จิตแพทย์แนะกระตุ้นพัฒนาการ “ดาวน์ ซินโดรม” ตั้งแต่แบเบาะ

2019-03-21 21:25:47

จิตแพทย์แนะกระตุ้นพัฒนาการ “ดาวน์ ซินโดรม” ตั้งแต่แบเบาะ

Advertisement

จิตแพทย์ชี้เด็ก “ดาวน์ ซินโดรม” มีวิธีช่วยให้ดีขึ้นได้ แนะพ่อแม่ให้รีบกระตุ้นพัฒนาการตั้งแต่วัยแบเบาะ


เมื่อวันที่ 21 มี.ค.  นพ.กิตต์กวี โพธิ์โน ผอ.รพ.จิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ จ.นครราชสีมา ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ (21 มี.ค.) องค์การสหประชาชาติกำหนดให้เป็นวันดาวน์ซินโดรมโลก (World Down’s Syndrome Day) เพื่อรณรงค์ให้ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนในการป้องกันปัญหา และการยอมรับผู้ที่เป็นดาวน์ซินโดรม ให้อยู่ในสังคมได้ พร้อมทั้งเผยแพร่ศักยภาพและความสำเร็จของบุคคลที่มีภาวะดาวน์ซินโดรมทั่วโลกในวงกว้างขึ้น โดยในปีนี้ เน้นประเด็นคือการไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง (Leave no one behind)


นพ.กิตต์กวี กล่าวว่า สาเหตุของดาวน์ซินโดรม เกิดจากความผิดปกติของโครโมโซมของเซลล์คู่ที่ 21 ทำให้เด็กมีความผิดปกติตั้งแต่กำเนิดทั้งรูปร่างหน้าตา และอวัยวะอื่น ๆ มีภาวะบกพร่องทางพัฒนาการและสติปัญญา องค์การอนามัยโลกรายงานมีเด็กเกิดใหม่เป็นเด็กดาวน์ซินโดรมปีละ 3,000-5,000 คน โดยพบได้ 1 คน ต่อเด็กเกิดใหม่มีชีวิตทุก 800 คน ในส่วนของประเทศไทยจะพบเด็กเกิดใหม่เป็นเด็กดาวน์ซินโดรมได้ 1-2 คนต่อวันจากจำนวนเด็กเกิดใหม่ที่มีวันละประมาณ 1,700 คนทั่วประเทศ

“โรคนี้ไม่มียารักษาให้หายขาด วิธีการดูแลที่สำคัญที่สุดที่ถือว่าเป็นยาขนานเอกของเด็กกลุ่มนี้ คือการช่วยส่งเสริมพัฒนาการทั้งร่างกาย ภาษา อารมณ์ และสังคมให้เด็ก โดยพ่อแม่ต้องเริ่มให้เร็วที่สุดตั้งแต่วัยแบเบาะ ทำต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ให้ความรักความอบอุ่นแก่เด็ก ให้พ่อแม่เป็นเพื่อนเล่นคนแรก แค่เล่นกับลูกให้ลูกสนุก จะส่งผลให้ศักยภาพ ในตัวเด็กดีขึ้น เด็กจะสามารถช่วยเหลือตนเองในชีวิตประจำวันได้ เล่นกับเด็กปกติอื่น ๆ ได้ เรียนได้ตามศักยภาพ และใช้ชีวิตอยู่ในสังคมใกล้เคียงกับคนปกติมากที่สุด ส่วนใหญ่เด็กกลุ่มนี้มักจะเลี้ยงง่าย อารมณ์ดีเป็นทุนอยู่แล้ว ” นพ.กิตต์กวี กล่าว


นพ.กิตต์กวี กล่าวต่อว่า ในการดูแลสุขภาพของเด็กที่เป็นดาวน์ซินโดรม จะต้องดูแลด้านพัฒนาการ จิตใจ อารมณ์ สังคม ควบคู่กับการดูแลสุขภาพกายเป็นพิเศษ เนื่องจากเด็กจะมีความผิดปกติหลายเรื่อง อาทิ หัวใจพิการแต่กำเนิด พบได้ร้อยละ 40-60 การได้ยินผิดปกติร้อยละ 75 ความผิดปกติระบบประสาท เช่น เกิดโรคลมชักพบได้ประมาณร้อยละ 14 เป็นต้น หากได้รับการดูแลดี เด็กก็จะมีอายุยืนยาวขึ้น โดยในส่วนของการดูแลด้านจิตและสังคม รพ.จิตเวชนครราชสีมาฯ ได้เพิ่มศักยภาพบุคลากรสาธารณสุขในการประเมินคัดกรองและช่วยเหลือเบื้องต้น และได้เชื่อมโยงบริการกับโรงพยาบาลทุกแห่งที่อยู่ในเขตสุขภาพที่ 9 คือ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ เพื่อให้เด็กสามารถใช้บริการใกล้บ้าน โดยมีรพ.มหาราชนครราชสีมา จ.นครราชสีมาเป็นศูนย์เชี่ยวชาญในด้านนี้โดยเฉพาะ