“ครูอ้อย”บุกดีเอสไอยื่นหลักฐานเพิ่มกรณีถูกข่มขู่เรียกเงิน
11 ล้านบาท ร้องไห้หนักมีอดีตลูกศิษย์คนดังร่วมขบวนการด้วย ยันไม่ได้ลอกชื่อเข็มทิศชีวิตจากซินแสดัง
เมื่อเวลา 11.30 น. “ครูอ้อย”ฐิตินาถ
ณ พัทลุง เจ้าของหนังสือเข็มทิศชีวิต ได้เข้ามอบหลักฐานเพิ่มเติมต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ
(ดีเอสไอ) กรณีถูกข่มขู่เรียกเงิน 11 ล้าน โดยมี พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ รองโฆษกดีเอสไอ เป็นผู้รับมอบหลักฐาน
ครูอ้อย กล่าวว่า วันนี้ยื่นหลักฐานคลิปเสียงเพิ่มเติมให้ดีเอสไอ
ประกอบด้วย คลิปบันทึกเสียงที่ผู้ที่ขอกันตัวเป็นพยานได้บันทึกไว้
ขณะที่ขบวนการทำร้ายครูอ้อยปรึกษาหารือกัน,คลิปบันทึกเสียงของผู้ที่เคยถูกดึงให้เข้าร่วมขบวนการ
แต่ภายหลังเห็นว่า นี่เป็นอาชญากรรมจึงถอนตัวออกมา
และเบาะแสในขบวนการข่มขู่
ที่เกี่ยวพันถึงอดีตศิษย์เก่าครูอ้อย
“ในทีมที่เรียกเงินเท่าที่ครูอ้อยทราบมี 2 กลุ่ม คือ
กลุ่มไม่พอใจที่ครูอ้อยตักเตือนสั่งสอน และอีกกลุ่มเจ็บแค้นน้ำใจเรื่องอื่น ๆ ครูอ้อยผิดเองไม่ควรไปตักเตือนเขา
ทำให้เขาไม่ชอบและทำบาป แต่ครูอ้อยไม่สามารถให้ความร่วมมือกับโจรได้
ครูอ้อยเสียใจมาก
แต่ครูขอบอกคนที่ขู่ว่า ครูจะไม่หยุด ถ้าครูจะหยุดเพราะครูเหนื่อยเอง ดังนั้นอยากจะเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนก็เผยแพร่ไปเพราะยังไงครูอ้อยก็อยู่ ได้เสียใจมาก ๆ ที่รู้ว่าเป็นลูกศิษย์ของเรา เป็นคนที่มาเรียนกับเรา
ตอนสามีทิ้ง ไม่มีเงิน ไม่จะกิน ครูอ้อยก็ดูแล นักเรียนทุกคนครูอ้อยผูกพัน
ครูอ้อยช่วยเหลือ ”ครูอ้อย
กล่าวทั้งน้ำตา
ครูอ้อย
บอกด้วยว่า ในจดหมายขู่นั้น มีหน้าจอไลน์ของคนดังคนหนึ่งซึ่งสังคมรู้จักและเป็นลูกศิษย์ครูอ้อย
ไม่รู้ว่าหน้าจอไลน์ที่ถูกแคบเจอร์นั้นไปอยู่ในจดหมายขู่ได้อย่างไร
โดยข้อความไลน์ในจดหมายขู่ก็เป็นข้อความที่ครูอ้อยตักเตือนเขา
หลักฐานครูอ้อยส่งให้ดีเอสไอไปหมดแล้ว เขาอาจจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวก็ได้
แต่ไลน์นั้นไปอยู่ในจดหมายขู่ได้อย่างไร อย่างไรก็ตามหลังเกิดเรื่องลูกศิษย์ดี ๆอยากออกมาพูดปกป้อง แต่ครูอ้อยบอกว่าไม่ต้อง
และขอว่าอย่ามายุ่งกับลูกศิษย์ของครูอ้อย
เมื่อถามถึงกรณีครูอ้อยใช้ชื่อหนังสือเข็มทิศชีวิตคล้ายกับชื่อหนังสือของซินแสชื่อดัง ครูอ้อย กล่าวว่า ครูอ้อยคิดขึ้นมาเอง และจดลิขสิทธิ์แล้ว ก็ต้องไปถามคนไทย 10 ล้านคนว่า เห็นคำนี้ที่ไหน
ด้าน พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า ดีเอสไอยังอยู่ระหว่างเสนอส่งคณะทำงาน คาดว่ากลางสัปดาห์นี้จะทราบว่ารับกรณีนี้เข้าเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ส่วนกรณีที่มีข่าวว่ามีการกล่าวอ้างถึงเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษนั้น ขณะนี้ทราบตามที่เป็นข่าวเพียงเท่านั้น และยังไม่พบว่ามีบุคคลใดเกี่ยวข้อง หากทราบว่าเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องก็จะถูกดำเนินการตามกฎหมาย