"ส.ส.ไพลิน" ประสานกรมประมงคืนพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำให้ชาวประมง
เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ที่หอประชุมอำเภอพระสมุทรเจดีย์ ที่ว่าการอำเภอพระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ กรมประมงได้จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นเพื่อทบทวนเขตพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม ประเภท การเพาะเลี้ยงหอยทะเล โดยมี น.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายประวิทย์ ขำร้าย ประมง จ.สมุทรปราการ นายธิติวัฒน์ ชูรัตนหิรัญโชติ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ต.แหลมฟ้าผ่า นายวิษณุ เข่งสมุทร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 ต.แหลมฟ้าผ่า แกนนำกลุ่มรักบ้านเกิด พร้อมผู้ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้านเข้าร่วมการประชุม 210 คน
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากกรณีปัญหาความขัดแย้งที่เกิดในพื้นที่ อ.พระสมุทรเจดีย์ และ อ.เมืองสมุทรปราการ โดยสาเหตุนั้นมาจากการอนุญาตให้ทำการเพาะเลี้ยงหอยทะเล มีการตั้งฟาร์มบริเวณสันดอนปากแม่น้ำ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีการเกิดของหอยแครงตามธรรมชาติ ทำให้ชาวบ้านเกิดความกังวลว่าจะไม่สามารถเข้าไปเก็บหอยแครงนำไปขายเพื่อจุนเจือครอบครัวได้
น.ส.ไพลิน กล่าวกับที่ประชุมว่า อ.พระสมุทรเจดีย์นั้น มีปัญหาในเรื่องการทำกินของประชาชนที่ประกอบอาชีพประมงในหลายมิติ และปัญหาการเช่าที่ทำฟาร์มหอยของเอกชน โดยตนได้ประสานไปทางท่านรองอธิบดีกรมประมง นำปัญหาดังกล่าวให้กรมประมงได้ทราบและหาแนวทางการแก้ปัญหาในพื้นที่ดังกล่าวนั้น เป็นพื้นที่สาธารณะ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ จ.สมุทรปราการประกอบอาชีพได้
น.ส.ไพลิน ยังได้กล่าวถึงประเด็นเรื่องการอุปกรณ์โพงพาง ซึ่งเป็นเครื่องมือจับสัตว์น้ำแบบดั้งเดิมของชาวบ้านว่า ตาม พ.ร.ก.ควบคุมสัตว์น้ำในปัจจุบันนี้ โพงพางถูกระบุเป็นเครื่องมือจับสัตว์น้ำผิดกฎหมาย แต่อาชีพดั้งเดิมของคนในพื้นที่ ที่เรียกว่าประมงหน้าบ้านนี้คือการกางโพงพาง ซึ่งการประกอบอาชีพประมงหน้าบ้านชนิดนี้ ส่วนใหญ่จะทำกันในคลองสรรพสามิต ซึ่งปัจจุบันนั้น การสัญจรทางน้ำลดน้อยลง และไม่เป็นอุปสรรคในการสัญจรแต่อย่างใด จึงอยากจะฝากทางสำนักงานประมง จ.สมุทรปราการ พิจารณาในเรื่องนี้ เนื่องจากที่ผ่านมานั้น ไม่มีมาตการเยียวยา แต่อย่างใด ซึ่งต้องช่วยกันเพื่อหาทางออกให้กับพี่น้องประชาชนที่ประกอบอาชีพตรงนี้ เพราะเป็นการไปปิดกั้นและทำลายอาชีพดั้งเดิม และมีข้อสงสัยว่ามีบางจังหวัดที่ยังสามารถทำอาชีพกางโพงพางได้ แต่ทำไม อ.พระสมุทรเจดีย์ถึงกลับมาทำไม่ได้ รวมทั้งปัญหาการใช้เรือรุน ซึ่งเป็นเรือประมงขนาดเล็กในการทำกิน ประชาชนก็ได้รับความเดือดร้อน ตนจึงขอเป็นปากเป็นเสียงให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
น.ส.ไพลิน กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ สำนักงานประมง จ.สมุทรปราการ ได้แจ้งว่า ขณะนี้ ทางกรมประมง ได้ ตัดพื้นที่เขตเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุม ประเภท การเพาะเลี้ยงหอยทะเลออกบางส่วน ซึ่งเป็นของเอกชนที่ได้รับอนุญาต บริเวณสันดอนปากแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งด้านฝั่งตะวันออก พื้นที่ประมาณ 2,847.08 ไร่ และฝั่งตะวันตก พื้นที่ประมาณ 3,911.38 ไร่ รวมเป็นพื้นที่ประมาณ 6, 758.46 ไร่ คืนเป็นพื้นที่สาธารณะ ให้พี่น้องประชาชน จ.สมุทรปราการ
