เหตุสะเทือนขวัญจากเมืองซีแอตเทิล สหรัฐฯ หลัง 2 นักศึกษาไทยขาดการติดต่อไปกว่า 72 ชั่วโมง ก่อนพบเป็นศพคาอพาร์ตเมนต์ ตำรวจคาดเป็นการฆาตกรรมแล้วฆ่าตัวตาย
กรณีเว็บไซต์สยามทาวน์ยูเอส รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจของเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ได้รับแจ้งเหตุจากผู้จัดการอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง เลขที่ 4423 ในเมืองซีแอตเทิล ว่าเกิดเหตุนักศึกษาไทย 2 รายได้ขาดการติดต่อไปกว่า 72 ชั่วโมง เมื่อไปตรวจสอบที่ห้องพัก พบศพหญิง 2 ราย สภาพถูกแทงตามร่างกายอย่างสาหัส โดยคาดว่าเป็นนักศึกษาหญิงไทยที่หายตัวไป
เว็บไซต์ ฟ็อกซ์นิวส์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า หญิงทั้งสองอายุอยู่ในช่วงวัย 20-29 ปี หลังจากตรวจสอบเหตุการณ์นี้แล้ว ไม่พบว่าเป็นภัยต่อสาธารณะ และผลการชันสูตรเบื้องต้นที่ระบุว่า ไม่มีผู้ต้องสงสัยเด่นชัด เป็นคำอธิบายที่ชี้ถึงว่า คดีนี้น่าจะเป็นการฆาตกรรมแล้วฆ่าตัวตาย สอดคล้องกับรายงานของเว็บไซต์ ซีแอตเทิล แพตช์ ที่ระบุว่า ตำรวจแจ้งว่าในเหตุการณ์นี้ไม่มีคนร้ายหลบหนีไปแต่อย่างใด
ขณะที่เพจชมรมคนไทยในซีแอตเทิล (รัฐวอชิงตัน) มีการไว้อาลัย น.ส.กรกมล หลีวรัตน์ หรือน้องแอ๋ม หนึ่งผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ระบุว่า แด่ชีวิตที่จากไปก่อนวัยอันควรของน้องแอ๋ม นักศึกษาคนเก่ง อนาคตไกล ขอให้น้องหลับให้สบาย ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง แด่ครอบครัวของน้อง มา ณ ที่นี้
ต่อมา มีรายงานว่า นักศึกษาสาวอีกคนที่เสียชีวิต คือ น.ส.ฐิฏิอร โชติช่วงทรัพย์ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมห้องของ น.ส.กรกมล โดยมีภูมิลำเนาอยู่ที่ 44/10 หมู่ 10 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
ด้านนายกฤษฎา หลีนวรัตน์ นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี จ.ปทุมธานี อาของน.ส.กรกมล หลีนวรัตน์ หรือ น้องแอ๋ม นักศึกษาป.โท ที่ถูกแทงเสียชีวิตในหอพัก ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า หลานสาวเสียชีวิตคาห้องพักในประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อนหน้านี้ทางมหาวิทยาลัยที่หลานสาวไปเรียนต่อปริญญาโทเห็นว่า น้องแอ๋มไม่ได้ไปเรียนหนังสือนับ 10 วัน จึงติดต่อกลับมายังหอพัก เพื่อให้ช่วยตรวจสอบ เมื่อเปิดห้องไปดูพบว่า หลานสาวถูกแทงเสียชีวิต พร้อมเพื่อนรูมเมตที่เป็นสาวทอม ซึ่งตำรวจสหรัฐฯยังไม่ยืนยันถึงสาเหตุ และรายละเอียดของคดี
นายกฤษฎา กล่าวอีกว่า น้องแอ๋มเรียนจบนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยได้เกียรตินิยมอันดับสอง ก่อนไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในบอสตัน จนจบปริญญาโทด้านกฎหมาย จากนั้นไปเรียนต่อปริญญาอีกใบที่มหาวิทยาลัยในซีแอตเทิล กระทั่งมาเกิดเหตุสลดและไม่คาดคิดขึ้น
โดยก่อนหน้านี้ ช่วงวันแม่ที่ผ่านมา น้องแอ๋ม ได้เดินทางกลับบ้านมาพบคุณพ่อและพี่ๆ ก่อนเดินทางกลับไปเรียนต่อเมื่อประมาณ 10 วันก่อน กระทั่งขาดการติดต่อไป โดยหลานสาวไม่เคยเกเรหรือติดต่อไม่ได้ เรื่องที่เกิดขึ้น ทางคุณพ่อของน้องแอ๋มยังทำใจไม่ได้ ส่วนคุณแม่ได้เสียชีวิตไปแล้ว ตอนนี้ต้องรอตำรวจสหรัฐฯตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน โดยครอบครัวเตรียมประสานงานสถานทูตไทย ประจำประเทศสหรัฐฯ ในช่วยตรวจสอบและช่วยเหลือ
ในช่วงวันแม่ที่ผ่านมา น้องแอ๋ม ได้เดินทางกลับมายังประเทศไทย เพื่อพบคุณพ่อและครอบครัว โดยวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้เดินทางไปทำบุญให้กับคุณแม่ที่ล่วงลับไปเมื่อปี 2557 ที่วัดในจ.ปทุมธานี และเดินทางกลับไปเรียนต่อยังสหรัฐฯ กระทั่งมาเกิดเหตุสลดขึ้น
ขอขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก pai kin khao