ราชสกุล "เทพหัสดิน​ ณ อยุธยา" ระดม 5 แสนช่วยเหยื่อแพรวา

2019-07-18 22:10:06

ราชสกุล "เทพหัสดิน​ ณ อยุธยา" ระดม 5 แสนช่วยเหยื่อแพรวา

Advertisement

ราชสกุล "เทพหัสดิน​ ณ อยุธยา" แถลงขอขมาเหยื่อคดีแพรวา พร้อมมอบเงินช่วยเหลือ 5 แสนบาท เป็นค่าใช้จ่ายในการติดตามบังคับคดี เรียกร้องให้ครอบครัวแพรวาทำตามคำพิพากษา เร่งเยียวยาเหยื่อ อย่าลากคนอื่นเข้าไปเกี่ยวข้อง ด้านญาติเหยื่อไม่ยอมรับเงิน 5 แสน แนะนำเงินไปให้แพรวาชดใช้ค่าเสียหาย

เมื่อวันที่ 18 ก.ค. นายสุชัย เทพหัสดิน ณ​ อยุธยา ตัวแทนราชสกุล "เทพหัสดิน ณ​ อยุธยา" และนายณัฐพล ทองคำ ทนายความประจำราชสกุล "เทพหัสดิน ณ​ อยุธยา" แถลงข่าว ชี้แจงกรณีคดีแพรวา อุบัติเหตุ 9 ศพ กับประเด็นการเยียวยาผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ​ และข้อพาดพิงต่างๆ ต่อราชสกุล

นายณัฐพล กล่าวว่า ทางราชสกุลไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามขอร้องให้ครอบครัวของ น.ส.รวินทร์ภิรมย์ อรุณวงศ์ ชดใช้ตามกฎหมายยืนยันว่าเรายืนข้างผู้เสียหายทางราชสกุลเทพหัสดิน ณ อยุธยา ไม่คยนิ่งนอนใจ และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง กราบขออภัยจากใจ และขอขมาทุกคนที่เกี่ยวของกับอุบัติเหตุในครั้งนั้นไม่เคยลืมอุบัติเหตุสะเทือนขวัญในครั้งนั้น และได้ผลักดันให้ทางครอบครัวของแพรวา หรือ น.ส.รวินภิรมย์ ปฏิบัติตามกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอดไม่ได้หนีไปไหนติดตามข่าวมาตลอด  จนทราบว่าน.ส.รวินภิรมย์ ถูกตัดสินให้รับโทษในคดีอาญาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยไม่เคยคิดหลบหนี ซึ่งเมื่อสอบถามไปทางครอบครัวของ น.ส.รวินภิรมย์หลายครั้ง ได้รับคำตอบว่าคดีสิ้นสุดแล้วทุกครั้ง ทางราชสกุลจึงวางใจ และไม่ได้ติดต่อกับครอบครัวอีก เนื่องจากสมาชิกของราชกุลเทพหัสดิน ณ อยุธยา มีการลงทะเบียนไว้ร่วม 200 ครอบครัว แต่ละครอบครัวก็ได้แยกย้ายกันดำรงชีวิตตามลักษณะครอบครัวเดี่ยวในปัจจุบัน 

นายณัฐพล กล่าวต่อว่า จนทางราชสกุลได้รับทราบพร้อมกับประชาชน ว่าหลังจากคดีสิ้นสุด ครอบครัวผู้ประสบเหตุยังไม่ได้รับการติดต่อชดใช้ความเสียหาย และขอขอบคุณนายวรัญญู เกตชู หนึ่งในผู้ประสบเหตุ และพี่ๆสื่อมวลชนหลายสำนักที่เป็นสื่อกลางกระบอกเสียงส่งข่าวให้พวกเราได้รับทราบข้อเท็จจริง  เมื่อได้ทราบข่าวแล้วพวกเราก็เรียกประชุมทันที และได้ข้อสรุปหลายประการ แต่ขณะนั้นกระแสโซเชียล​มีเดีย​วิพากษ์วิจารณ์​อย่างรุนแรงถึงราชสกุลเทพหัสดิน​ ณ อยุธยา โดยไม่ทราบถึงความตั้งใจจริงของเราที่เรียกประชุมทันทีที่ทราบข่าว บางท่านใช้คำพูดรุนแรงไม่สุภาพพาดพิงถึงบรรพบุรุษ ซึ่งล่วงลับไปแล้ว ทางผู้ใหญ่ในราชสกุลจึงให้ข่าวกับทางสื่อหนึ่ง ว่าไม่ได้นิ่งนอนใจทราบข่าวแล้วและกำลังเร่งดำเนินการกับเรื่องนี้ ขอวอนให้หยุดพาดพิงถึงบรรพบุรุษและราชสกุล เนื่องจากเป็นสิ่งผิดกฎหมาย สุ่มเสียง​ต่อการทำผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์​ จึงไม่อยากให้เกิดความแตกแยกแตกร้าวในสังคม เป็นการออกมาตักเตือนการใช้วาจาในการแสดงความเห็นในโลกโซเชียล ในฐานะผู้ใหญ่คนหนึ่งเท่านั้นและตัวบุคคลที่กระทำผิดที่ใช้นามสกุลเดียวกันนี้ ยินยอมรับโทษตามคำตัดสินในคดีอาญา ส่วนคดีแพ่งที่เพิ่งสิ้นสุดไปนั้นก็ยังไม่จบสิ้นกระบวนการ และทางผู้เสียหายไม่ต้องกังวลเรื่องหมดอายุความ ย้ำว่าทางราชสกุลรับทราบและมีข้อสรุปทางผู้เสียหายต้องได้รับการชดใช้อย่างแน่นอน 

นายณัฐพล กล่าวด้วยว่า วันนี้ทางราชสกุลออกแถลงการณ์​ เพื่อแนะนำ และช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ โดยขอมอบกองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ 5 แสนบาท สำรองใช้จ่าย ในการติดตามบังคับคดีสืบทรัพย์ตามกฎหมาย โดยไม่เกี่ยวข้องกับเงินที่ต้องชดใช้ให้กับผู้เสียหายตามคำพิพากษาศาล ซึ่งผู้เสียหายสามารถโทรศัพท์มาติดต่อ รับเงินจำนวนดังกล่าวกับตน ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 9 5 - 9 0 6 1 4 6 0 และในนามราชสกุล เทพหัสดิน ณ อยุธยา ขอเรียกร้องให้ครอบครัวของน.ส.รวินภิรมย์ น้อมรับปฏิบัติตามคำพิพากษา แสดงความรับผิดชอบจัดหาทรัพย์มาเยียวยาต่อผู้ประสบเหตุอย่างครบถ้วน และออกมาขอโทษผู้เสียหายทุกคน รวมถึงสังคมอย่างจริงใจ หากดำเนินการแล้วขอวอนต่อสังคมให้โอกาสต่อน.ส.รวินภิรมย์ ที่ขณะนั้นเป็นเพียงเยาวชน และไม่ตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้นจริงๆได้มีโอกาสแสดงความรับผิดชอบ และการชดใช้ค่าเสียหายให้กับเหยื่อทั้งหมดเป็นสิ่งที่ครอบครัวของน.ส.รวินทร์ภิรมย์ ต้องรับผิดชอบเอง เพราะเป็นผู้ก่อเหตุ อย่าลากคนอื่นไปเกี่ยวข้อง

ด้านนายสุชัย กล่าวว่าตนเป็นเพียง เลขาธิการคณะกรรมการราชสกุล เทพหัสดิน ณ อยุธยา ซึ่งยืนยันว่าราชสกุลมีเครือญาติทั้งหมดมีประมาณ 900 กว่าท่าน หลายท่านไม่ค่อยมีเงิน สามารถรวบรวมเงินมาได้เพียงแค่ 5 แสนบาท แต่ยืนยันว่าเราไม่ได้นิ่งนอนใจที่จะพยายามขอร้องให้ครอบครัวของ น.ส.รวินทร์ภิรมย์ ชดใช้ตามกฎหมาย ยืนยันว่าเรายืนอยู่ข้างผู้เสียหาย ซึ่งส่วนตัวเองเพิ่งจะได้มีโอกาสพบกับน.ส.รวินภิรมย์ ตอนที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นช่วงแรก ที่น.ส.รวินภิรมย์ เดินทางไปขอโทษกับราชสกุล ที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง

ทั้งนี้ภายหลังการแถลงข่าวนายวรัญญู เกตุชู หนึ่งในผู้เสียหายได้โทรศัพท์พูดคุยกับทนายความกรณีเงินที่ทางราชสกุล เทพหัสดิน ณ อยุธยาได้รวบรวมให้กับเหยื่อรวม 5 แสนบาทโดยขอให้ทางทนายความ นำเงินจำนวนดังกล่าวไปให้กับน.ส.รวินภิรมย์ เพื่อนำไปรวมในเงินที่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย ตามคำพิพากษาของศาล