"หมอชลน่าน"แจงยื่นยุบ ภท. ยังไม่ใช่มติฝ่ายค้าน อยู่ในขั้นตอนพิจารณาของฝ่ายกฎหมาย
เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 65 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ( พท. ) กล่าวถึงกรณีที่พรรคฝ่ายค้านเตรียมยื่ยยุบพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ปมนโยบายกัญชาว่า ข้อเท็จจริงการยื่นยุบ ภท. เป็นเพียงขั้นตอนเริ่มต้นของคณะทำงานที่พรรคร่วมฝ่ายค้านมีมติให้ผู้อภิปรายหลักในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อครั้งที่ผ่านมาไปทำงานต่อเนื่อง ที่หากคุณอภิปรายรัฐมนตรีคนใดหากมีข้อกฎหมายที่สามารถดำเนินคดีหรือเอาผิดได้ก็ให้ไปยกร่างคำร้องขึ้นมา เพื่อมาเสนอต่อคณะกรรมการที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งในประเด็นเรื่องกัญชาจะยื่นดำเนินการตามกฎหมาย 2 เรื่อง คือ 1.ยื่นต่อศาลปกครองเพื่อให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว กรณีทีมีประกาศของกระทรวงสาธารณสุขออกมากำหนดประเภทยาเสพติดประเภทที่ 5 ทำให้เกิดกัญชาเสรีและมีประชาชนใช้กันอย่างแพร่หลาย และ 2.นโยบายนี้เข้าข่ายให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านจึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ จึงส่งเรื่องให้คณะกรรมการฝ่ายกฎหมายพรรคร่วมฝ่ายค้านนำไปสู่การพิจารณาว่าคำร้องทั้งสองมีเหตุผล มีหลักฐานเพียงพอหรือชอบด้วยหลักการในการยุบพรรคการเมืองหรือไม่ ซึ่งขั้นตอนยังอยู่เพียงขั้นตอนนี้ และยังไม่ได้มีการยื่นต่อองค์กรด้วยซ้ำไป แต่จะต้องรอฟังผลสรุปจากคณะกรรมการว่าจะมีการยื่นยุบพรรคหรือไม่ เมื่อวานนี้ (17 ต.ค.) ก็มีสื่อมวลชนมาถามว่าจะร้องยุบ ภท.ด้วยข้อหาอะไร ตนก็ตอบในหลักการเท่านั้น ยืนยันว่ายังไม่มีมติว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง หากคณะกรรมการพิจารณาว่าสมควรฟ้องเราก็ต้องพิจารณาต่อว่าจะเอาอย่างไรต่อไป หรือพิจารณาแล้วว่าเรื่องที่เสนอไม่เข้าข่ายและไม่เป็นเหตุเป็นผลพอตามที่กล่าวอ้าง หรือหลักฐานข้อมูลไม่เข้มข้นพอ และมีมติให้ยุติเรื่องเราก็จะยุติเรื่อง ซึ่งขั้นตอนก็มีอยู่แค่นี้
เมื่อถามว่า สรุปแล้วพรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นยุบ ภท. หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ส่วนใหญ่ที่ประชุมไม่เห็นด้วยกับการยุบพรรค โดยใช้เหตุผลที่ไม่เหมาะสม เพราะการยุบพรรคการเมืองควรมีเหตุเดียวคือการล้มล้างการปกครองเท่านั้น ส่วนข้อกฎหมายที่เราไม่เห็นด้วยนั้น เราจะมองเป็นเรื่องรอง หากเราเอาประเด็นข้อกฎหมายเป็นประเด็นหลัก จะเป็นการส่งเสริมให้องค์กรอิสระใช้อำนาจจนล้นเกิน ทั้งนี้ กรณีที่คณะกรรมการพิจารณาทั้งเรื่องหลักการและหลักฐาน เมื่อเสร็จแล้วจึงเข้าสู่ที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านและลงมติ โดยที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านส่วนใหญ่ก็ไม่มีใครเห็นด้วยกับการยุบพรรคการเมืองพร่ำเพื่อ
เมื่อถามต่อว่า หลักฐานที่มีจะสามารถเอาผิดช่องทางอื่นได้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า หากมีหลักฐานที่จะชี้ชัดว่าจะทำผิดกฎหมายก็สามารถยื่นเอาผิดได้ในเรื่องอะไรก็ว่าไป เช่น จงใจฝ่าฝืนบทบัญญัติกฎหมายก็ยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่วนจะเข้าสู่ศาลฎีกาคดีนักการเมืองหรือศาลอาญาก็ว่ากันไป
เมื่อถามว่า จะมีอะไรฝากถึง ภท. หรือไม่ซึ่ง ภท.ก็ขู่กลับว่าจะยื่นยุบ พท.เหมือนกัน นพ.ชลน่าน กล่าวว่า คงไม่มีอะไรฝาก ก็เป็นมิติทางการเมืองที่ทุกพรรคการเมืองก็มีความคิดเห็นได้ ซึ่งในฐานะของผู้นำฝ่ายค้านเราทำเรื่องนี้ด้วยความสุจริตใจ ถ้าไม่สุจริตใจคงไม่เอามาเปิดเผยและเข้าสู่กระบวนการพิจารณากลั่นกรอง เราเคารพพรรคการเมืองที่เป็นสถาบันของประชาชน เมื่อถามต่อว่า การที่ พท.ออกมาทำลักษณะนี้มีนัยทางการเมืองหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ตนมองว่าไม่ใช่เกมทางการเมือง พท.มองว่าทุกพรรคการเมืองเป็นคู่แข่ง ไม่ใช่เฉพาะ ภท. แต่เป็นทุกพรรคการเมืองเพื่อให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินว่าจะเลือกใครมาทำงาน เราไม่ถือว่าพรรคการเมืองเป็นศัตรู ส่วนจะกระทบการทำงานร่วมกันในอนาคตหรือไม่ เขาย่อมมีวิจารณญาณ ซึ่งมีทั้งกระแสบวกและกระแสลบ