ลำดับเหตุ-ผลกระทบ “ปู่-ย่าไปเที่ยวญี่ปุ่น” แพร่เชื้อโควิด-19 หลาน 8 ขวบ

2020-02-26 16:55:47

ลำดับเหตุ-ผลกระทบ “ปู่-ย่าไปเที่ยวญี่ปุ่น” แพร่เชื้อโควิด-19 หลาน 8 ขวบ

Advertisement

จากกรณีประเทศไทยพบผู้ป่วยได้รับการยืนยันติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีกจำนวน 3 ราย โดยพบว่า เป็นคนในครอบครัวซึ่งมีประวัติเดินทางไปในประเทศกลุ่มเสี่ยง และปกปิดข้อมูล ส่งผลให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้างกับหลายคน และหลายหน่วยงาน โดยสามารถไล่เรียงลำดับเหตุการณ์ และผลกระทบที่ตามมาได้โดยสังเขป ดังนี้

เมื่อวันที่ 16-20 ก.พ. คุณปู่อายุ 65 ปีกับภรรยา พากันไปเที่ยวฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น โดยไปกับกรุ๊ปทัวร์ ภายหลังทั้งคู่เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมาโดยสายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบิน XJ621 ซัปโปโร-กรุงเทพฯ พบว่า ปู่เป็นไข้และมีอาการไอ จากนั้นวันที่ 23 ก.พ. ได้ไปพบแพทย์ที่ รพ.บี.แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์

จากนั้นแพทย์ได้ถามประวัติการเดินทาง แต่ปู่ปิดบัง ไม่ยอมบอกว่าไปญี่ปุ่นมา แพทย์ได้วินิจฉัยว่าปู่มีอาการของโรคปอดอักเสบและให้แอดมิท โดยมีย่ามาดูแล




เช้าวันที่ 24 ก.พ. หมอเข้ามาตรวจอาการปู่และถามประวัติการเดินทางอีกครั้ง แต่ปู่ยังยืนยันว่าไม่ได้ไปพื้นที่เสี่ยงมา จนช่วงสายถึงได้ยอมรับว่าเพิ่งกลับจากญี่ปุ่น

เมื่อทราบข้อมูล ทาง รพ.รีบย้ายปู่ไปอยู่ห้องความดันลบแล้วตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ทันที ผลปรากฏว่าปู่เป็นผู้ติดเชื้อรายที่ 38 ของไทย จึงรีบส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.โรคทรวงอก เดือดร้อนถึงทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรประมาณ 30 คนที่ดูแลปู่ ต้องไปตรวจหาเชื้อด้วย เบื้องต้นยังไม่พบ แต่ก็ให้หยุดงานเพื่อสังเกตอาการที่บ้าน และตรวจหาเชื้อซ้ำทุก 7-14 วัน



ส่วนย่าเอง หลังแพทย์ทำการตรวจสุขภาพหาเชื้อไวรัสโคโรนาก็พบว่า ย่ากลายเป็นผู้ติดเชื้อรายที่ 39 ถูกส่งตัวไปรักษาที่สถาบันบำราศนราดูร

เมื่อสืบประวัติต่อมา พบว่า ปู่ย่ามีหลาน 2 คน อายุ 8 ขวบ กับ 3 ขวบ เด็ก ๆ ไม่ได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยแต่อยู่ใกล้ชิดปู่ย่า พบว่าหลาน 8 ขวบติดเชื้อเป็นรายที่ 40 น้องถูกส่งตัวไปที่สถาบันบำราศนราดูร โดยหลานปู่เรียนอยู่ รร.พระหฤทัยดอนเมือง หลังเจอปู่กับย่าน้องไปโรงเรียนมาแล้ว 1 วัน

ล่าสุด กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขรีบไปที่โรงเรียน พบว่ามีนักเรียนที่เรียนห้องเดียวกับน้อง 30 คน และครู 11 คน ถือเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง ให้ไปตรวจหาเชื้อแล้วเก็บตัวอยู่ที่บ้าน 14 วัน กำหนดสอบปลายภาควันที่ 10 มี.ค.2563 ส่วนนักเรียน ป.3 ห้องอื่นๆ และนักเรียนระดับชั้นมัธยมต้นและมัธยมปลายให้หยุดเรียนตลอดสัปดาห์นี้ และมาสอบปลายภาคในวันจันทร์ที่ 2 มี.ค. โดยกรมควบคุมโรคได้เข้าทำความสะอาดทุกพื้นที่ในโรงเรียนแล้ว



สำหรับพ่อของเด็กทำงานอยู่ที่ธนาคารธนชาต สาขาย่านดอนเมือง พ่อไปตรวจหาเชื้อแต่ไม่พบ แต่เพื่อความปลอดภัยธนาคารจึงให้พ่อหยุดงาน 14 วัน เพื่อเฝ้าระวัง ขณะเดียวกันธนาคารเองก็ต้องสั่งปิด 3 วัน เพื่อทำความสะอาด อบโอโซนและฆ่าเชื้อ พนักงานทุกคนก็ต้องไปตรวจหาเชื้อและเฝ้าดูอาการ

ทางด้าน สายการบินแอร์เอเชียก็ให้ลูกเรือที่ปฏิบัติงานในเที่ยวบินเดียวกับปู่ย่าหยุดงาน 14 วัน และนำเครื่องบินลำดังกล่าวไปอบน้ำยาฆ่าเชื้อทันที และกำลังติดตามผู้โดยสารในเที่ยวบินดังกล่าวและนักท่องเที่ยวในกรุ๊ปทัวร์เดียวกับปู่ย่าให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยด่วน

อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุขแถลงข่าวยืนยันว่า แม้จะมีกรณีผู้ป่วย 3 รายนี้ แต่การระบาดในไทยก็ยังถือว่าอยู่ในระยะ 2 และปู่ย่ายังไม่ใช่ผู้ป่วย Super spreader