×ข่าวรายการผังรายการรายการสด ร่วมงานกับเราติดต่อเรา

ถ้าหน้าด้านพอจะยกหนี้ให้ !! "ลิลลี่ เหงียน" สุดทน ซัด "ปู มัณฑนา" แรงมากแม่

ถ้าหน้าด้านพอจะยกหนี้ให้ !! "ลิลลี่ เหงียน" สุดทน ซัด "ปู มัณฑนา" แรงมากแม่
2024-07-08 15:50:57

ถ้าหน้าด้านพอก็จะยกหนี้ให้ !! "ลิลลี่ เหงียน" สุดทน ซัด "ปู มัณฑนา" แรงมากแม่ ลั่น ไม่แคร์เงินแค่นี้ จะขายสมบัติมาให้คนอื่นหลอกอีกยังชิลล์ ๆ 



กลายเป็นเรื่องอื้อฉาวสุดๆ ในขณะนี้ สำหรับกรณีอดีตนางงามยืมเงินคนไปทั่วแต่บิดไม่ยอมชดใช้ แถมยังตั้งทนายมาฟ้องกลับเหล่าเจ้าหนี้ โดยมีสามีนักการเมืองเข้ามาหนุนออกหน้าช่วยเหลือ อีกทั้งวันไกล่เกลี่ยก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ เพราะฝ่ายลูกหนี้ไม่ยินยอมคืนเงินตามที่ร้องขอ 




ซึ่ง "ทนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช" ที่ได้มอบหมายดูแลเรื่องคดีจาก "หาญส์ ภักดีหาญส์ หิมะทองคำ" สามี "ปู มัณฑนา" ได้โต้ตอบว่าอีกฝ่ายเรียกเก็บดอกเบี้ยไม่เป็นธรรม แถมนำเรื่องไปออกสื่อ จนทำให้เกิดความเสียหายต่อคนในครอบครัว

วานนี้ (7 ก.ค. 67) "ลูกหมี รัศมี" และเจ้าหนี้รายอื่น รวมทั้งนักแสดงสาวชาวเวียดนาม "ลิลลี่ เหงียน" เดินทางมาที่สำนักงานทนายเดชา เพื่อแต่งตั้งทนายฟ้องลูกหนี้ เพราะถูกคู่กรณีข่มขู่ว่าจะไม่ได้เงิน แถมจะต้องติดคุกอีกด้วย





โดย "ลิลลี่ เหงียน" เปิดใจว่า ที่ "ปู มัณฑนา" ได้พูดถึงลิลลี่ว่าพามิจฉาชีพเข้ามา ทำให้ปูสูญเสียเงิน 500,000 บาท จะมาขอชี้แจงตรงนี้ว่า ไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย เพราะคนที่เสียเงินคือตัวเธอ เพื่อที่จะช่วยปู ซึ่งเธอจะขอฝากข้อความนี้ถึง ปู มัณฑนา ให้ได้ฟัง ทุกอย่างที่ตนได้พูดออกไปคือความจริง โดยคนที่เขากล่าวอ้างว่าเป็นมิจฉาชีพ คือตนรู้จัก 'พี่กอไก่' ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง แล้วก็บังเอิญเจอกัน แลก LINE คุยกัน แต่ไม่ได้สนิทสนมอะไรกัน เนื่องจากพี่กอไก่ คนนี้เคยดูข่าวที่ลิลลี่เคยถูกโกง 50 ล้านบาท และเขาก็เข้ามาให้กำลังใจ นั่นคือวันแรกที่เรารู้จักกัน จากนั้นมาเมื่อประมาณเดือนที่แล้ว พี่ปูมาบอกว่าพี่ปูถูกโกงที่ดินร้อยล้าน ปูเครียดมาก ๆ ก็เลยจะชวนลิลลี่ไปทานข้าวด้วยกันที่ทองหล่อ แต่ตัวลิลลี่ได้นัดกับพี่กอไก่คนนี้ไว้แล้ว ซึ่งพี่ก็กอไก่คนนี้ได้โทรมาหาลิลลี่ว่าพี่อกหัก พี่เสียใจไม่มีเพื่อน ลิลลี่ก็เลยชวนมากินข้าว และมาเจอกันกับพี่ปู

พออยู่ที่ร้านอาหาร พี่ปูก็บอกว่าพี่ปูถูกโกงที่ดิน 100 ล้าน แล้วพี่ก็กอไก่ก็เสนอช่วยพี่ปู เกี่ยวกับเรื่องที่ดิน วันนั้น ตนก็เป็นพยานให้พี่ปูได้ พี่กอไก่ บอกว่าเดี๋ยวจะช่วยนะ ไม่ต้องเสียเงินอะไรเลย หลังจากนั้นพี่ปูก็นัดไปเจอกันที่ร้านอาหารอิตาเลียนแห่งหนึ่ง ตนก็ไม่ได้สนิทกับพี่กอไก่ จึงไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งก่อนหน้านั้น พี่กอไก่ บอกว่าไม่มีการเสียเงินใด ๆ ทั้งสิ้น แต่พอคุยอีกครั้ง พี่กอไก่บอกว่าต้องจ่ายค่าดำเนินการให้กับผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นจำนวนเงิน 400,000 บาท ซึ่งตรงนี้ ตนกับพี่ปูบอกกับพี่กอไก่ ว่า งั้นขอยุติการดำเนินการ เพราะว่าตอนนี้ พี่ปูไม่มีเงิน

แต่พี่กอไก่ คนนี้บอกว่า พูดกับผู้ใหญ่แล้วมันเสียคำพูดไม่ได้ เสียหน้าไม่ได้ แต่พวกเราสองคนก็ไม่โอเคที่พี่ปูจะต้องจ่ายเงิน 400,000 บาท แต่อยู่ ๆ พี่กอไก่ ก็โอนเงินจากบัญชีตัวเองไปให้ผู้ใหญ่ที่อ้างว่าจะช่วยพี่ปู พอเขาโอนเงินไปให้ผู้ใหญ่ เราขอดูสลิปเขาก็ให้ดูสลิปแป๊บเดียว แล้วขอให้ตนโอนให้ พี่กอไก่ 1 แสนด้วย

ซึ่งตอนนั้น ตนก็โชว์เงินในบัญชี ว่าเหลือเงินแค่ 250,000 บาท ซึ่งไม่มีศักยภาพจะช่วยเหลือได้ แต่พี่กอไก่ก็พยายามให้ตนช่วยเพื่อการันตีให้พี่ปู

แต่เมื่อดำเนินการไปแล้ว พี่กอไก่ ไม่สามารถช่วยตามที่บอกได้ เลื่อนไปเรื่อย ๆ และหลังจากนั้นลูกชายตนเข้าโรงพยาบาล ตนจะต้องเอาเงินส่วนที่เหลือไปจ่ายค่าประกันให้กับลูกชายกับคุณแม่ แต่พี่ปูก็มาหลอกตนว่า ขอยืมเงิน 70,000 บาท เดี๋ยวพี่จะคืนตอนเย็น เพราะจะเอาเงินนี้ไปทำสัญญา ได้งานแล้วพี่จะคืนให้เลย แต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ตนยังไม่ได้เงินคืน ซึ่งตนมีหลักฐานทั้งหมด





"ลิลลี่" เล่าต่อว่า ก่อนหน้านี้พี่ปูยืมเงินตน รวมทั้งหมด 8 แสนบาท โดยเงินก้อนนั้นได้มาคืนแค่ 2 แสนบาท ทั้งที่ผ่านมาไม่เคยทวง ไม่เคยคิดดอกเบี้ย มีแต่ฝ่ายพี่ปูที่จะเสนอดอกเบี้ยเอง เมื่อมารวมกับยอดล่าสุดทั้งหมดก็ตก 670,000 บาท แล้วพี่ปูมาทำร้ายจิตใจตน ตนไม่โอเค

ตอนนี้ ตนไม่สนใจเลยกับเงินที่เป็นหนี้ 670,000 บาท เพราะว่าหลายปีที่ผ่านมา ตนโดนโกงตั้ง 100 ล้าน ยังไม่สนใจเลย “กับไอ้แค่ 670,000 บาท ถ้าพี่หน้าด้านพอ โดยที่ไม่ต้องพูดให้มันยืดเยื้อ เพราะหนูเบื่อกับคำว่าเดี๋ยวก่อน รอก่อน เพราะหนูเป็นคนทวงหนี้คนไม่เก่ง เพราะไม่งั้นคงไม่สูญเสียเงินไปมากขนาดนั้น พี่ก็พูดมาเลย หนูยกหนี้ให้เลย ถือว่าหนูทำบุญแล้วออกไปจากชีวิตหนูซะ หนูพูดจริง ๆ เงินแค่ 670,000 บาท ตอนนี้ เงินในกระเป๋าหนูเกลี้ยงเลย แต่หนูใจป๋า หนูให้พี่เลย ถือว่าหนูทำบุญทำทาน หนูคงได้บุญกลับมา แล้วหวังว่าบุญนี้ จะส่งผลให้พี่มีดวงตาเห็นธรรมบ้าง”


แล้วถ้าสิ่งไหน ที่คิดว่าตนพูดไม่จริง พี่กล้าออกมาพูดความจริงเรื่องของตนหรือเปล่า ถ้าพี่ฟ้องมา ตนฟ้องกลับ ไม่รับคำขอโทษขอรับเป็นเงินสด “จะบอกว่าลี่โกรธ เสียใจ แล้วก็ไม่ยุติธรรมกับลี่ ไม่โอเคเลย ถ้าคำพูดของลี่มันไปสะกิดจิตใจของพี่ และพี่หาญ ถ้าพี่ฟ้องหนู หนูก็ฟ้องพี่กลับเหมือนกัน”



ที่ผ่านมาพี่ปูคุยกับตนแต่ละที น้องลี่หานายทุน หานักลงทุนให้พี่หน่อย อ้างว่าช่วยให้ตนมีผลงาน แต่ตนตนยังไม่เคยเห็นอะไรซักอย่าง เขาเคยพาตนไปกองถ่ายหนึ่งครั้ง ตนก็ดีใจมาก ๆ พี่เขาบอกว่าจะช่วย ตนก็ดีใจ ก็เลยให้พี่เขายืมเงินไป

“หนูก็ยอมแล้วหนูเหนื่อยจริง ๆ เลยกับพี่ปู หนูก็เลยยกหนี้ให้แล้วกัน เพราะว่าที่ผ่านมาหนูก็โดนเยอะ หนูจะไม่พูดอะไรอีกกับพี่ปู แต่หนูได้ยินมาว่าพี่ปูกับพี่หาญจะฟ้องหนู หนูจะไม่ขอความเมตตาจากพี่ปูกับพี่หาญ มันเปลืองน้ำลายหนู แต่หนูขอความเมตตาจากประชาชนผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่เมือง หนูลิลลี่เป็นชาวต่างชาติ หนูรักประเทศไทยมาก หนูมีกินมีใช้ก็แผ่นดินไทย เข้าใจศาสนาพุทธก็แผ่นดินไทย กินอิ่มนอนหลับก็แผ่นดินไทย และหนูก็รักประเทศไทยเหลือเกิน หนูเชื่อว่ายังมีคนไทยที่มีจิตใจดีมีเมตตา แล้วหนูก็ขอผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่เมือง ช่วยหนูด้วย หนูไม่มีใครเลย

ตอนนี้ หนูก็กลัวเหมือนกัน ตัวหนูไม่ได้มีสติปัญญามาก ไม่ได้รู้เรื่องกฎหมาย วันนี้หนูใช้คำพูดไม่ดี หรือหยาบคาย อาจเป็นเพราะอารมณ์ แต่หนูก็ตั้งใจพูดแบบนั้นจริง ๆ เพราะหนูอยากให้เขารู้ว่า หนูโกรธเป็น โมโหได้ โมโหร้ายเหมือนกัน อย่าเหยียบหนู เพราะหนูก็อยากปกป้องตัวเองเหมือนกัน”