?
ต้องบอกว่าเค้าหาเรามากกว่า เพราะว่าพี่เข้าวงการตั้งแต่ 17-18 ปี คุณพ่อติดต่อผ่านเพื่อนคุณแม่บอกว่าอยากเจอพี่ แม่ก็มาถามว่าโอเคหรือเปล่า พี่ก็เลยได้แล้วนัดเจอกัน

ก่อนที่ไม่ได้เจอกันคือไม่ได้เห็นแม้กระทั่งรูปถ่าย ไม่รู้ว่าพ่อเราหน้าตาเป็นยังไงบ้าง
ไม่รู้ แต่เราก็พยายามถามญาติๆ เพราะแม่ไม่ค่อยพูดถึง เราก็ไปถามป้าว่าพ่อหน้าตาเป็นยังไง เค้าก็บอกว่าหน้าเหมือนเรา



แล้วพอได้เจอกันความรู้สึกเป็นยังไง ?
ถ้าเอาความรู้สึกครั้งแรกเลยตอนนั้นพี่นั่งอยู่ในรถ เราก็เห็นเค้าคุยกับป้าที่เป็นเพื่อนแม่ พอเห็นปุ๊บก็ขับรถออกมาเลย คือวินาทีนั้นมันบอกไม่ถูก จะทำตัวยังไง และเป็นความกดดันในใจที่ต้องการพ่อ ก็เลยขับรถไปตั้งหลังที่บ้าน สรุปวันนั้นก็ไม่ได้เจอ

มันคือปมในหัวใจปมนึงเลยไหม ที่อยากจะเจอ ต้องการอยากคุย อยากปรึกษา ?
ก็เป็นนะคะ เพราะตอนเด็กๆ พี่เห็นเพื่อนที่คุณพ่อมาส่งที่โรงเรียนเค้าก็จะกอดคอพ่อ กระโดดไปนั่งตักพ่อ เราก็ได้แต่ยืนดู และคิดในใจว่าพ่อเราอยู่ไหน



แล้วกลับไปตั้งหลักนานไหมกว่าจะเจอ ?
ก็นานอยู่เป็นเดือนเลย พอเจอเค้าก็ขอกอดหน่อย วินาทีแรกมันไม่ได้ต่อต้านนะ แต่มันไม่คุ้นเคย แต่ในหัวใจก็ดีใจนะ ประโยชน์แรกที่ถามเค้าก็คือ "หายไปไหนมา" พ่อเค้าก็เลยยืนนิ่งๆ เราก็ถามเค้าทุกเรื่องที่เราอยากรู้ ก็ขอให้เค้าพูดตรงๆ เรารับฟังได้ แม้เหตุผลนั้นมันจะปวดใจก็ตาม