ย้อนรอย"น้องปอม"เหยื่อรายแรกพี่หมอ

“พี่หญิง”บอกกับ “นิว18”ด้วยว่า พอไปถึงโคราชพี่ส่งมอบน้องหมาให้น้องเขา ตอนส่งมอบก็ถามว่าน้องหมาโอเคไหม สรุปว่าไม่มีปัญหาโอเคถือว่าสิ้นสุดประกัน น้องเขาก็พาสุนัขไปคลินิกเพื่อฝากเลี้ยงไว้ก่อน และเขาก็เข้าบ้านที่โคราช พี่ก็ขับรถไปส่งหน้าปากซอยบ้านน้องเขา จากนั้นพี่ก็ตีรถกลับ กทม.เกือบจะถึง กทม.อยู่แล้ว เขาโทรมาบอกว่าหมาตาย พี่รับผิดชอบหน่อย เราก็บอกไปว่าสิ้นสุดการประกันแล้วนะ เพราะน้องหมาออกจากเราไปแล้ว คือ พอหมาตายเขาก็โทรศัพท์มาเรียก แต่ใจเราสงสารหมานะ ก็คิดไปว่าหรือจะเป็นความผิดเรา ก็เลยย้อนรถกลับไปโคราชอีกครั้ง  ไปรับน้องที่บ้านและไปดูน้องหมาที่คลินิกที่เขาฝากเลี้ยงเอาไว้ ตอนไปถึง หมอก็นำน้องหมาที่ตายแล้วใส่กล่องไว้ ตัวแข็งทื่อ เขาก็ใช้ภาษาแพทย์คุยกัน ถามประมาณว่าเป็นความผิดเรื่องการขนส่งไหม สัตวแพทย์ก็ตอบว่า ไม่ทราบสาเหตุ จริง ๆ เขาบอกพี่ว่า ต้องจ่ายผม 4 หมื่นบาทนะ เราก็ไม่ยอม ก็เลยถามหมอว่าถ้าลูกค้าแจ้งความจะชันสูตรได้ไหม หมอแจ้งว่าเขาไม่ได้ถนัดชันสูตรต้องส่งต่อยุ่งยาก

“พี่หญิง” บอกด้วยว่า พอตอนหลังเล่นงานพี่ไม่ได้เขาก็หันไปเล่นงานหมอคลินิกที่รับฝากเลี้ยง บอกว่าหมอต้องจ่ายให้ผมนะ ไม่รู้หมอทำอะไรกับหมาหรือเปล่า จะเอาเงินให้ได้ หมอก็บอกว่าทางเขามีกล้องวงจรปิดไม่ได้แตะต้องน้องหมาเลย ไม่ได้ยุ่งอะไรเลย ก็มีการถกเถียงกัน สุดท้ายหมอก็บอกช่วยไม่ได้จริง เขาก็เหมือนทำอะไรไม่ได้ หมอก็เลยไม่ได้คิดเงิน และยังให้พนักงานวิ่งเอาเงินไปให้น้องอีก 2,000 บาท ส่วนพี่ก็พาเขากลับไปส่งที่หน้าปากซอยเข้าบ้านเหมือนเดิม ก็ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ ส่งไปโคราชเหมือนกัน ตายเหมือนกัน พอเข้าไปดูในเฟซบุ๊กปรากฎว่าเป็นคนเดียวกัน

“หลังเกิดเรื่องเพื่อนเขาแอดมาคุยบอกว่าบ้านเขาก็รวยมีฐานะ ไม่รู้ทำไมทำแบบนี้ เพราะไม่ได้เดือดร้อนอะไร คนเรียนหมอจะจบแล้วอยู่ปี 6 ถ้าทำแบบนี้จบออกมาเป็นหมอจะน่ากลัวขนาดไหน มีนักศึกษาแพทย์บางคนส่งข้อความมาบอกว่า มีอาจารย์บอกว่าน้องเขาป่วย กรณีนี้มันเหมือนมีการวางแผน เดินไปให้จบเกม เหมือนคนหัดเป็นโจร เหมือนเด็ก ๆคิด ทำอะไรไม่รอบคอบ ตั้งแต่ส่งน้องหมามาเป็นพันตัว ไม่เคยตาย เพิ่งเจอตัวนี้ตวแรก คือถ้าตายระหว่างขนส่งเรายินดีชดใช้ แต่ต้องผ่าพิสูจน์”พี่หญิง กล่าว

รถคันนี้พา"น้องปอม"ไปส่งโคราช