"น้องน้ำมนต์" ซัดกลับ ผู้ชายโง่เองที่มาหวังทรัพย์สินของหนู

ด้าน พล.ต.ท.ฐิติราช ระบุว่า พฤติกรรมของ ผู้ต้องหาไม่ได้ซับซ้อนเพราะมีพฤติกรรมแบบเดียวกันทั้งหมดเพียงแค่เปลี่ยนแค่สถานที่ ในการหลอกลวง โดยขณะนี้มีผู้เสียหายทั้งหมดประมาณ 18 รายซึ่งจะต้องนำมาสอบปากคำหาข้อเท็จจริง ซึ่งจะดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชนซึ่งจะดำเนินการอายัดทรัพย์เพื่อนำทรัพย์สินมาคืนให้กับผู้เสียหาย แล้วหลังจากนี้จะนำตัวส่งไปยัง สภ. ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์เพื่อดำเนินการสอบสวนขยายผลต่อไป

นอกจากนี้ ทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ พร้อมด้วยนายไพรัตน์ พึ่งสุข 1ในเจ้าบ่าวที่ถูกหลอก เดินทางมาดูรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำของตนเอง ที่ถูกยึดเป็นของกลาง ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกนางสาวจริยาภรณ์ หลอกว่าจะนำรถไปขนผลไม้ แต่กลับนำหายไปไม่สามารถติดต่อได้ โดยได้มีการแจ้งความไว้ที่สภ.เมืองระยองไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งวันนี้จะเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามเพื่อยืนยันการเป็นเจ้าของรถ ก่อนที่จะประสานกับ สภ.ประตูน้ำพระอินทร์ เพื่อขอถอนรถออกจากของกลางคดี

ส่วนกรณีที่ตั้งข้อสังเกต ว่าการติดตามทรัพย์ที่เป็นสินสอดสามารถทำได้หรือไม่นั้น เพราะเป็นการให้โดยเสน่หานั้น ทนายสงกานต์ ระบุว่า ตามกฎหมาย การให้โดยสเน่หา ขึ้นอยู่กับเจตนาเป็นหลัก แต่จากหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังเข้าข่ายฉ้อโกงเพราะมีการแอบอ้างเป็นบุคคลอื่น