"น็อต วรฤทธิ์" เปิดวีรกรรมสุดแสบ โดนไล่ออก ไปเรียนเมืองนอกสร้างเรื่องจนถูกแบนวีซ่า
ตอนเด็กๆ คุณพ่อทำงานเยอะ ทำให้พี่น็อตไม่ค่อยได้เจอกับคุณพ่อ พี่น็อตเข้าใจไหม?
น็อต : เข้าใจนะ เราไม่ได้ซีเรียสอะไรกับการที่พ่อไม่ได้อยู่กับเราตลอดเวลา เพราะคุณแม่ทำหน้าที่แทน มันไม่ถึงกับว่าไม่ได้เจอหน้ากันเลย ยังเจอบ่อยๆ แต่ว่าไม่ได้ใช้เวลาร่วมกันนั่นเอง
พ่อเคยรู้วีรกรรมการเกเรของลูกไหม?
อาตุ่ม : ไม่เคยรู้เลย เพิ่งมารู้เรื่องช่วงหลังๆ นี่แหละ
รุ่นนี้เขาทำระเบิดเป็นนะ?
น็อต : เป็นเด็กวัยรุ่นคึกคะนอง สมัยก่อนมันไม่มีโทรศัพท์มือถือให้เล่นกัน สิ่งที่เราเล่นก็เล่นตามนิสัยผู้ชาย ตอนนั้นมันฮิตกระจับ ระเบิดสามเหลี่ยม มันเป็นประทัดชนิดนึง ตอนนั้นเราต้องร้างคามตื่นเต้นให้กับโรงเรียน โรงเรียนมันสงบเกินไป เราก็เอากระจับมามัดรวมกันหลายๆ ก้อน ต่อชนวนยาวๆ แล้วเราไปยัดไว้ในซอกต้นไม้ เราก็จุดแล้ววิ่งหนี แล้วเราก็ไปจุดต้นก้ามปูใหญ่ เสียงดัง คนตกใจกันใหญ่เลย แล้วไปจุดหน้าห้องน้ำ คนก็ตกใจ แต่เราก็ป้องกันนะคอยกันคนไม่ให้ออกมา เพราะถ้าเกิดอุบัติเหตุกับคนเรารับผิดชอบไม่ไหว
ในกลุ่มมีกี่คน?
น็อต : 10-20 คน
โดนไล่ออกหมดไหม?
น็อต : เราโดนไล่ออกคนเดียวเพราะว่า เขาปิดโรงเรียนค้นเลยนะว่าใครมีระเบิด เราเคลียร์กระเป๋าเรียบร้อยไม่มีแน่นอน ตอนตรวจเราก็สบายใจ แต่พอเปิดกระเป๋ามาทุกอย่างมารวมอยู่ที่เราหมดเลย เพื่อนๆ เอามายัดรวมในกระเป๋าเราหมดเลย เราก็โดนคนเดียว นอกจากประทัด กระจับ หนังสือโป๊ยังมี มันคือความคึกคะนองตอนเด็กมากกว่าไว้มี ไว้อวดเพื่อน
อาตุ่ม : เขาเป็นนักกีฬาโรงเรียนด้วยนะ เราคิดว่าเป็นนักกีฬาแล้วปัญหาอื่นๆ จะไม่มี
ความโชคดีคือกลับตัวทัน?
น็อต : จริงๆ ไม่ได้กลับตัวหรอก ถูกดัดสันดานมากกว่า หลังจากนั้นถูกไปอยู่ต่างประเทศ
อาตุ่ม : เราก็คิดว่าลูกเราตั้งใจเรียน เมืองไทยไม่ติดเตรียมอุดม เลยต้องไปเมืองนอก เพื่ออนาคตหารู้ไม่มีเหตุผลอีกต่างหาก
น็อต : โรงเรียนก็เรียกคุณแม่ไปคุยว่าจะเอายังไงดี ลูกมีพฤติกรรมแบบนี้ ถ้าอยู่ต่อไปทางโรงเรียนไม่รู้ว่าจะสามารถทำให้เขานั่นๆ หรือเปล่า แม่ก็โอเคส่งลูกไปเรียนเมืองนอกแล้วกัน เป็นประเทศนิวซีแลนด์
ไปเกิดอะไรขึ้นที่นู่น?
น็อต : ด้วยความที่เราไม่ชอบเรียนหนังสือ ในสมัยก่อนฝรั่งจะดูถูกคนเอเชีย เราก็จะถูกรังแกบ่อยๆ แต่ตอนนั้นเราเริ่มตัวใหญ่แล้ว ไม่ยอมคน ก็มีปัญหาทะเลาะกัน โรงเรียนแรกก็มีปัญหา โดนไล่ออกก็ย้ายโรงเรียนอีก ก็เจอปัญหาเดิมๆ อีก คือ 1.เราไม่ชอบเรียนหนังสือ เราชอบไปใช้ชีวิต แล้วเราโดนคนต่างชาติเขาดูถูก แล้วเราโดนโค้ชที่เราอยู่ด้วยเขียนจดหมายด่าเราให้แม่ฟังว่าลูกคุณเป็นอย่างนี้ๆ นะ ปัญหาเราไม่ใช่เด็กที่เกเรขนาดนั้น แต่ 1.เราไม่ไปเรียนหนังสือ 2.เราอาจจะไม่ได้ช่วยงานบ้าน 3.เราอาจจะไม่ได้ใช้ชีวิตกับคนที่เป็นแฟมิลี่ที่เราไปอยู่ด้วย
ทำไมถึงขั้นต้องแบนวีซ่า?
น็อต : เพราะว่าเราน่าจะโดนโรงเรียนรีพอร์ตไปที่สถานทูตแหละว่าเด็กคนนี้มาแทนที่จะเรียนหนังสือ แต่มาก่อความวุ่นวาย จำได้เขาเขียนว่า เป็นผู้นำคนไทยให้เกเร ซึ่งเราไม่ได้เป็นผู้นำนะ เราเกเรของเราคนเดียว
ตอนนี้เข้านิวซีแลนซ์ได้ไหม?
น็อต : เข้าได้แล้ว ตอนนั้นแค่โดนแบนไม่ให้เรียนหนังสือในเครือ อังกฤษ นิวซีแลนด์ ออสเตรเลียอะไรพวกนี้ แค่ห้ามไปเรียน แต่ไปเที่ยวได้ สุดท้ายแม่คงเห็นว่าไม่ไหว กลับมาเถอะ เลยกลับมาสอบเทียบ ทุกวันนี้เสียดายโอกาสมากๆ สมัยนั้นโอกาสที่เรียนต่างประเทศมันยากนะ ถ้าย้อนกลับไปได้ไม่ทำแน่นอน เสียดาย ทุกวันนี้เราต้องยอมรับว่าเรามีความรู้ไม่เทียบเท่าคนอื่น เราทำด้วยความโชคดี เรามีโอกาสมากกว่าคนอื่นแค่นั้นเอง
จุดเปลี่ยนที่ทำให้กลับมาเป็นเด็กดี แล้วเข้าใจคุณพ่อ?
น็อต : เข้าวงการบันเทิงนี่แหละ มันเปลี่ยนชีวิตเราเยอะเลย เปลี่ยนทั้งนิสัย ความคิด ความอ่านทุกๆ เรื่องเลย ตอนแรกไม่ได้อยู่ในหัวเลยเรื่องเข้าวงการบันเทิง
เห็นว่าเขาเรียกตัวผิดจริงเหรอ?
น็อต : ใช่เขาเรียกผิด ตอนแรกเขาจะเรียกเอส วรฤทธิ์ ชื่อเหมือนกัน อายุเท่ากัน เรียนที่เดียวกัน เรียกผิดมาเรียกน็อต วรฤทธิ์ ไป วันแรกอายุก็ยอมรับนะ อาขอโทษนะลูก อาเรียกผิดคน ไม่เป็นไรอา ผมกลับก็ได้ไม่มีอะไร จนวันนึงเขาต้องการนักแสดงเยอะในเรื่อง เสือ 11 ตัว เขาก็เรียกเรากลับไปอีกครั้งเพื่อไปลองแคสดู สุดท้ายก็ได้มาเล่นละคร แต่เข้าไปก็สร้างวีรกรรมเลย เข้าไปเขาให้ซ้อมละคร เขาให้ซ้อมการแสดงใช่ไหม ไปก็โดนไล่ให้กลับบ้าน มึงกลับไปเดี๋ยวนี้นะ ไม่ต้องมาเหยียบที่นี่อีก เมาไปแล้วไปสายด้วย โดนไล่ออกเลย แต่ว่าไม่กลับ เพราะว่าแฮงค์เลยรอกินข้าวก่อน เขาเห็นถึงความพยายาม เลยเรียกเราไปซ้อมใหม่ เราเลยได้เล่นละคร
เลยเข้าใจชีวิตการทำงาน วิถีการใช้ชีวิตของพ่อมากขึ้น?
น็อต : ใช่ เราเข้าใจ ถ่ายละครเหนื่อยนะ บางทีถ่ายข้ามวัน ข้ามคืน ถ่ายต่างจังหวัดไม่ได้กลับบ้าน ก็เข้าใจคุณพ่อมากขึ้นว่าเขาต้องเหนื่อยขนาดไหนกว่าจะได้เงินมาสักบาทเพื่อมาเลี้ยงดูครอบครัว เพราะเราเจอมากับตัว
จุดนี้เป็นจุดที่พี่เปลี่ยนแปลงตัวเองแล้วเป็นคนที่ดีขึ้นด้วย?
น็อต : ใช่ เพราะเราถูกดัดสันดาน โดนด่าเยอะ พี่โดนด่าเป็นปีกว่าจะเป็น น็อต วรฤทธิ์ แบบทุกวันนี้ได้ พ่อฉลาดไหมล่ะฝากให้คนอื่นด่า ไม่ด่าเอง
คลิปสัมภาษณ์ย้อนหลัง
https://youtu.be/jTkYiuDL0_0?si=HAYxN3rdSYv6Xlm1
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
“มาสุ” ประกบคู่ "ตี๋ ธนพล" ลงซีรีส์วายประชันฝีมือครั้งแรกใน “LOVE LIKE A BIKE ปั่นไปให้ถึงรัก”
2024-11-27 12:20:13
"โอปอล สุชาตา" เปิดใจหลังประกวด Miss Universe 2024
2024-11-27 12:00:04
"หนิง ปณิตา" เคลียร์ชัด ไม่ได้ดักตบใคร ! พร้อมกางหลักฐานแน่น ฟ้องกลับหากถูกใส่ร้าย
2024-11-27 10:40:13
"ไก่ ภาษิต" กับท่าโยคะแปลกๆ เรียกแขกได้เสมอ
2024-11-27 10:20:57