“โรม” วอนหนุนแก้ รธน.ปิดสวิตซ์ ส.ว.เลือกนายกฯ คาดจบภายใน ก.ย. ปัดติดหนี้ พท. ติดหนี้ ปชช. 14 ล้านเสียงมากกว่า
เมื่อเวลา 14.15 น. วันที่ 3 ส.ค. 66 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม ส"ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล แถลงกรณีที่ประธานรัฐสภาสั่งเลื่อนการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีออกไป โดยจะมีการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยกเลิกมาตรา 272 ปิดสวิตช์ ส.ว. โหวตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 4 ส.ค. ว่า ประเด็นนี้เราเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องนี้ เป็นหล่มทางการเมืองที่มีความสำคัญ คือเราไม่สามารถมีนายกฯ ตามความต้องการประชาชนได้ จากการโหวตนายกฯครั้งที่ผ่านมา คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล ซึ่ง ส.ว.ส่วนใหญ่ไม่ให้ความเห็นชอบ เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าถ้าไม่มีมาตรา 272 การโหวตนายกฯจบแล้ว เรามีนายกฯแล้ว แต่เนื่องจากมีมาตรานี้ มีรัฐธรรมนูญโดยคณะรัฐประหาร กระบวนการเหล่านี้จึงกลายเป็นหล่มทางการเมืองที่เกิดขึ้นในวันนี้ ดังนั้น เราต้องรีบเอาหล่มทางการเมืองนี้ออกไปเพื่อที่จะได้นายกฯ จากประชาชนอย่างแท้จริง นอกจากนี้ หล่มนี้ยังสะท้อนการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากพิศดารที่ไม่ได้เกิดจากอุดมการณ์ ความคิด และความเชื่อ ที่คล้ายกัน แต่ผสมพันธุ์กันข้ามสายพันธุ์ข้ามสปีชี่ เป็นการเปิดโอกาสให้สว. ตั้งเงื่อนไขกับพรรคการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน 14 ล้านเสียง แสดงให้เห็นถึงเป็นหล่มทางการเมืองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย จึงจำเป็นต้องถอนหล่มนี้ออกเสีย
“มาตรา 272 เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือน ถามว่าเราจะปล่อยให้เป็นอุปสรรคทางการเมืองต่อทำไม คุณทำได้แค่ยื้อเวลา แต่ไม่สามารถเปลี่ยนใจประชาชนได้ ด้วยเหตุผลทั้งหมดเราไม่มีความจำเป็นต้องคงมาตรา 272 อีกต่อไป กระบวนการแก้รัฐธรรมนูญแล้วปิดสวิตช์สว. จริงๆใช้เวลาไม่นาน ถ้าทุกฝ่ายทำอย่างรวดเร็ว พรุ่งนี้จะโหวตวาระ 1 ได้ โดยที่ 3 วาระ จะจบภายใน 1 เดือนได้ หากนับกระบวนการทูลเกล้าฯ ภายในเดือน ก.ย.66 ส.ว.จะไม่มีสิทธิ์เลือกนายกฯอีกต่อไป ถ้ากระบวนการนี้จบลง อาจเป็นรูระบายให้ทุกฝ่าย ให้ประเทศเดินหน้าอย่างมั่นคงได้” นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ถ้าเราลงมติให้ความเห็นชอบปิดสวิตช์ ส.ว. จะเป็นโอกาสทางลงบันไดหนีไฟให้ ส.ว. ที่ต้องการปิดสวิตช์ตัวเอง ส.ว. ประมาณ 63 คน เคยลงมติปิดสวิตช์ตัวเองมาแล้ว พรุ่งนี้ (4 ส.ค.) ขอให้ท่านช่วยกันปิดสวิตช์มาตรา 272 เอา ส.ว. ออกจากสมการเลือกนายกฯ อย่างไรก็ตาม ตนได้ยินมาว่ามีความเป็นไปได้ที่อาจทำให้องค์ประชุมล่มจนไม่สามารถพิจารณายกเลิกมาตรา 272 ได้ ตนก็หวังว่าไม่ควรมีเหตุผลต้องเลื่อนเรื่องนี้ออกไป ส.ส. ส.ว. อย่าใช้วิชามารใดๆให้องค์ประชุมล่ม หรือการพิจารณาไม่สามารถเกิดขึ้นได้ หวังว่าท่านจะมีความจริงใจต่อประชาชน เพราะหลักการนี้เป็นหลักการสำคัญ ที่จะทำให้เราเข้าใกล้การเมืองการปกครองที่เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ทุกฝ่ายควรให้การยอมรับ ซึ่งฝ่ายที่ต้องการสกัดพรรคก้าวไกล มาถึงตรงนี้มีความจำเป็นอะไรต้องยื้อเรื่องนี้ต่อไป ผมขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันปลดล็อคดีกว่า แล้วอย่ามาบอกว่าสว.จะไม่พอใจ หวังว่าคงไม่เกิดเหตุผลแบบนี้ และขอฝาก ส.ว. ว่านี่คือโอกาสที่ท่านจะได้ปิดสวิตช์ตัวเอง และหาก 10 พรรคร่วมกับสว. ทำให้องค์ประชุมล่ม คิดว่าต้องละอายต่อประชาชนบ้าง
เมื่อถามถึงกรณีที่นายสมชาย แสวงการ ส.ว. เสนอให้ประธานรัฐสภา เลื่อนระเบียบวาระการประชุมวันพรุ่งนี้ (4 ส.ค.) ออกไป รวมถึงร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ด้วยนั้น นายนังสิมันต์ กล่าวว่า การพิจารณาร่างแก้ไขมาตรา 272 ไม่ต้องรอศาลวินิจฉัย ตนคิดว่านายสมชาย ต้องกลับไปอ่านให้ดีว่าเป็นคนละเรื่องกันกับกระบวนการโหวตนายกฯ เมื่อถามถึงความชัดเจนของพรรคก้าวไกล จะโหวตแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ยังไม่มีข้อสรุป โดยการประชุมวานนี้ (3 ส.ค.) เลขาธิการพรรคก้าวไกล ได้กำชับขอให้ใช้วิจารณญาณอย่างรอบคอบ อย่างไรก็ตาม เมื่อประธานรัฐสภาเลื่อนวาระการโหวตนายกฯออกไป จึงยังไม่รู้ว่าพรรคจะยังประชุมเพื่อขอมติในวันนี้หรือไม่
เมื่อถามว่า หากพรรคสองลุงมาร่วมในรัฐบาลด้วย พรรคก้าวไกลจะโหวตให้หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า พรรคก้าวไกลไม่โหวตให้ลุงอยู่แล้ว ไม่คิด และไม่มีทางแน่นอน
นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า การตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกลเปิดให้ประชาชนแสดงความคิดเห็น แล้วนำมาพิจารณาอย่างจริงจัง เราฟังเสียงของพี่น้องประชาชน ถ้าเรากลับมาดูเรื่องการเลือกนายกฯ พรรคก้าวไกลในฐานะที่เดิมทีเราเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เราก็ยอมในหลายๆเรื่อง เพื่อให้ 8 พรรคเดินไปได้ เรายอมเรื่องประธานสภาฯ มาจนถึงนายกฯ เราก็เจอวิชาในกระบวนการที่ให้สภามีมติว่าเสนอนายพิธาซ้ำไม่ได้ เราก็ยอม วันนี้เรายอมมาหลายเรื่องแล้ว สุดท้ายเจอการตั้งเงื่อนไขจากคนที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งเป็นเสียงข้างน้อยในสภาฯ บอกจะไม่ร่วมงานกับก้าวไกล วันนี้มีความพยายามจัดตั้งรัฐบาลโดยไม่มีก้าวไกล กระบวนการมันไม่ถูกต้อง จะให้คนที่ไม่ได้มาจาการเลือกตั้งมาสร้างเงื่อนไขได้อย่างไร เรื่องมาตรา 112 เราก็ยอมไม่ใส่เอ็มโอยู วันนี้จึงไม่ใช่แค่การตั้งรัฐบาล แต่เรากำลังจะยอมรับให้คนไม่กี่คนมากำหนดกติกาแล้วใหญ่กว่าพี่น้องประชาชนได้อย่างไร ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่สาทารถเข้าใจได้
เมื่อถามว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย บอกว่าพรรคก้าวไกลควรนึกถึงบุญคุณของพรรคเพื่อไทย ที่เคยโหวตให้พรรคก้าวไกล นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ประชาชน 14 ล้านคน น่าจะมีบุญคุณมากที่สุด ถ้าจะนับบุญคุณที่เรายอมๆกันไม่เป็นบุญคุณมหาศาลหรือ พวกตนยอมแล้ว ยอมอีก ยอมต่อ ถ้านับเรื่องบุญคุณพวกตนมูลค่าบุญคุณมหาศาลมาก ดังนั้น เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องของบุญคุณ แต่เป็นการทำหน้าที่ เราเป็นหนี้บุญคุณประชาชนที่เลือกเรามา