ครอบครัวแจง “ฟอส-สปาย”ไม่ใช่คู่รัก

2018-07-31 16:15:18

ครอบครัวแจง “ฟอส-สปาย”ไม่ใช่คู่รัก

Advertisement

2 ครอบครัว “น้องฟอส- น้องสปาย” ยืนยันลูกสองคนไม่ใช่คู่รักกัน แถม “น้องฟอส” มีจิตใจเป็นหญิง แฉ “เสี่ยอ้วน” หึงรุนแรงเคยทำร้ายร่างกาย “น้องสปาย” หลายครั้งจนต้องหลบหนี ยอมรับ “เสี่ยอ้วน” เคยโอนเงินเข้าบัญชีถึง 1 ล้านบาท แต่ลูกสาวไม่ชอบเหตุมีอารมณ์รุนแรง ขณะที่แม่ของ “น้องฟอส เผยลางร้ายบอกเหตุก่อนลูกตายฝันเห็นทั้งคู่เลือดท่วมตัว ถามฆ่าลูกฉันทำไม

จากกรณีคนร้ายก่อเหตุอุกฉกรรจ์ใช้อาวุธปืนยิง นายอนันตชัย จริตรัมย์ หรือ ฟอส อายุ 20 ปี และ น.ส.ปวีณา นาเมืองรักษ์ หรือ น้องปลาย หรือ น้องสปาย อายุ 20 ปี ชาว อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ เสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา บริเวณลานจอดรถฝั่งตรงข้ามพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเข้าชีจรรย์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี



ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ก.ค. ผู้สื่อข่าวประจำ จ.กาฬสินธุ์รายงานว่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิจาก จ.ชลบุรี ได้นำศพของ น.ส.ปวีณา และ นายอนันตชัย กลับบ้านเกิด โดยนางวันเพ็ญ นาเมืองรักษ์ อายุ 41 ปี กล่าวว่า ปลายและฟอส เป็นเพื่อที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ซึ่งที่ผ่านมาก็จะเรียนอยู่ที่โรงเรียนประจำอำเภอ และได้ไปเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎอุดรธานีประมาณ 1 เทอมแล้วลาออก เพราะต้องการที่จะหาเงินมาช่วยเหลือครอบครัวด้วยการไปทำงานตามสถานบันเทิง โดยเฉพาะที่ จ.ภูเก็ต ตั้งแต่ต้นปี 2559 เพราะพี่สาวที่รู้จักกันในหมู่บ้านทำงานที่นั่นบอกได้เงินดี ที่ผ่านมาก็ส่งเงินกลับบ้านเดือนละ 2-3 หมื่นบาท ที่แรกก็ตกใจจึงได้แอบไปดูลูกเพราะกลัวไปจะไปขายตัวแต่ลูกก็ยืนยันว่าในชีวิตไม่เคยคิดที่จะขายตัวจึงปล่อยให้ลูกทำงาน และมีเสี่ยอ้วนมาติดพัน ต้องการที่จะได้น้องปลายเป็นเมีย แต่ตนให้ไม่ได้เพราะหากต้องการก็จะต้องมาสู่ขอ แต่ปรากฏว่าเมื่อถามลูกสาวเค้าก็ไม่ยอมรับเพราะเสี่ยอ้วนเป็นคนอารมย์รุนแรงมีอิทธิพลในจ.ภูเก็ต





“ความรุนแรงเริ่มเกิดขึ้นในช่วง ปลายปี 2559 ลูกสาวได้โทรมาเล่าให้ฟังตลอดว่าทุกครั้งที่เสี่ยอ้วนเห็นลูกสาวไปอยู่ในกลุ่มเพื่อนก็จะเดินเข้าไปฉุดกระชาก บางครั้งก็จะเดินเข้าไปบีบคอ ทำร้ายร่างกาย ปลายปี 2560 จึงได้ไปทำงานที่ จ.นครปฐม แต่เสี่ยอ้วนก็ยังคงติดตามหา จนในช่วงต้นปี 2561 ตนกับลูกสาวมีความคิดที่จะซื้อรถลูกสาวก็ได้บอกว่าจะโอนเงินมา และเสี่ยอ้วน ก็รู้ว่าจะซื้อรถบอกว่าจะโอนเงินให้ไปซื้อรถ 1 ล้านบาท ซึ่งขณะนั้นครอบครัวปฏิเสธแต่แล้วก็มีเงินเข้ามาในบัญชีถึง 1 ล้านบาท ซึ่งเสี่ยอ้วนก็โทรมาบอกว่าให้ พ่อกับแม่ไปซื้อรถ”นางวันเพ็ญ กล่าว

นางวันเพ็ญ ยืนยันว่า ครอบครัวและน้องปลายไม่เคยคิดที่จะไปปอกลอก แต่เสี่ยอ้วนหยิบยื่นเงินให้ทั้งที่น้องปลายปฏิเสธเหมือนกับเป็นการจะใช้เงินซื้อลูกสาว แต่ลูกสาวไม่ชอบเพราะเป็นผู้มีอิทธิพลจึงพยามออกห่าง แต่ก็ต้องมาเจอเช่นนี้ ขอให้ตำรวจจับคนร้ายมาให้ได้และให้เสี่ยอ้วนมารับกรรม สำหรับความเสียใจนั้น หากฆ่าคนไม่ผิดกฏหมายตนก็อยากจะฆ่าให้ตายเหมือนกัน สิ่งห่วงขณะนี้คือความยุติธรรมเพราะเสี่ยอ้วนเคยโทรมาขู่ว่าเป็นผู้มีอิทธิพล เงินสามารถซื้อได้ทุกเรื่องและเคยซื้อตำรวจมาแล้วเพราะก่อนหน้านี้ยิงคนตายก็ไม่ติดคุก แต่ก็เชื่อว่ากฏหมายจะดำเนินคดีได้”นางวันเพ็ญ กล่าว





ขณะที่บ้านของ นายอนันต พ่อแม่และญาติยังปิดปากอยู่ในภาวะความเสียใจและต้องการให้จับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีและยืนยันว่า ทั้งสองคนไม่ใช่คู่รักกันแน่นอน เพราะ น้องฟอส มีจิตใจเป็นผู้หญิง

นางจอมศรี ชมพูพื้น อายุ 43 ปี แม่ของน้องฟอส กล่าวว่า ตั้งแต่รู้ข่าวว่าลูกชายถูกยิงตายไปกับน้องปลายรู้สึกเสียใจมาก และไม่เข้าไปใจว่ายิงลูกชายทำไม เพราะทั้งฟอสและปลาย ไม่ใช่คู่รักกัน เป็นเพื่อสนิทเป็นญาติด้วยซ้ำไป เพราะพ่อของตนกับพ่อของน้องปลายเป็นพี่น้องกัน ซึ่งทั้งคู่ก็เติบโตมาด้วยกันอีกทั้งลูกชายจะมีนิสัยเป็นผู้หญิง ชอบแต่งหญิงเมื่อมีงานรำก็จะแต่งหญิงออกไปรำ เพราะอะไรที่ทำแล้วได้เงินลูกชายก็จะทำเพราะเค้ารักแม่ อยากถามว่ามายิงลูกของฉันทำไม เค้าไปทำอะไรให้ ไปเกี่ยวข้องอะไรด้วย ลูกชายจะออกเป็นผู้หญิงด้วยซ้ำทำไมถึงทำอย่างนี้ ขอให้ผู้ที่ได้ยินข่าวนี้ให้ช่วยติดตามจับตัวคนร้ายมาลงโทษให้ด้วย

นางจอมศรี กล่าวต่อว่า ก่อนที่จะเกิดเรื่องร้ายสองวัน ยายของน้องฟอส ได้ฝันว่าเห็นลูกทั้งสองคนเดินมามีเลือดท่วมตัว ซึ่งก่อนหน้าก็เตือนว่าอย่าออกไปไหนจะไปเมืองนอกก็ไม่ต้องไป ในส่วนของตนก็ฝันว่ามีคนมาขอลูกชายไปอยู่ด้วย ซึ่งในฝันตนก็ให้ไปก็ไม่นึกว่าจะเป็นเรื่องนี้





ส่วนประวัติของ น.ส.ปวีณาหรือ น้องปลาย หรือ น้องสปาย นาเมืองรักษ์ ถือเป็นหญิงสาวที่น่าตาดี เคยเข้าประกวดนางงามท่าคันโท รณรงค์ไม่กินปลาดิบ จากนั้นก็จะเดินสายไปประกวดเวทีต่างๆ แต่เนื่องจากเป็นคนตัวเล็กจะไม่ชนะการประกวด ขณะที่ นายอนันตชัย หรือฟอส จริตรัมย์ ถือเป็นเด็กที่โตชึ้นมาด้วยนิสัยร่าเริงแต่มีจิตใจเป็นหญิง ในหมู่บ้านจะเรียกกันว่า “สาวฟอส”

สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้ตำรวจเข้าดูแลความปลอดภัย ให้กับครอบครัวผู้เสียหาย โดยในส่วนของทาง อ.ท่าคันโท ก็พร้อมที่จะให้คำปรึกษาทางด้านกฏหมายอย่างเต็มที่ ขณะที่ มีรายงานว่า ศพของ นายอนันตชัย มีกำหนดจะฌาปนกิจ ในวันที่ 1 ส.ค. ส่วนศพของ น.ส.ปวีณา จะฌาปนกิจในวันที่ 2 ส.ค. ที่วัดบ้านนาตาล ต.นาตาล อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์

ขอบคุณภาพ : Prapasiri Srithammawong

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ครอบครัวเศร้าศพ 2 คู่รักเขาชีจรรย์ถึงบ้านเกิด

สุดโหดมือปืนยิงคู่รักดับหน้าพระพุทธรูปเขาชีจรรย์