ครอบครัวของนักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยผู้ตาย กับคณะกรรมการบริหารจัดการหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวภูเขาลือชื่อที่สุดของจีน บรรลุข้อตกลงค่าเสียหายกันได้ หลังจากเด็กสาวตกหน้าผาสูงเสียชีวิต ขณะถ่ายภาพเซลฟี่บนทางเดินขึ้นสู่วัดบนยอดเขา
เว็บไซต์ชั่งไห่อิสต์ รายงานว่า นักศึกษาสาวที่กำลังเรียนอยู่ปีสุดท้าย ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง นามสกุล “เติ้ง” เดินทางไปเที่ยวชมพูเขาหัวซาน ในมณฑลส่านซี ทางภาคกลางของประเทศ เมื่อวันที่ 30 ต.ค. ที่ผ่านมา และขณะที่เธอปีนขึ้นไปตามทางเดินน่าหวาดเสียวสู่ยอดเขา เพื่อชมทิวทัศน์สวยงาม เธอส่งภาพถ่ายเซลฟี่ ส่งไปให้เพื่อนๆ ได้ชมผ่านทางวีแชท
แต่การส่งภาพยุติลงเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. เมื่อร่างของ น.ส.เติ้งร่วงลงจากหน้าผากระแทกพื้นล่างเสียชีวิต จากจุดชมวิวแห่งหนึ่งบนยอดเขา
หลังการเสียชีวิต ครอบครัวของ น.ส.เติ้งตั้งข้อสงสัยมาตรการรักษาความปลอดภัย ความสูงของราวกั้นตรงจุดที่เธอหล่น พร้อมกับเรียกร้องให้คณะผู้บริหารจัดการสถานที่รับผิดชอบ
แต่เจ้าหน้าที่การท่องเที่ยวหัวซาน ยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยระบุว่าผู้ตายไม่ใส่ใจป้ายประกาศเตือน และ ถ่ายภาพเซลฟี่โดยไม่ระวังอันตราย จนเกิดเหตุสลดขึ้น
เพื่อเห็นแก่ “มนุษยธรรม” คณะผู้บริหารสถานที่จ่ายเงินช่วยค่าทำศพให้ครอบครัว น.ส.เติ้ง จำนวน 40,000 หยวน (171,835 บาท) และจะไม่จ่ายเพิ่มอีกแม้แต่หยวนเดียว สำหรับค่าสินไหมทดแทนตามที่เรียกร้อง ทำให้ครอบครัวของ น.ส.เติ้งนำเรื่องไปร้องเรียนสื่อเมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา
ปรากฏว่าวันต่อมา (13 พ.ย.) ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถตกลงกันได้ แต่ไม่ขอเปิดเผยเงื่อนไขในข้อตกลง.