การเมืองเวเนซูเอลา ปั่นป่วนหนัก หลังรัฐบาลสหรัฐประกาศยอมรับผู้นำพรรคฝ่ายค้านเป็นประธานาธิบดีชั่วคราว ขณะประธานาธิบดีมาดูโร ของเวเนซูเอลา ก็ประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูต พร้อมตะเพิดทูตสหรัฐพ้นประเทศใน 72 ชั่วโมง ส่วนสหรัฐกร้าวไม่ถอนทูต ห้ามแตะเด็ดขาด
ประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ผู้นำเวเนซูเอลา ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับสหรัฐเมื่อวันพุธ พร้อมขีดเส้นตายให้เวลาเจ้าหน้าที่ทูตสหรัฐ 72 ชั่วโมง เก็บกระเป๋าเดินทางออกนอกประเทศ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ประกาศยอมรับนายฮวน กีโด หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน เป็นประธานาธิบดีชั่วคราว โดยนายมาดูโร ประกาศมาตรการตอบโต้ดังกล่าวต่อหน้าฝูงชนผู้สนับสนุนจำนวนมากที่ส่งเสียงเชียร์กึกก้อง จากบริเวณระเบียงทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงการากัส ไม่นานหลังสหรัฐและหลายประเทศในลาตินอเมริกา ตัดสินใจยอมรับนายกีโด เป็นผู้นำชั่วคราวของประเทศ
ทรัมป์ประกาศยอมรับนายกีโดอย่างเป็นทางการ โดยทรัมป์ระบุว่า รัฐบาลของนายมาดูโร เป็นรัฐบาลที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขณะที่นายกีโดก็ประกาศตัวเป็นประธานาธิบดีรักษาการของเวเนซูเอลาเมื่อวันพุธเช่นกัน และให้คำมั่นว่า เวเนซูเอลาจะยังคงรักษาความสัมพันธ์ทางการทูตกับทุกประเทศในโลกเหมือนเดิม
ส่วนประเทศอื่น ๆ ในทวีปอเมริกา ทั้งอาร์เจนตินา, บราซิล, คอสตาริกา, เอกวาดอร์, กัวเตมาลา, ชิลี, โคลอมเบีย, ปารากวัย และเปรู ต่างคล้อยตามสหรัฐ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสมาชิกขององค์การประเทศอเมริกา หรือโอเอเอส รวมทั้งแคนาดาด้วย
อย่างไรก็ตาม เม็กซิโกยังไม่ได้เลือกข้างขณะนี้ ยังให้การยอมรับมาดูโรเป็นประธานาธิบดีของเวเนซูเอลาอยู่ เช่นเดียวกับรัฐบาลสังคมนิยมของโบลิเวีย ประธานาธิบดีอีโว โมราเลส ผู้นำโบลิเวีย เขียนทวิตเตอร์ ให้คำมั่นสนับสนุนนายมาดูโรอย่างเต็มที่ ในการต่อสู้กับลัทธิจักรวรรดินิยม
ขณะเดียวกัน ในช่วงเย็นวันพุธ นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ก็ออกมาปฏิเสธถอนเจ้าหน้าที่ทูตออกจากกรุงการากัส โดยแย้งว่า รัฐบาลเวเนซูเอลาที่ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับสหรัฐนั้น ไม่ใช่รัฐบาลที่ชอบด้วยกฎหมาย พร้อมขู่ใช้มาตาการตอบโต้ที่เหมาะสม หากมีเจ้าหน้าที่ของสหรัฐคนใดได้รับอันตราย และสหรัฐขอเรียกร้องให้กองทัพเวเนซูเอลา ปกป้องสวัสดิภาพและความเป็นอยู่ของพลเมืองชาวเวเนซูเอลาทุกคน รวมทั้งพลเมืองชาวอเมริกันและชาวต่างชาติอื่น ๆ ในเวเนซูเอลาด้วย