คัดเลือกแล้ว ส.ว.ระดับประเทศ 200 คนชง คสช.เคาะ 50 คน

2018-12-27 19:20:24

คัดเลือกแล้ว ส.ว.ระดับประเทศ 200 คนชง คสช.เคาะ 50 คน

Advertisement

กกต.ดำเนินการเลือก ส.ว.ระดับประเทศ “ศุภชัย สมเจริญ” เข้ารอบคัดเลือก ส.ว. 200 คน เผยเข้ามาเพราะอยากทดสอบการบังคับใช้กฎหมาย ลั่นหากได้เป็น ส.ว.พร้อมใช้ประสบการณ์ทำงาน ผู้สมัครโวยอ้างมีคนซื้อเสียงหัวละ 2 หมื่น ประธาน กกต. ระบุภาพรวมเรียบร้อย มั่นใจส่ง 200 รายชื่อให้ คสช.เคาะทันกำหนด

เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ที่อิมแพค เมืองทองธานี คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำเนินการคัดเลือก ส.ว.ในระดับประเทศเพื่อให้ได้ผู้สมัคร ส.ว.จำนวน 200 คนก่อนเสนอชื่อให้ คสช. คัดเลือกเหลือจำนวน 50 คน ที่จะได้เป็น ส.ว.ต่อไป โดยสำหรับบรรยากาศในช่วงเช้า เจ้าหน้าที่เปิดรับการรายงายตัวผู้สมัคร ส.ว.ถึงเวลา 09.00น. โดยนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. พร้อมด้วย กรรมการ กกต.และ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.ในฐานะ ผอ.เลือก ส.ว.ระดับประเทศมาตรวจเยี่ยมความเรียบร้อย


พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า ได้ชี้แจงขั้นตอนและการลงคะแนนเลือก ส.ว.ว่า ผู้สมัคร ส.ว.ที่ได้รับเลือกในระดับจังหวัดจำนวน 2,746 คน แบ่งเป็นวิธีการสมัครด้วยตนเองจำนวน 2,200 คนและผู้สมัครโดยวิธีเเนะนำชื่อจากองค์กรจำนวน 452 คน พร้อมย้ำถึงข้อห้ามปฏิบัติในการเลือก โดยการเลือกในวันนี้จะคัดเฉพาะผู้ที่ได้คะแนนมากที่สุด 10 อันดับแรกของแต่ละกลุ่มอาชีพ จำนวน 200 คน

นอกจากนี้ยังมีตัวแทนจากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยมาร่วมสังเกตการณ์คัดเลือกส.ว.ในครั้งนี้ด้วย โดยมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนทางคณะกรรมการประจำที่เลือก ส.ว. ก็ได้เน้นย้ำกับผู้สมัคร ส.ว.ที่ผ่านการรับเลือกในระดับจัวหวัด ว่าห้ามนำเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดเข้าไปภายในสถานที่คัดเลือกเด็ดขาด โดยจะมีเจ้าหน้าที่รับฝากไว้ จากนั้นในเวลา 09.30 น. เริ่มเข้าสู่กระบวนการคัดเลือก โดยการเข้าคูหาลงคะแนนเลือก ส.ว.


จากนั้นการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ว.แล้วเสร็จในเวลา 11.30 น. โดยการลงคะแนนแต่ละกลุ่มใช้เวลา 30 - 60 นาที แล้วแต่จำนวนของผู้สมัคร ซึ่งหลังจากปิดการลงคะแนนเจ้าหน้าที่ได้เริ่มนับคะแนน โดยกลุ่มที่ 2 คือกลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เป็นกลุ่มแรกที่ลงคะแนนเสร็จ

พล.ต.ท.อัศวิน ณรงค์พันธ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 และอดีตที่ปรึกษานายอภิชาต สุขัคคานนท์ อดีตประธาน กกต. กล่าวว่า สาเหตุที่ตนได้คะแนนสูงสุดในกลุ่มที่ 2 กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะตนเคยดำรงตำแหน่ง ผบช.ภ.4 จึงทำให้เป็นที่รู้จักของหลายคน อย่างไรก็ตามการมาสมัครครั้งนี้ ตนมาสมัครด้วยตนเอง ไม่มีใครทาบทามมาเป็นการส่วนตัว ขณะเดียวกันตนก็ไม่ได้รู้จักกับบุคคลใน คสช.


ขณะที่นายศุภชัย สมเจริญ อดีตประธาน กกต. ซึ่งได้รับเลือกมาเป็นอันดับที่ 2 ในกลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม กล่าวว่า ขอขอบคุณผู้สมัครกลุ่มที่ 2 ที่เลือกตน ทั้งนี้การลงสมัครไม่ได้คาดหวังอะไร เพียงต้องการมาทดสอบระบบการบังคับใช้กฎหมาย และเห็นว่าการให้ลงคะแนนเลือกกันเอง 2 คน หากไม่ใช่เป็นบทเฉพาะกาลคงต้องแก้ไข แต่ในอนาคตที่กฎหมายกำหนดให้เป็นการเลือกไขว้น่าจะดีกว่า ที่ผ่านมาตนไม่เคยได้รับโทรศัพท์ขอคะแนน มีแต่โทรมาแนะนำตัว หลังจากนี้ยังต้องไปลุ้นกันอีกว่า คสช.จะเลือกตนหรือไม่ ทั้งนี้มองว่า คสช.ไม่จำเป็นต้องเลือกคนที่ได้คะแนนสูงสุดในแต่ละกลุ่มแต่ละสายไปอยู่ในบัญชี 50 คน ทั้งหมดและเป็นดุลยพินิจที่ไม่ขอก้าวก่าย เพราะเป็นอำนาจของคสช.โดยตร

อย่างไรก็ตามหากได้รับเลือก ตนก็จะใช้ประสบการณ์ในฐานะอดีตประธาน กกต. ในการทำงาน ส่วนการจะเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น ส่วนตัวยังไม่ได้มองไปขนาดนั้น เพราะยังไม่รู้ว่า คสช.จะเลือกตนเข้าไปเป็นหนึ่งในนั้นหรือไม่


ด้านนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. กล่าวสรุปภาพรวมการเลือกส.ว.ระดับประเทศ ว่า โดยภาพรวมถือว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ซึ่งผู้สมัคร ส.ว.ที่ผ่านเข้าสู่การเลือกระดับประเทศจำนวน 2,746 คน แบ่งเป็นสมัครด้วยตนเอง 2,294 คน องค์กรแนะนำรายชื่อ 452 คน วันนี้มีผู้สมัคร ส.ว.มารายงานตัวจำนวน 2,675 คน ไม่มารายงานตัวจำนวน 71 คน ส่วนการลงคะแนนและนับคะแนนเป็นไปตามที่ กกต.ได้วางแผนงานไว้ และดำเนินการเสร็จก่อนเวลาที่ได้คาดการณ์ไว้ ทั้งนี้มีประเด็นการร้องเรียนเกิดขึ้นในกลุ่มที่ 4 กลุ่มอาชีพกสิกรรม ปลูกพืชล้มลุก ทำนา ทำสวน ทำไร่ ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง ซึ่งกรรมการประจำหน่วยได้จดคำร้องเรียนเพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาในขั้นตอนต่อไปแล้ว

นายอิทธิพร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ในการคัดเลือกส.ว.มีหลายกลุ่มได้รับเลือกโดยไม่ต้องจับสลาก และบางกลุ่มต้องตัดสินด้วยการวิธีจับสลาก ทำให้ได้ 200 รายชื่อจาก 10 กลุ่ม จาก 2 ประเภทการสมัคร หลังจากนี้ กกต.จะนำส่งรายชื่อให้ คสช.คัดเลือกเหลือผู้ทำหน้าที่เป็น ส.ว.50 รายชื่อ และขึ้นบัญชีสำรอง 50 รายชื่อ โดยกฎหมาย มาตรา 96 วรรค 2 พ.ร.ป.การได้มาซึ่ง ส.ว.กำหนดให้ กกต.รอไว้ 5 วันเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง เมื่อครบกำหนด กกต.จะส่งรายชื่อผู้ได้รับเลือกทั้ง 200 ราย เรียงเป็นลำดับตามผลคะแนนผู้ได้รับคะแนนสูงสุดตามรายกลุ่มและตามวิธีสมัครไปยัง คสช. เมื่อถามถึงกรณีร้องคัดค้านผลการเลือก ส.ว. นายอิทธิพร กล่าวว่า ตามกฎหมายเปิดให้ร้องได้ภายใน 3 วัน ส่วนกรณีร้องในสถานที่เลือก เจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงให้ผู้ร้องไปแจ้งต่อกรรมการประจำหน่วยเพื่อบันทึกคำร้อง ให้ถ้อยคำ พร้อมให้พยาน 2 รายลงชื่อ เพื่อสำนักงาน กกต.จะนำเรื่องเข้าสู่กระบวนกาพิจารณาของ กกต.ต่อไป

ส่วนกรณีผู้สมัครบางรายไม่พอใจเอกสารแนะนำตัวผู้สมัคร (ส.ว.18) ที่จัดทำเป็นสำเนาถ่ายเอกสารมาเ ทำให้ภาพถ่ายใบหน้าผู้สมัครไม่ชัด จนเป็นสาเหตุทำให้ไม่ได้รับเลือก นายอิทธิพร กล่าวว่า ในขั้นนี้เร็วเกินไปที่จะบอกว่าเป็นความผิดของใคร ข้อเท็จจริงยังมาไม่ถึงตน ต้องไปดูก่อนว่าใครทำให้รูปเป็นอย่างนั้น หากผู้สมัครเห็นว่าทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม สามารถใช้ช่องทางที่กฎหมายกำหนดดำเนินการได้ เมื่อถามว่าร้องเรียนมีเป็นจำนวนมาก จะเป็นผลให้การเลือกส.ว.เสียไปทั้งหมด และกระทบกับการเลือก ส.ส. หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า เป็นคนละส่วนกัน ถ้าเห็นว่าการเลือก ส.ว.มีการทุจริตจนต้องสั่งให้เลือกใหม่ ก็กระทบเฉพาะ ส.ว.เท่านั้น ไม่ส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้ง ส.ส. และขณะนี้ยังต้องรอ 5 วันเพื่อตรวจว่ามีการทุจริตหรือไม่ เมื่อถึงเวลานั้นก็จะมีความชัดเจนขึ้น ว่าหากมีการทุจริตจะกระทบต่อการเลือกส.ว.หรือไม่ และถึงแม้จะมีการทุจริตก็ไม่มีผลต่อการส่งรายชื่อให้ คสช.ล่าช้าเกินกำหนด เพราะกฎหมายกำหนดให้ กกต.ส่งรายชื่อก่อนวันเลือกตั้ง ส.ส.15 วัน ก่อนถึงเวลาดังกล่าว กกต.จึงมีเวลาเพียงพอ หากพบว่ามีสิ่งไม่สุจริตเกิดขึ้น แต่โดยกระบวนการจับสลากในวันนี้ คิดว่าถูกต้องและโปร่งใสมากที่สุด ผู้สมัครก็เป็นสักขีพยานในการจับสลาก แต่ถ้ามีมูลการทุจริตก็ต้องเสนอให้กกต.พิจารณา ทั้งนี้สำหรับการประกาศ 200 รายชื่อ ที่ได้รับเลือกในระดับประเทศ กกต.จะพิจารณาว่าจะประกาศต่อสาธารณชนหรือไม่ เพราะกฎหมายไม่ได้เขียนไว้ ระบุเพียงให้กกต.เสนอรายชื่อต่อคสช.เท่านั้น




ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการคัดเลือก ส.ว.ในรอบสุดท้ายในระดับประเทศ มีความวุ่นวายเกิดขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่ 4 คือกลุ่มอาชีพทำนา ปลูกพืชล้มลุก ทำสวน ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง มีผู้สมัครร้องคัดค้านเพราะเชื่อว่ามีการซื้อเสียงเกิดขึ้น โดยระหว่างที่กลุ่ม 4 นับคะแนนใกล้เสร็จสิ้น นายบุญยืน ขาวปากช่อง ผู้สมัคร ส.ว.กลุ่มที่ 4 จ.ชุมพร ลุกขึ้นโวยวายและร้องคัดค้านผลการคัดเลือกทำให้เจ้าหน้าที่เข้ามาบันทึกคำร้องไว้ ทำให้การคัดเลือกกลุ่มดังกล่าวเสร็จสิ้นเป็นกลุ่มสุดท้าย จากนั้นนายบุญยืน เปิดเผยว่า ก่อนจะมีการคัดเลือก ส.ว.มีโทรศัพท์เข้ามาหาตนเสนอเงินให้ 2 หมื่นบาท ตนไม่รับและบอกว่าเสียงละล้านตนก็ไม่ขาย แต่เมื่อตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์จากสมุดข้อมูลเอกสารแนะนำตัวของผู้สมัคร ส.ว. ของ กกต.ที่มอบให้กลับปรากฎไม่มีเบอร์ดังกล่าว เป็นการซื้อเสียง เพื่อไม่ให้ถึงตัวเอง ทุกอย่างโกงกันหมด การซื้อเสียงซื้อได้ในระดับประเทศ ถ้าซื้อระดับจังหวัดซื้อไม่ได้ ที่เขากล้าซื้อเพราะมีตัวใหญ่ๆอยู่ข้างหลังค่อยชี้ไว้อยู่ไว้แล้ว ถ้าเข้าไปได้ก็ได้แน่นอน