ดราม่ามาเต็มๆ "วิกกี้ พีมนต์ญา" ลั่น ไม่เคยรู้ "เวียร์ ศุกลวัฒน์" เป็นนักแสดงเพราะไม่ดูทีวี
เป็นงานแต่งงานที่สุดแสนจะอบอุ่น บรรยากาศเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความปีติยินดีของแขกเหรื่อที่มาในร่วมงาน เพื่อเป็นสักขีพยานความสัมพันธ์ที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วเข้าสู่สถานะการเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ สำหรับ "เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ" พระเอกหนุ่มมาดเข้มฝีมือแพรวพราว กับสาวน้อยตัวเล็กที่เก่งรอบด้านอย่าง "วิกกี้ พีมนต์ญา" แต่แล้วท่ามกลางความสุขสมพรมด้วยรักของบ่าวสาวก็กลับมีดราม่าผุดขึ้นอีกแล้วเมื่อล่าสุด ฝ่ายเจ้าสาวป้ายแดงได้ออกมาเปิดใจ เผยว่า...
เจอกันครั้งแรกที่ไหน ?
"วิกกี้" : เจอกันใต้น้ำ เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว
"เวียร์" : วิกกี้เข้ามาช่วยเป็นสตั้นท์ เพราะเขาเก่งเรื่องดำน้ำ ตอนนั้นยังไม่ได้อินเรื่องดำน้ำ เพราะแค่ขี่มอเตอร์ไซค์ออกทริป ละครก็ไม่ต้องถ่ายแล้ว จากนั้นก็แทบไม่ได้เจอกันเลย ก็แยกย้ายกัน
กลับมาเจอกันได้ยังไง ?
"เวียร์" : กลับมาจากถ่ายหนังต่างประเทศ ก็คิดถึงการดำน้ำ เพราะตอนถ่ายหนังก็ต้องมีดำน้ำ พอถึงเมืองไทยก็ชวนเพื่อนๆ ไปดำน้ำ แล้วก็นึกถึงน้องเขาให้พาไปดำน้ำ ถามว่าคุยเชิงจีบไหม คือ ณ ตอนนั้นก็โสดแล้วไง (เขิน) จริงๆ ก็ไม่ได้มีเป้าหมายอะไร คุยเป็นเพื่อน เพราะอายุก็ห่างกันเยอะ เราห่างการจีบผู้หญิงมานาน ก็ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน เราก็อายุขนาดนี้แล้วด้วย ก็เลยคุยเรื่องที่เราชอบเหมือนกัน
เขาจีบยังไง ?
"วิกกี้" : ชวนไปไหนบ่อยๆ นางจะมีกิจกรรมตลอด แบบไปเดินป่าไหม เราก็ไม่เคยไป บอกไม่ว่างๆ มีทั้งไม่ว่างจริง และไม่ว่างทิพย์
"เวียร์" : ตอนแรกเขาไม่รู้ด้วยนะ ว่าผมเป็นใคร
"วิกกี้" : ไม่รู้จริงๆ ว่าเขาคือใคร เพราะไม่ได้ดูโทรทัศน์
"เวียร์" : มีวันหนึ่งขับรถกลับมา ก็ถามเขาว่าเห็นคนในป้ายโฆษณาไหม นั่นเราเอง
"วิกกี้" : ครั้งแรกที่คุณพ่อคุณแม่เจอพี่เวียร์ คุณแม่มาสะกิด นี่ใช่พี่ Kerry หรือเปล่า (หัวเราะ) พอรู้ว่าเขาเป็นใคร ก็แบบไม่ดีกว่า อาจจะด้วยความต่างของอาชีพ เขาเป็นนักแสดง ส่วนเราก็สายธุรกิจ
"เวียร์" : สิ่งที่เราทำได้ คือทำให้เขาไว้ใจ เราอยากคุยด้วยจริง ไลฟ์สไตล์เราไปด้วยกันได้นะ
"วิกกี้" : เขาไม่เคยละความพยายามเลย ก็เลยเปิดใจ อยู่ด้วยกันเหมือนเพื่อน ไปไหนก็ไปด้วยกันตลอด ก็เลยสนิทขึ้น แล้วก็คิดเหมือนกันหลายๆอย่าง เรารู้สึกว่าพึ่งพาเขาได้ ที่สำคัญคือเราอยู่ง่ายเหมือนกัน เลยทำให้ไม่มีปัญหากัน
"เวียร์" : ก็ค่อยๆ ปรับกันมาเรื่อยๆ จากเพื่อนก็มาเป็นแฟนกัน ก็คิดว่าคนนี้แหละ
"วิกกี้" : คู่ชีวิตเนอะ อยู่ด้วยกันแล้วต้องสบายใจ ไม่รู้สึกยุ่งยาก
ชีวิตเปลี่ยนไปไหมหลังจากคบกัน ?
"วิกกี้" : ไม่ ก็ใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดาทั่วไป ขอขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่ซัพพอร์ต ขอให้สนับสนุนกันไปเรื่อยๆ (ยกมือไหว้)
"เวียร์" : เราอยู่คนเดียวมาทั้งชีวิต เติบโตด้วยตัวเอง จากเด็กต่างจังหวัดมาอยู่กรุงเทพ มีเพื่อนและครอบครัวคอยซัพพอร์ต แต่หลักๆคือตัวคนเดียว ก็เลยทำให้เมื่อเกิดอะไรขึ้น จะชอบทำตัวเองให้รอดก่อน ในมุมคนอื่นอาจมองเห็นแก่ตัว แต่วิกกี้เขามาเปลี่ยนตรงนี้ โดยการพูดตรงๆ ตอนแรกก็โกรธนะ เพราะคิดว่าก็เราเป็นแบบนี้ ก็อยู่มาได้ เหมือนอีโก้ แต่เขาบอกไม่ได้ เราก็เลยลองเปลี่ยน ทำกับคนอื่นดีๆ เริ่มต้นจากที่เขา เขาทำให้เราเป็นคนดีขึ้น ก็เลยคิดว่างั้นเขาก็ต้องเป็นภรรยาและเพื่อนที่ดีได้ เพราะเขากล้าพูดในสิ่งที่ไม่ดีของเรา
"วิกกี้" : เขาเป็นคนตึง ไม่หย่อนเลย อีโก้สูง
ด้านชาวเน็ตทั้งหลายเมื่อทราบว่า "วิกกี้" ให้สัมภาษณ์เช่นนั้นจึงพากันแสดงความคิดเห็นกันไปต่างๆ นานา บ้างก็ว่า
"คงจะพูดเพื่อให้ตัวเองดูดีอ่ะว่าไม่ได้รักเวียร์เพราะเป็นพระเอกดังนะ ประมาณว่าตัวเองเป็นนางเอกซีรีส์เกาหลี คนที่ได้ผัวฝรั่งรวยๆ ก็ชอบพูดแบบนี้เพื่อให้คนมองตัวเองว่าเราไม่ได้หวังขุดทองนะ ไม่รู้จริงๆ นะว่าเขารวย เขาเป็นประธานบริษัท จริงๆ แล้วก็คงสืบทุกอย่างตั้งแต่รู้จักเขาแล้วล่ะ"
"ถามจริง ไม่ได้ดูโทรทัศน์ แต่เวียร์เข้าวงการ ตั้งแต่ปี 2549 ไม่ใช่แค่สื่อโทรทัศน์ ที่เห็น แต่เธอเล่นอินสตาแกรม ทำไมจะไม่รู้ รูปในอินสตาแกรม ก็ต้องมีรูปละครบ้างละ"
"อืม..จริงดิ ? ว่าไม่รู้ว่าเวียร์เป็นดาราดัง เออ..ถ้าเขาเป็นดาราตัวประกอบดิว่าไปอย่าง
แต่นี่สื่อต่างๆ ก็มีลงตลอดในเน็ต ไหนจะพรีเซนเตอร์สินค้าอีก แม้จะไม่ดูทีวี แต่ในเน็ตก็ใช่ว่าจะไม่มีลงให้เห็น
แค่เสิร์ชใน Google หน้าเวียร์ก็ขึ้นมาหราละ"