หิมะเอเวอเรสต์ละลาย ผงะ เจอศพนักไต่เขาโผล่

2019-03-23 16:50:14

หิมะเอเวอเรสต์ละลาย ผงะ เจอศพนักไต่เขาโผล่

Advertisement


กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจปีนเขาเนปาลกำลังวิตกหนัก ศพนักไต่เขาโผล่ให้เห็นจำนวนมาก หลังจากหิมะและธารน้ำแข็งบนภูเขาทางขึ้นสู่ยอดเอเวอเรสต์ละลาย จากผลพวงของภาวะโลกร้อน

นักไต่เขาจากทั่วโลกเสียชีวิตเกือบ 300 คน บนเทือกเขาหิมาลัยที่จะขึ้นไปสู่ยอดเขาสูงที่สุดในโลก (8,848 เมตร) นับตั้งแต่การพิชิตยอดเอเวอเรสต์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2496 โดยศพ 2 ใน 3 ยังติดค้างอยู่บนภูเขา ใต้หิมะและธารน้ำแข็งทับถม



มีนักไต่เขาพิชิตยอดเอเวอเรสต์สำเร็จ และได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการกว่า 4,700 คน นับตั้งแต่ปี 2496

เส้นทางหลักปีนขึ้นสู่ยอดเอเวอเรสต์ มี 2 เส้นทางคือ ทางตะวันออกเฉียงใต้จากฝั่งเนปาล และทางทิศเหนือจากฝั่งเขตปกครองตนเองทิเบตของจีน และตอนนี้ศพนักไต่เขาหลายศพปรากฏให้เห็นทางฝั่งเหนือ เนื่องจากหิมะละลายเมื่อเข้าฤดูใบไม้ผลิ และทางการจีนเริ่มส่งทีมกู้ภัยภูเขาขึ้นไปกู้ศพลงสู่พื้น



นายอัง ทเชริง เชอร์ปา อดีตประธานสมาคมปีนเขาเนปาล กล่าวว่า ผลกระทบจากภาวะโลกร้อน ทำให้หิมะและธารน้ำแข็งละลายรวดเร็ว ศพนักไต่เขาที่ถูกฝังกลบอยู่ตามจุดต่าง ๆ เริ่มปรากฏให้เห็น หน่วยกู้ภัยของสมาคมนำศพลงมาแล้วบางส่วน แต่ยังเหลืออยู่อีกเยอะ คาดว่าศพจะโผล่ให้เห็นอีกเรื่อยๆ

แต่การเคลื่อนย้ายศพลงสู่พื้นเป็นเรื่องยากลำบากและเสียค่าใช้จ่ายไม่น้อย โดยเฉพาะศพที่ฝังอยู่ใกล้ยอดเอเวอเรสต์ ในระดับความสูง 8,700 เมตรขึ้นไป โดยจากการประเมินของผู้เชี่ยวชาญ ค่าใช้จ่ายในการนำศพนักไต่เขาลงมาทั้งหมด จะอยู่ที่ประมาณ 40,000 – 80,000 ดอลลาร์สหรัฐ (1,266,000 – 2,532,000 บาท)

แต่การกู้ศพลงสู่พื้นต้องขึ้นอยู่กับความประสงค์ของตัวผู้ตายเอง หรือครอบครัวด้วย นายอลัน อาร์แนตต์ นักไต่เขาชื่อดัง ผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับการปีนเขาหลายเล่ม กล่าวว่า ในแวดวงนักปีนเขานานาชาติทราบกันดีว่า นักปีนเขาจำนวนมากตั้งปณิธานและบอกซึ่งกันและกันไว้ หากพวกเขาเกิดพลาดท่า เสียชีวิตในระหว่างการปีน พวกเขาต้องการให้ศพอยู่บนภูเขาลูกนั้นไปชั่วนิรันดร์.