"พร้อมพงศ์"แถลงโต้ "ชูวิทย์"ยัน "เศรษฐา"ไม่ได้ทำผิด ก.ม. ไม่ได้ทำผิดจริยธรรมตามที่กล่าวหา ปูดเคยเสนอขายที่ดินให้ 2,000 ล้าน
เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 66 ที่ รร.ดิเอมเมอรัลด์ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคเพื่อไทย (พท.) และผู้ร่วมเรือนจำเดียวกันกับนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง แถลงว่า วนายชูวิทย์ แถลงข่าวว่ารัฐเสียหาย 500 ล้านบาท เพราะนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พท. ทำนิติกรรมอำพรางไม่ซื่อสัตย์สุจริต เรื่องนี้ไม่ซับซ้อนเหมือนนายชูวิทย์จับแพะชนแกะพูดความจริงเรื่องเดียว ซึ่งผู้ขายเขาได้กรรมสิทธิ์โดยการแบ่งคืนให้ผู้ถือหุ้นคนละวันกัน ในทางกฎหมายไม่ถือว่าบุคคลดังกล่าวได้กรรมสิทธิ์รวมที่ดินพร้อมกัน และกฎหมายอนุญาตให้ผู้ขายทำได้ ตามระเบียบกรมที่ดินและกรมสรรพากร เชื่อว่าตั้งใจให้เข้าใจบิดเบือนและไม่พูดความจริงทั้งหมด หากพูดความจริงทั้งหมดจะกล่าวหานายเศรษฐาไม่ได้เลย อย่างไรก็ตาม บริษัทแสนสิริ ได้ซื้อที่ดินตามกฎหมาย และเรื่องนี้ไม่มีปัญหาอะไรเลย บริษัทแสนสิริ เป็นนิติบุคคลที่มีบริหารหลายคน ทำไมจ้องเล่นงานนายเศรษฐา เพียงคนเดียว ต่อมายังกล่าวหาว่าเป็นตัวการร่วมรู้เห็นเป็นใจ ยืนยันว่านายเศรษฐา ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนราคาที่ดินที่ซื้อตั้งอยู่ถนนสารสิน ตรงข้ามสวนลุมพินี ทุกคนในวงการอสังหาริมทรัพย์รู้ดีว่าเป็นเหมือนทำเลทอง ดังนั้นราคาที่ดินที่ออกมาเป็นราคาปกติตามท้องตลาด ส่วนราคาที่ดินที่อยู่ซอยสุขุมวิท 24 ของนายชูวิทย์ และครอบครัว ตกตารางวาละเกือบ 3 ล้านบาท ฉะนั้นราคาก็ไม่ต่างกัน เพราะราคาที่ดินจะแพงหรือไม่แพง อยู่ที่ทำเล ยืนยันนายเศรษฐาไม่ได้ทำผิดกฎหมายและผิดจริยธรรมตามที่นายชูวิทย์กล่าวหาแต่อย่างใด
นายพร้อมพงศ์ ยังได้เปิดเผยภาพถ่ายนายชูวิทย์ กับนายเศรษฐาเมื่อวันที่ 8 ก.ย. 65 ว่า เพื่อเสนอชื่อที่ดินแปลงตัวเอง เสนอขายให้บริษัทแสนสิริ ที่เคยขายให้บริษัทหนึ่ง โดยบริษัทได้มัดจำ 400 ล้านบาทมาแล้ว แต่มีปัญหาหลายอย่าง จึงขอยกเลิกสัญญาและยึดเงินมัดจำ และเรียกค่าเสียหาย ทั้งนี้ เมื่อมาเสนอขายกับบริษัทแสนสิริ จะต้องเคลียร์สัญญากับผู้ขายรายเก่าก่อน แต่บริษัทแสนสิริปฏิเสธเรื่องซื้อที่ดินดังกล่าว ต่อมานายชูวิทย์ ได้มาเสนอขายอีกครั้งในราคา 2,000ล้านบาท และถูกปฏิเสธจากผู้บริหารแสนสิริ เพราะมีปัญหาข้อกฎหมาย นี่อาจจะเป็นปัญหาที่ทำให้นายชูวิทย์โกรธเคืองหรือไม่ หวังผลทางการเมืองให้ใครมาเป็นนายกฯ หรือไม่