“สุนารี-ฮาย” เปิดใจถึงมิตรภาพกว่า 20 ปี

สุนารี : เขาจะกลัว ไม่ค่อยกล้า แต่พี่จะกล้า อย่างเวลาที่ไปขึ้นคอนเสิร์ต ฮายเหมือนจะดูเซ็กซี่ๆ นะ แต่ไม่ได้ทะลึ่ง หมายถึงบนเวทีนะ หลังเวทีอีกเรื่องหนึ่ง แต่เราบนเวทีกับหลังเวที (หัวเราะ)

หนิง : แม่คือเรียบร้อยมากนะ

ฮาย : หนิง คิดผิดแล้ว

สุนารี : วันนั้นขึ้นคอนเสิร์ตคู่กับฮายนี่แหละ เขาบอกอ้วนเดี๋ยวร้องแบบนี้นะ แบบลิ้นรัวๆๆๆ

ฮาย : แต่เราไม่ชินไง ไม่ค่อยได้เล่นแบบเขา พอเราเจอกัน หลังจากนั้นก็ได้มีโอกาสได้เจอกันอีก

เวลาทำงานทั้งคู่ชอบแอบตุนของกิน?
ฮาย : มันเป็นธรรมชาติ เพราะบางทีเริ่มตั้งแต่เที่ยงกว่าจะเสร็จก็ดึก

สุนารี : เวลาไปรายการใต้โต๊ะฮายคือจะมีแต่ของกินเต็มไปหมด แล้วเขาบางทีก็จะไปเตะหกเลอะไปหมด จนรายการต้องทำโต๊ะใหม่ที่แบบเห็นข้างล่างหมดจะได้ไม่เอาอะไรมาวาง

มีช่วงนึงเขาเมาท์ว่าแม่ฮายเวลาพูดกับใครก็พูดไม่รู้เรื่อง?
สุนารี : นางลดน้ำหนักไง พอดีวันนั้นเดินตาม เขาก็เดินเซจะล้ม

ฮาย : ตอนนั้นคุมอาหารลงไป 8 โล ไม่กินแป้ง กินแค่ไข่กับนม เหมือนหักดิบไป

สุนารี : ตอนเขาไปนั่งเป็นคอมเมนต์ก็พูดวน และช้ามาก

ฮาย : พิธีกรก็โยนมา เราก็ต้องทวน ขาดแป้งน้ำตาลตก เราก็ไม่รู้ตัว



แต่มีคนขี้ลืม จนแบบไม่คิดจะมีคนลืมได้แบบนี้?
ฮาย : เจ๊ขี้ลืม บางวันเขานั่งคอมเมนต์ทั้งวัน แล้วบอกว่าลืมใส่กางเกงในออกมา ก็อยากจะถามคนข้างๆ ได้กลิ่นบ้างมั้ย

สุนารี : คือหลังๆ อายุมากขึ้น ยกทรงก็ไม่อยากใส่ ถ้าใส่ก็อยากใส่ยืดๆ กางเกงในก็เหมือนกันจะใส่รัดๆ เหมือนสาวๆ ก็ไม่ได้ ต้องเอาตัวใหม่ทิ้งใส่แต่ตัวเก่า คือเจ๊เป็นคนทำอะไรหลายๆ อย่างกับข้าว นั่นนี่ บางทีใส่ชุดสบายๆ มาทำอาหารใส่แล้วก็ออกจากบ้านมาเลย ก็เคยเป็นครั้ง 2 ครั้ง คือกว่าจะรู้ก็ตอนเปลี่ยนชุดเข้ารายการ ไม่รู้โหวงๆ เพราะชุดมันฟิตเป๊ะ

พี่สุเป็นคนนิ่งๆ จนคนเข้าใจว่าหยิ่ง?
ฮาย : เขาเป็นของเขาอย่างนี้ เมื่อก่อนไม่เคยทำงานด้วยกันเราก็จะเกร็งๆ นิ่งๆ นางพญามาก เวลาอยู่หน้ากล้องหรือร้องเพลงจะสง่ามาก แต่พอทำงานด้วยกันมันไม่ใช่ คือหลายคนมาคุยกับเราว่าเขาหน้านิ่งหยิ่ง เราก็บอกอย่าเข้าใจผิดเขาก็เป็นอย่างนั้น บางคำหลุดออกมาอย่างที่เราคิดไม่ถึงเลยก็ไม่มี

พี่ฮายลองรีวิวพี่สุในมุมที่ไม่เคยเห็น?
ฮาย : เอาเป็นว่าคำที่เราไม่กล้าพูดเขากล้าพูด อย่างเจ๊เขาเป็นวัยทองมาหลายปีจะรู้สึกยังไงก็พูด 5 ปีแล้วเนาะ เขาก็พูดตรงๆ และบางคำ เขาพูดแบบจริงใจสุดๆ เราอยู่กับเขาไม่เกร็งเลย สนุกนะ

สุนารี : ถ้าคนไม่อยู่กับหนูก็จะไม่รู้ว่าเป็นไง ถ้าไม่สนิทเราก็จะนิ่งๆ ไปไหนมาไหนก็จะไปคนเดียว นอกจากจะไปทำงานเจอน้องๆ

พี่ฮายสนิทสุดแล้วแต่พอมีความทุกข์ทำไมไม่เล่าให้พี่ฮายฟัง?
สุนารี : แม่จะเป็นแบบว่าถ้ามีความสุขจะแชร์ให้คนรอบข้างรับรู้ แต่พอมีความทุกข์ ก็คิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของเราก็เลือกที่จะจบที่ตัวเราเอง ก็พยายามทำตัวเองให้เจ็บน้อยที่สุด เหมือนเป็นประสบการณ์สะสม สุขทุกข์ิอยู่คู่กัน

ให้กำลังใจกันยังไง?
ฮาย : เวลาเราเจอกันถ้าเขาอยากคุยกับเราก็จะให้กำลังใจเขา เชื่อว่าเขาอาจจะกำลังจัดการปัญหาของเขาอยู่ก็ได้ ก็คือต้องให้กำลังใจเขา ต้องให้เวลา บางแว๊บก็มีน้อยใจที่เขาไม่พูดกับเรา แต่ถึงเวลาเดี๋ยวเขาพูดเอง มีวันนึงเขาก็มาพูดแล้วร้องไห้กับเราก็กอดให้กำลังใจ เขาก็กำลังจัดการเรื่องของตัวเองอยู่ ผ่านไปสองเดือนก็ปกติ ผู้หญิงคนนี้เก่งมาก 5 4 3 2 เขาก็ทำงานได้ปกติเหมือนเดิม

มุมมองด้านความรักของแม่เปลี่ยนไปมั้ย?
เวลาทำงานทั้งคู่ชอบแอบตุนของกิน?

ฮาย : มันเป็นธรรมชาติ เพราะบางทีเริ่มตั้งแต่เที่ยงกว่าจะเสร็จก็ดึก

สุนารี : เวลาไปรายการใต้โต๊ะฮายคือจะมีแต่ของกินเต็มไปหมด แล้วเขาบางทีก็จะไปเตะหกเลอะไปหมด จนรายการต้องทำโต๊ะใหม่ที่แบบเห็นข้างล่างหมดจะได้ไม่เอาอะไรมาวาง



มีช่วงนึงเขาเมาท์ว่าแม่ฮายเวลาพูดกับใครก็พูดไม่รู้เรื่อง?
สุนารี : นางลดน้ำหนักไง พอดีวันนั้นเดินตาม เขาก็เดินเซจะล้ม

ฮาย : ตอนนั้นคุมอาหารลงไป 8 โล ไม่กินแป้ง กินแค่ไข่กับนม มันเริ่มปวดไข่แล้วไง เหมือนหักดิบไป

สุนารี : ตอนเขาไปนั่งเป็นคอมเมนต์ก็พูดวน และช้ามาก

ฮาย : พิธีกรก็โยนมา เราก็ต้องทวน ขาดแป้งน้ำตาลตก เราก็ไม่รู้ตัว

แต่มีคนขี้ลืม จนแบบไม่คิดจะมีคนลืมได้แบบนี้?
ฮาย : เจ๊ขี้ลืม บางวันเขานั่งคอมเมนต์ทั้งวัน แล้วบอกว่าลืมใส่กางเกงในออกมา ก็อยากจะถามคนข้างๆ ได้กลิ่นบ้างมั้ย

สุนารี : คือหลังๆ อายุมากขึ้น ยกทรงก็ไม่อยากใส่ ถ้าใส่ก็อยากใส่ยืดๆ กางเกงในก็เหมือนกันจะใส่รัดๆ เหมือนสาวๆ ก็ไม่ได้ ต้องเอาตัวใหม่ทิ้งใส่แต่ตัวเก่า คือเจ๊เป็นคนทำอะไรหลายๆ อย่างกับข้าว นั่นนี่ บางทีใส่ชุดสบายๆ มาทำอาหารใส่แล้วก็ออกจากบ้านมาเลย ก็เคยเป็นครั้ง 2 ครั้ง คือกว่าจะรู้ก็ตอนเปลี่ยนชุดเข้ารายการ ไม่รู้โหวงๆ เพราะชุดมันฟิตเป๊ะ

พี่สุเป็นคนนิ่งๆ จนคนเข้าใจว่าหยิ่ง?
ฮาย : เขาเป็นของเขาอย่างนี้ เมื่อก่อนไม่เคยทำงานด้วยกันเราก็จะเกร็งๆ นิ่งๆ นางพญามาก เวลาอยู่หน้ากล้องหรือร้องเพลงจะสง่ามาก แต่พอทำงานด้วยกันมันไม่ใช่ คือหลายคนมาคุยกับเราว่าเขาหน้านิ่งหยิ่ง เราก็บอกอย่าเข้าใจผิดเขาก็เป็นอย่างนั้น บางคำหลุดออกมาอย่างที่เราคิดไม่ถึงเลยก็ไม่มี

พี่ฮายลองรีวิวพี่สุในมุมที่ไม่เคยเห็น?
ฮาย : เอาเป็นว่าคำที่เราไม่กล้าพูดเขากล้าพูด อย่างเจ๊เขาเป็นวัยทองมาหลายปีจะรู้สึกยังไงก็พูด 5 ปีแล้วเนาะ เขาก็พูดตรงๆ และบางคำ เขาพูดแบบจริงใจสุดๆ เราอยู่กับเขาไม่เกร็งเลย สนุกนะ

สุนารี : ถ้าคนไม่อยู่กับหนูก็จะไม่รู้ว่าเป็นไง ถ้าไม่สนิทเราก็จะนิ่งๆ ไปไหนมาไหนก็จะไปคนเดียว นอกจากจะไปทำงานเจอน้องๆ

พี่ฮายสนิทสุดแล้วแต่พอมีความทุกข์ทำไมไม่เล่าให้พี่ฮายฟัง?
สุนารี : แม่จะเป็นแบบว่าถ้ามีความสุขจะแชร์ให้คนรอบข้างรับรู้ แต่พอมีความทุกข์ ก็คิดว่ามันเป็นเรื่องส่วนตัวของเราก็เลือกที่จะจบที่ตัวเราเอง ก็พยายามทำตัวเองให้เจ็บน้อยที่สุด เหมือนเป็นประสบการณ์สะสม สุขทุกข์ิอยู่คู่กัน

ให้กำลังใจกันยังไง?
ฮาย : เวลาเราเจอกันถ้าเขาอยากคุยกับเราก็จะให้กำลังใจเขา เชื่อว่าเขาอาจจะกำลังจัดการปัญหาของเขาอยู่ก็ได้ ก็คือต้องให้กำลังใจเขา ต้องให้เวลา บางแว๊บก็มีน้อยใจที่เขาไม่พูดกับเรา แต่ถึงเวลาเดี๋ยวเขาพูดเอง มีวันนึงเขาก็มาพูดแล้วร้องไห้กับเราก็กอดให้กำลังใจ เขาก็กำลังจัดการเรื่องของตัวเองอยู่ ผ่านไปสองเดือนก็ปกติ ผู้หญิงคนนี้เก่งมาก 5 4 3 2 เขาก็ทำงานได้ปกติเหมือนเดิม



มุมมองด้านความรักของแม่เปลี่ยนไปมั้ย?
สุนารี : ไม่มีใครเก่งหรอกเรื่องความรัก แค่เรารักตัวเอง ความรักก็ดีเสมอ เวลามีความรักก็จะเหมือนเรามีพลังพิเศษ มันจะดูแลตัวเอง เปล่งประกายออกมาทางสายตา

อัพเดตเรื่องบ้านหน่อย เห็นว่าประกาศขายบ้านแต่คนมาจีบ?
สุนารี : คือประกาศขายบ้านก็โทรคุยไปเรื่องบ้าน พอแลกไลน์ก็ทักมาคุยส่งประวัติตัวเองมา ส่วนมากเป็นวัยเกษียร เราไม่ได้เลือกวัยหรอก แค่เป็นที่เรารักก็ได้

ทำไมถึงขายบ้าน ร้อนเงินใช่มั้ย?
สุนารี : ก็จริงๆ บ้านเป็นเงินเก็บของเรา พอแม่ไม่อยู่ก็รับปากกับแม่ไว้ว่าจะไปอยู่โคราช ก็จะขาย 2 หลังแหละ แต่ตอนนี้ปล่อยไปหลังเดียวก่อน ก็จะไปๆ มาๆ โคราชตามที่บอกแม่ไว้ ก็โทรมาได้ตามเบอร์

ตอนมีความรักจะดูแลตัวเอง พอไม่มีความรัก?
สุนารี : คือเราก็ต้องดูแลตัวเอง เพราะเรายังทำงานในวงการ

ใครดูแลตัวเองดีกว่ากัน?
ฮาย : เจ๊ดูแลตัวเองดีมาก ถ้าเขาปล่อยตัวคือความเป็นธรรมชาติสูงมาก แต่งตัวสบายๆ รองเท้าแตะ

พี่ฮายคนที่บ้านโดนโกงเกี่ยวกับการลงทุนไปล้านห้า?
ฮาย : อยากให้ทุกคนใช้ชีวิตแบบมีสติมากๆ น้องสาวก็อยากหารายได้พิเศษ กดไลก์ กดแชร์ คือเขาโทรมาก่อนว่าเขาเป็นลูกค้าชั้นดี จะส่งของมาให้ แล้วถ้าคุณอยากได้เขาจะส่งลิงค์มาให้กด ไลก์ กดแชร์ คลิกละ 25 บาท ซึ่งวันนั้นเขาก็ว่างเขาก็ได้มา 500 บาท หลังจากนั้นเขาก็บอกให้อัพเลเวล ก็จ่ายเงิน แล้วก็จะได้เงินกลับมา เพราะฉะนั้นก็จะเสียเงินไปเยอะ คล้ายๆ เล่นแชร์เลย เหมือนโอนกลับมาให้ 7 หมื่น พอได้กลับมาก็เล่นอีกโดยเพิ่มเงินเรื่อยๆ จำนวนหลักล้าน ยอดสุดท้าย 1.5 ล้าน ไม่ใช่น้องสาวโดนคนเดียวนะ พอออกข่าวมีผู้เสียหายเยอะมาก อยากให้ระวังตัว ยอมรับโกรธน้องสาว เขาขอยืมเงินไปทั่วเลย เราก็คิดว่าน้องเล่นการพนัน เพราะยืมไปทั่วก็มีคนโทรมาบอก และก็ไปกู้นอกระบบมา 4.5 แสน และไม่คืนตามกำหนดก็ถูกเขาก็กักตัวไว้จนโทรมาหาเรา ตอนนี้เรื่องถึงตำรวจแล้ว ก็ต้องดูเส้นทางการเงิน มีอยู่คนนึง 50 ล้าน เขาเล่นเยอะมาก น้องเรากลายเป็นน้อยมาก

เป็นเพื่อนกันมา 20 ปี มีความในใจจะบอกอะไรกันมั้ย?
ฮาย : จริงๆ พี่สาวคนนี้อย่าถามว่ารักเมื่อไหร่ มันทำงานอยู่ด้วยกันทุกวันมันซึมซับกันไปหมดแล้ว คือเราห่วง เรื่องขับรถ ง่วงก็จอดนอน ผู้หญิงคนนี้ดื้อที่สุดชอบอยู่คนเดียว บางทีเขาจะกลับโคราชเราอยากโทรไปกลัวเขาไม่สะดวกห่วงจริงๆ นะ

สุนารี : เหมือนกันก็เป็นห่วงตลอด และก็รักคุณแม่เหมือนแม่คนนึง ดูแลคุณแม่ดีๆ



คลิปสัมภาษณ์ https://youtu.be/XXMSdyhOv7M?si=abks7ioMNJvJbsii