"สุรพล สมบัติเจริญ" ราชาเพลงลูกทุ่งกับความลับปริศนาฆาตกรรม

ปริศนาการตายที่ยังไม่มีคำตอบ
ถึงแม้จะผ่านมาหลายสิบปีแล้ว แต่คดีการเสียชีวิตของ "สุรพล สมบัติเจริญ" ก็ยังคงเป็นปริศนาที่ไม่มีใครสามารถไขได้อย่างแน่ชัด มีการตั้งข้อสันนิษฐานและทฤษฎีต่างๆ มากมายเกี่ยวกับสาเหตุการตาย แต่จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนพอที่จะสรุปได้ว่าใครเป็นคนลงมือและทำไมถึงต้องฆ่าสุรพล 

"ใครฆ่าสุรพล ???????" เป็นคำถามค้างคาใจแฟนเพลงมาหลายสิบปี หรือคนฆ่าสุรพลตายจะเปิดเผยตัวก็ได้นะ เพราะคดีหมดอายุความแล้ว...วอนผู้รู้จริง โปรดแจ้ง เพื่อชี้แนะด้วยเถิด อันนี้แฟนๆ ตายตาไม่หลับจริงๆ เพราะไม่รู้จะไปเอาข้อมูลมาจากไหนเพื่อประกอบคำสันนิษฐาน" เหล่านี้เป็นคำพูดของแฟนเพลงรุ่นใหญ่ที่หยิบเอาประเด็นการตายของครูเพลงในตำนานมาเป็นหัวข้อสนทนา

"สุรพล สมบัติเจริญ" ถูกลอบยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๑๑ ที่วัดหนองปลาไหล อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ทิ้งผลงานเพลงลูกทุ่งอมตะหลายเพลง เช่น ๑๖ ปีแห่งความหลัง, น้ำตาจ่าโท, น้ำค้างเดือนหก, หัวใจผมว่าง, เขมรไล่ควาย, สาวสวนแตง, หงส์ปีกหัก ฯลฯ 

จนมีคนเล่าลือกันว่า เคยได้ยินคนแก่ในวงเหล้าเล่าให้ฟังว่าที่ "สุรพล" โดนยิงเพราะภรรยาหนีสามีมาดู "สุรพล" ร้องเพลง ซึ่งสามีลั่นวาจาถ้าภรรยาไปดูจะตามไปยิงสุรพล มือปืนคนนี้บ้านอยู่แถวๆ ต.จรเข้สามพัน จ.สุพรรณบุรี ซึ่งจริงเท็จยังไงไม่มีใครล่วงรู้ เพราะฟังขี้เมาเมาท์มาอีกที





มรดกที่ยังคงอยู่
แม้ว่าสุรพล สมบัติเจริญจะจากโลกนี้ไปแล้ว แต่เพลงของเขาก็ยังคงเป็นที่รักและนิยมของคนไทยทุกเพศทุกวัย เพลงของเขามีเนื้อหาที่กินใจและสื่อถึงความเป็นคนไทยได้อย่างลึกซึ้ง ทำให้เพลงของเขายังคงเป็นอมตะและถูกถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาจนถึงปัจจุบัน

ความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่
การจากไปของ "สุรพล สมบัติเจริญ" เป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของวงการเพลงลูกทุ่งไทย และเป็นการสูญเสียบุคคลสำคัญของประเทศชาติ ทำให้วงการเพลงลูกทุ่งสูญเสียบุคคลที่มีพรสวรรค์และความสามารถในการสร้างสรรค์ผลงานเพลงที่เป็นเอกลักษณ์ไปอย่างน่าเสียดาย



การรำลึกถึง


ทุกปีจะมีการจัดงานรำลึกถึงสุรพล สมบัติเจริญ เพื่อเป็นการแสดงความเคารพและระลึกถึงบุคคลผู้มีความสำคัญต่อวงการเพลงลูกทุ่งไทย การจัดงานเหล่านี้เป็นการแสดงให้เห็นว่าสุรพล สมบัติเจริญยังคงอยู่ในใจของคนไทยเสมอ

บรรดาศิษย์ของครูสุรพล สมบัติเจริญ จะมารวมตัวกันที่ตึกเหลือง วัดปากน้ำภาษีเจริญ เพื่อร่วมกันทำบุญเลี้ยงพระเพล อุทิศส่วนกุศลให้ครูสุรพล และครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆ ที่ล่วงลับไปแล้ว โดยประเพณีการทำบุญนี้สืบทอดกันมาอย่างต่อเนื่องกว่า 50 ปีแล้ว

ทำไมต้องเป็นวัดปากน้ำภาษีเจริญ สิ่งนี้ถูกระบุความกระจ่างโดย "เจนภพ จบกระบวนวรรณ" ท่านบอกว่า ครูสุรพล สมบัติเจริญ ท่านเคารพนับถือ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ท่านบวชเรียนก็ที่วัดปากน้ำ อยู่จำพรรษาในกุฏิเดียวกันกับ พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระธรรมรัตนากร หลวงพี่สงัด ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำรูปปัจจุบัน และ ตอนที่ท่านสิ้นลม ร่างของท่านก็ถูกนำมาส่งมาสวดพระอภิธรรมที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ จนเมื่อกลายเป็นเถ้าอัฐิแล้วก็ยังบรรจุไว้ที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ด้วยเช่นกัน ฉะนั้นเมื่อจะต้องทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ครู ศิษย์ทุกคนจึงลงมติกันว่าให้ทำเป็นประเพณีที่ตึกเหลือง วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ



การจากไปของสุรพล สมบัติเจริญเป็นเหตุการณ์ที่น่าเศร้าและยังคงเป็นปริศนาที่ไม่มีวันลืม แต่เพลงของเขาก็ยังคงเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศไทย และจะยังคงอยู่ต่อไปในใจของคนไทยทุกคน.