พ่อยืนยันไม่ได้ล่วงละเมิดเด็กหญิงวัย 12 ขวบลั่นให้กระบวนการยุติธรรมตัดสิน ขณะที่ตำรวจรอฟื้นฟูสภาพจิตใจเด็กก่อนร่วมสหวิชาชีพสอบสวนหาผู้กระทำความผิด
กรณี ด.ญ. เพลิน (นามสมมติ) อายุ 12 ปี อยู่บ้านไม่มีเลขที่หมู่ที่ 1 ต.โพธิ์ม่วงพันธุ์ อ.สามโก้ จ.อ่างทอง ตั้งท้อง 8 เดือนใกล้คลอด โดยมีผู้ตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะถูกบุคคลในครอบครัวล่วงละเมิดทางเพศ โดยบ้านหลังดังกล่าวอาศัยอยู่กับยายวัย 80 ปี ส่วนนางปรางค์ (นามสมมติ) อายุ 45 ปี มารดา และนายเต่า (นามสมมติ) อายุ 35 ปี บิดาไปทำงานข้างนอกบ้าน
จากการสอบถามน้องเพลินซึ่งมีอาการหวาดผวาเล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงปีใหม่ขณะที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ที่แคร่หน้าบ้านมีคนบุกเข้ามาข่มขืนซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าเป็นใคร เพราะมืดมากและไม่ได้ร้องเรียกให้ใครช่วย จนล่าสุด ร.ต.ต.หญิงสายสุนีย์ ยมานันท์ นายอำเภอสามโก้ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.อ่างทอง เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กอ่างทอง เขาช่วยเหลือน้องเพลินตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรสามโก้ เพื่อสอบถามความคืบหน้าของคดี โดย พ.ต.อ.จามร สุนทรกิจ ผกก.สามโก้ ได้พูดคุยกับผู้สื่อข่าวและแจ้งว่าหลังจากแม่ของเด็กมาแจ้งความร้องทุกข์เมื่อวานที่ผ่านมาก็อยู่ระหว่างการสอบสวนเบื้องต้นคงต้องรอให้ทาง พมจ.อ่างทองและบ้านพักเด็กฟื้นฟูสภาพจิตใจของน้องก่อน
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังห้องพักริมถนนสายอบทม-สามโก้ ต.สามโก้ อ.สามโก้ จ.อ่างทอง ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าหากเด็กหญิงเพลินถูกกระทำจนท้อง 8 เดือนเหตุน่าจะเกิดที่ห้องพักที่นี่ โดยผู้สื่อข่าวเข้าไปตรวจสอบภายในห้องซึ่งเป็นห้องโล่ง มีห้องครัวและห้องน้ำอยู่ทางด้านหลัง ซึ่งหากจะอาศัยอยู่ผู้ที่อาศัยต้องนอนรวมกันอยู่ด้านนอก และพบกับ นางสุนันท์ สุกใส อายุ 55 ปี ญาติห่างๆของน้องเพลินเล่าให้ฟังว่าปกติพ่อของเด็กหญิงเป็นคนโวยวายพูดจาโผงผาง แต่หลังเกิดเหตุตนเองก็พยายามสอบถาม น.ส.ปรางค์ (นามสมมติ) แม่ของเด็กว่าจะทำอย่างไรและเหตุการณ์เดขึ้นมาอย่างไรเพื่อที่จะพยายามหาข้อเท็จจริง ซึ่งตอนนี้หลายคนปักใจว่าพ่อเป็นคนกระทำแต่หากไม่ใช่พ่อก็ต้องหาตัวให้ได้ว่าใครเป็นคนทำน้องเพลินท้อง เพราะเป็นภัยสังคมและเป็นภัยกับเด็กที่อยู่แถวนี้
ด้าน น.ส.ปรางค์ (นามสมมติ) แม่ของน้องเพลินวันนี้ยังคงเดินทางมาขายของที่บริเวณแยกบ้านเก่า ต.สามโก้ อ.สามโก้ จ.อ่างทองตามปกติ โดยมีลูกสาวฝาแฝดของน้องเพลินและลูกชายคนเล็กมาช่วยขาย โดย น.ส.ปรางค์เปิดเผยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่ายืนยันได้ว่าไม่ใช่พ่อเขาอย่างแน่นอน อยากจะวิงวอนสังคมว่าให้รู้ความจริงก่อนค่อยพูด
ขณะที่ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบนาย ต. ซึ่งเป็นพ่อของน้องเพลิน ที่อยู่ระหว่างการทำงานส่งของอยู่ที่ อ.ป่าโมก โดยนาย ต.เปิดเผยว่า ตนเองกับนางปรางค์อยู่กินด้วยกันมากว่า 15 ปีแล้วมีลูกด้วยกัน 3 คนสองคนแรกเป็นแฝดหญิงและมีผู้ชายอีก 1 คน น้องเพลินเป็นลูกสาวฝาแฝดคนน้อง ยืนยันว่าตนเองไม่ได้ล่วงละเมิดลูกของตนอย่างแน่นอน คือความคิดของคนอื่นตนเองไปห้ามไม่ได้ แต่ส่วนตนให้กฏหมายเป็นผู้พิสูจน์ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร หลังผลดีเอ็นเอ ออกมาก็ก็จะพิสูจน์ได้เอง ตนเองพร้อมพิสูจน์ทุกอย่างเพราะเราบริสุทธิ์ใจ ไม่คิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับครอบครัว ไม่คิดว่าเกิดกับลูกของตน ตนเองรู้ตอนแรกก็รู้สึกโมโหแต่ไม่รู้จะทำอย่างไรเพราะลูกบอกจำไม่ได้ว่าเป็นใครเพราะมันมืดมาก แต่เราไม่มีเวลาที่จะซักถามเพราะต้องทำงานทุกวัน จริงๆก็อยากจะพูดแต่ก็พูดไปก็กลายเป็นแก้ตัวขอให้กฏหมายเป็นเครื่องพิสูจน์
ด้านนายสิทธิภร รัตนบวรชัย อายุ 41 ปี หัวหน้างานของนาย ต.บอกว่า ตั้งแต่นาย ต.เข้ามาทำงานดัวยกว่า 5 เดือนก็เห็นเป็นสนุกสนานร่าเริง เวลาไปทำงานลูกค้าก็จะชอบทุกคน ช่วงเย็นพอกลับจากที่ทำงานลูกสาวก็จะขับรถมารับ ถามว่าส่วนตนเชื่อมั้ยว่า นาย ต.เป็นคนทำลูก ตนเองไม่เชื่อเพราะเห็นบ่อยว่านาย ต.เป็นคนรักลูกรักครอบครัว หลังทราบเหตุการณ์ก็ตกใจซึ่งหลังจากเมื่อวานนาย ต.มีอาการเครียด นั่งร้องไห้ระบายให้ตนฟัง ซึ่งตนก็ได้แต่เพียงพูดปลอบใจเท่านั้น