ภาวะที่ข่าวเหตุการณ์โควิด-19 ทั้งจากสื่อหลักและสื่อสังคมออนไลน์ทะลักล้นหนีไม่พ้นเช่นนี้ จำเป็นที่ผู้รับข่าวต้องตั้งหลัก ตั้งรับให้ดี หาวิธีคัดแยกข่าว ความเห็นและดราม่าออกจากกัน
อ่านตัวเลขรายวันแล้ว ย้อนดูข้อมูลวันที่ผ่านมาเพื่อเทียบเคียงด้วย
ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า2019(ศบค) รายงานวันที่ 2 เม.ย.63 จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพิ่มขึ้น 104 คน ผู้ติดเชื้อสะสม 1,875 คน ผู้ที่ยังรักษาอยู่ใน รพ.1,355 คน เพิ่มขึ้น 12 คน หายแล้ว 505 คน เพิ่มขึ้น 89
เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 รวม 15 ราย!!
ระหว่างลุ้นให้ตัวเลขลด ดูข้อมูลเชิงพื้นที่ การติดเชื้อแพร่ไป 62 จังหวัดแล้ว เยอะสุดที่กรุงเทพ 330 คน รองลงมาเป็นภูเก็ต50คน ชลบุรี 41 ปัตตานี 36 สมุทรปราการ 35 เชียงใหม่ 30 นนทบุรี 17 หมายความว่า ชุมชนใหญ่ มีการเดินทางมาก ๆ ตัวเลขก็สูงมาก ตอนนี้ โควิด-19 ผ่านมา 3 เดือนแล้ว ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านวิจัยและวิชาการ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ทำอินโฟกราฟิก รายงานเหตุการณ์นับแต่การรายงานผู้ป่วยติดเชื้อรายแรกในประเทศจีน วันที่ 30ธค.62 จากนั้นวันที่ 4 ม.ค.63 กรมควบคุมโรคเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินเตรียมรับมือ วันที่12 ม.ค.63 พบผู้ป่วยรายแรก เป็นชาวต่างประเทศ ถัดมา 15 ม.ค.63 มีรายงานผู้ป่วยชาวไทยคนแรกหลังจากเดินทางกลับจากต่างประเทศ
วันที่ 23มี.ค.63 ทางการจีนประกาศปิดเมืองอู่ฮั่น ที่ประเทศไทย พบผู้ป่วยรายแรกที่ไม่ได้มาจากต่างประเทศ เป็นคนขับรถแท็กซี่ที่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
วันที่ 30 มี.ค.63องค์การอนามัยโลก ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินระหว่างประเทศ วันที่ 29 ก.พ.63 กระทรวงสาธารณสุขประกาศให้โควิด-19เป็นโรคติดต่ออันตราย รุ่งขึ้น 1 มี.ค.63 มีผู้ป่วยเสียชีวิตรายแรกในประเทศไทย หลังจากนั้น ก็มีเหตุการณ์ให้ตื่นเต้น ต้องจดจำกันตลอดทั้งเดือน มี.ค. เริ่มจากแรงงานไทยจากประเทศเกาหลีใต้เดินทางกลับ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศที่พบครั้งแรกวันที่ 1 มี.ค.62 จากระดับ 40 เป็น 50, 70 และเกิน 100 ในวันที่ 15 มี.ค.เกิน1,000 วันที่ 26 มี.ค. ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร วันที่ 22 มี.ค.63 กรุงเทพมหานคร สั่งปิดสถานประกอบการหลายชนิดที่ถือเป็นพื้นที่เสี่ยง มีคนไปรวมกันจำนวนมาก เช่น ห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิง โรงภาพยนตร์ รวมถึงสถานเสริมความงาม สถานที่ออกกำลังกายฯ ทำให้คนจำนวนมากเดินทางกลับภูมิลำเนาต่างจังหวัด แรงงานต่างด้าวก็กลับประเทศ มีการรณรงค์ให้คนอยู่กับบ้าน ที่ทำการราชการ เอกชนเหลื่อม ลดเวลา พยายามเปลี่ยนไปทำงานที่บ้าน ทำให้ย่านชุมชน ถนนหนทางดูบางตา แต่ก็ยังไม่มากพอ จึงต้องมีมาตรการเพื่อหยุดการแพร่เชื้อที่เข้มขึ้น!
ตัวเลขการเพิ่มของรายใหม่ 104 ราย ส่วนใหญ่อยู่ต่างจังหวัด 52% ทำให้เส้นกราฟชี้ลงต่ำ เป็นวันที่ 4 แม้จะต่ำกว่า 120 แต่ ความเห็นของแพทย์ยังอยากให้ต่ำกว่า 100 หรือกดให้ถึงหลักหน่วยยิ่งดี
รายการใหญ่ที่ทำให้การแพร่ระบาดกระจายกว้างไกล จากสนามมวยวันที่ 6 มี.ค.63 และจากผับแห่งหนึ่งย่านซอยทองหล่อ เอกมัย