"แพทองธาร" เปิด 2 นโยบายแรก ขอ พท.แลนด์สไลด์เอาชนะ 3 ป.
เมื่อวันที่ 19 ก.ย.65 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย (พท.) และประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การพัฒนาเชียงใหม่และภาคเหนือเป็นสิ่งที่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย ทำมาโดยตลอด หอประชุมนานาชาติเชียงใหม่ เป็นหนึ่งในผลงานจากวิธีคิดที่จะทำให้เชียงใหม่เป็นเมืองหลวงของภาคเหนือ เมื่อครั้งที่บิดา ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ขอพื้นที่ราชพัสดุที่อยู่ในความดูแลของกองทัพบกคืน ในสมัยพลเอกชัยสิทธิ์ ชินวัตร เป็น ผบ.ทบ. และได้ดำเนินการก่อสร้างจนแล้วเสร็จในสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ในฐานะของหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยจะดำรงเจตนารมณ์นี้ต่อไป ด้วยการสร้างความเจริญให้จังหวัดเชียงใหม่และพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ สร้างความกินดีอยู่ดี เติมเงินในกระเป๋า สร้างอนาคตที่มองเห็นและจับต้องได้ให้ลูกหลาน สำหรับการเดินทางมา จ.เชียงใหม่ในวันนี้มั่นใจว่า ในภาคเหนือ พรรคเพื่อไทยทำได้ดีกว่าทุกคน เพราะมีความคุ้นเคยมากกว่าทุกพรรค ด้วยความพร้อมด้านว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในการเลือกตั้งครั้งหน้า มั่นใจว่าจะชนะเลือกตั้งแบบแลนสไลด์ทั้งภาคเหนือ พรรคเพื่อไทยต้องการเปลี่ยนความลำบากที่พี่น้องประชาชนเผชิญมาถึง 8 ปี ให้เป็นความสุข และมองเห็นอนาคตโดยเร็วที่สุด จึงจำเป็นต้องมี ส.ส.ในมือจำนวนมาก ขอให้พี่น้องประชาชนเลือกเพื่อไทยทั้งคน ทั้งพรรค พรรคเพื่อไทยรู้ว่าศึกข้างหน้าหนักหนารออยู่ วันนี้เราพร้อมจะเข้าไปแก้ปัญหาของพี่น้องประชาชน ไม่ว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในเดือนหน้า หรืออีก 6 เดือนข้างหน้า มั่นใจว่าจะชนะ เป็นการชนะเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้ของพี่น้องประชาชน พรรคเพื่อไทยมีผู้สมัคร ส.ส.ภาคเหนือจำนวนมากที่ดีมีคุณภาพ มีนโยบายที่จะเปลี่ยนชีวิตพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้นกว่าวันนี้
น.ส.แพทองธาร กล่าวอีกว่า ดร.ทักษิณ ชินวัตร บอกว่า รัฐบาลถัดไปมีแต่งานยากรออยู่ รัฐบาลต่อไปต้องรู้จริง ทำเป็น ทุกวันนี้ประเทศเรามีปัญหาในทุกมิติทั้ง เศรษฐกิจ ที่ทำให้การทำมาหากินลำบาก ไม่มีโอกาส ค่าครองชีพสูง กระบวนการยุติธรรมขาดความเชื่อถือ มีแต่กฏหมายที่ปิดโอกาส ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศติดลบ ประเทศหยุดนิ่งไม่พัฒนา ระบบราชการล่าช้าไม่สามารถปรับตัวไปตามเทคโนโลยี ยาเสพติดเต็มเมือง ปัญหามากมายมหาศาล เรียกว่าจับไปตรงไหนก็เจอปัญหาตรงนั้น แต่ตนมั่นใจว่าการทำงานที่รู้ปัญหาจริง ฉลาดคิด ฉลาดทำ และมีประสบการณ์ พรรคเพื่อไทยจะเป็นความหวังของพี่น้องประชาชนได้ ด้วยการเดินหน้าสะสางทุกปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ไม่นิ่งดูดาย จะเดินหน้าแก้ไขอย่างเต็มที่ เพราะพรรคเพื่อไทย คือคำตอบสำหรับคนไทยทุกคน สิ่งที่เร่งดำเนินการทำก่อน คือ ลดรายจ่ายประชาชน ลดทั้งค่าน้ำมัน ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน ต้องหยุดวงจรบรรดาเสือนอนกิน ไม่ปล่อยให้ทำกำไรบนหยาดน้ำตาคนไทย ต้องเอาชีวิตของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง ระบบราชการต้องเข้าถึงได้ง่าย ต้องมีระบบออนไลน์ มี One Stop Service เพื่อลดภาระให้กับพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ ในแต่ละพื้นที่ มีปัญหาแตกต่างกัน จากวานนี้ได้พบปัญหาเชิงลึกที่พี่น้องเกษตรกรสะท้อนปัญหา ทำให้พรรคเพื่อไทยมองว่า จะต้องกระจายความเจริญใปทุกจังหวัด ทุกจังหวัดต้องเข้าถึงโอกาสเพิ่มเงินในกระเป๋า ขจัดหนี้ออกไปจากชีวิต หลายอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลงแบบยกเครื่องใหม่ทั้งกระบวนการ พรรคเพื่อไทยจึงขอเปิดตัว 2 นโยบาย ได้แก่ นโยบายที่ 1 นโยบายด้านการเกษตร ภายใต้แนวคิด "ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้" โดย "ตลาดนำ" คือ การเอาความต้องการของตลาดเป็นที่ตั้ง ทำการเกษตรตามที่ตลาดต้องการ พรรคเพื่อไทยมีฝีมือและประสบการณ์ในการทำตลาดสินค้าไทยมาแล้ว สินค้าเกษตรทุกรายการจะขายได้ราคา มีกำไร ด้วยหลัก ตลาดนำการผลิต ที่พรรคเพื่อไทยทำได้และทำสำเร็จมาแล้ว อีกทั้งพรรคเพื่อไทยมีที่ปรึกษาทางการตลาดคนสำคัญ ที่ประชาชนคนไทยทุกคนรู้จักเป็นอย่างดี
น.ส.แพทองธาร ยังได้ประกาศตัวขออาสาเป็น Salesman ขายสินค้าเกษตรในต่างประเทศ สร้างรายได้ให้กับพี่น้องคนไทย เพราะน่าเป็นห่วงที่ประเทศไทย ประชากรไทย 40% ประกอบอาชีพเกษตรกร แต่อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจจากภาคการเกษตรมีเพียง 8% เท่านั้น นวัตกรรมทางการเกษตร’ช่วยให้เกษตรกรเหนื่อยน้อยลง แต่ได้ผลผลิตมากขึ้น มีคุณภาพมากขึ้น ไม่ทำเกษตรตามยถากรรมรอฟ้าฝนอีกต่อไป เทคโนโลยีจะทำให้ผลผลิตของต่อไร่เพิ่มขึ้น การเกษตรที่แม่นยำจะพัฒนาดิน พัฒนาสายพันธุ์ และพัฒนาการเพาะปลูกให้ถูกที่ ถูกเวลา ของดินฟ้าอากาศ เมื่อรู้แล้วว่าตลาดต้องการอะไร นวัตรรมเป็นอาวุธที่จะเข้าไปพัฒนาในทุกกระบวนการ นวัตกรรมจะกลายเป็นเครื่องมือทำมาหากิน กลายเป็นอาวุธข้างกายของพี่น้องเกษตรกรทุกคน ทั้งการตลาดนำ และการใช้นวัตกรรมทางการเกษตร จะทำให้พี่น้องเกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น เหนื่อยน้อยลง อาชีพเกษตรกรกลับมามีเกียรติ มีศักดิ์ศรี หากดำเนินการตามหลักการนี้สำเร็จครบทุกกระบวนการ รายได้ต่อไร่จะเพิ่มขึ้นจาก 10,000 บาทต่อปี เป็น 30,000 บาทต่อปี การเกษตรจะกลายเป็นกำลังหลักของประเทศไทย เป็นรายได้หลักที่ขับเคลื่อนประเทศอย่างแท้จริง เราจะสร้างเงินจากดิน ไม่ให้ดินดูดเงินไปหมด เกษตรกรจะถูกเปลี่ยนให้เป็นพลังของประเทศ เมื่อเกษตรกรมีเงิน มีการจับจ่าย รัฐบาลสามารถเก็บภาษี ประเทศมีรายได้
นโยบายที่ 2 คือ “1 ครอบครัว 1 Soft Power” เปลี่ยนวิธีคิดในการหาเงินสร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชน โครงการนี้จะครอบคลุมในหลายอุตสาหกรรมอาหาร การออกแบบ ศิลปะ กีฬา การท่องเที่ยว คอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์ ฯลฯ เป้าหมายคือ แต่ละครอบครัวต้องมี 1 คนที่สามารถเป็นหลักในการหาเลี้ยงคนในครอบครัวให้พ้นจากความยากจน ให้มีชีวิตอยู่ได้อย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรี เพราะทักษะ ใน Soft Power มีค่าแรงสูงกว่าค่าแรงอุตสาหกรรมอื่นๆ พรรคเพื่อไทยเชื่อว่าคนไทยมีศักยภาพมากมายซ่อนอยู่ เพียงแค่ขาดโอกาสในการพัฒนาศักยภาพอย่างเป็นระบบ หากได้รับการเจียรนัย จะกลายเป็นผู้มีรายได้สูงกว่าอัตราขั้นต่ำตามกฎหมายแรงงาน ซึ่งในต่างประเทศที่มี Soft Power ที่แข็งแรง คนที่มีศักยภาพมีรายได้มากมาย เช่น Lalisa แห่ง Black Pink หรือ บัวขาว ที่ถูกพัฒนาศักยภาพกลายเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของคนไทย หรือร้านอาหารญี่ปุ่นในไทย มีเชพคนไทยที่ทำอาหารญี่ปุ่นอร่อยกว่าในญี่ปุ่น สิ่งที่เราถอดบทเรียนได้จากเรื่องนี้คือ คนไทย ปรับตัวเก่ง สามารถเรียนรู้วัฒนธรรมอื่นได้ ทุกวันนี้ทั่วโลกไม่ได้สู้กันด้วย Hard Power อาวุธ รถถัง หรือเรือดำน้ำ แต่ทุกชาติกำลังต่อสู้ด้วย Soft power พลังของวัฒนธรรม พลังทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ความเป็นประชาธิปไตย และเคารพในหลักนิติธรรมสากลทั่วโลก Soft Power คือ พลังหรืออำนาจ ที่ทำให้คนทั่วโลกโอบรับวัฒนธรรมอื่นๆ เมื่อเกิดพลังนี้ขึ้นกับวัฒนธรรมใด จะนำมาซึ่งคุณค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล พรรคเพื่อไทยมองเห็นโอกาสในการทำมาหากิน ด้วยการพัฒนาทักษะของ พี่น้องภายใต้พลังของ Soft Power ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับคนในหลายอุตสาหกรรมพบว่า อุตสาหกรรมอาหาร เกมส์ หนัง เพลง ละคร แฟชั่น เทศกาลดนตรี ประสบปัญหาเช่นเดียวกันคือรัฐบาลไม่ได้ทำหน้าที่ส่งเสริมอย่างเข้าใจ ไม่ได้มีการสร้างสภาวะแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเติบโตของอุตสาหกรรม ไม่มีการวางแผนอย่างเป็นรูปธรรม และปัญหาใหญ่ที่สุด รัฐบาลเผด็จการไม่เข้าใจความคิดสร้างสรรค์ได้ ไม่เข้าใจความแตกต่างหลากหลายได้
"หากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล จะจัดตั้ง The Thai Creative Content Agency : THACCA หน่วยงานจะเข้าไปดูแลพัฒนาคัดเลือก แบ่งกลุ่ม เพื่อนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพ Solf power อย่างถูกจุด โดยรัฐจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด หน่วยงานนี้นายกรัฐมนตรีจะเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด และมีหลายหน่วยงานช่วยดำเนินการแก้ไขกฎหมาย ขจัดอุปสรรคในการพัฒนาศักยภาพ Solf power จากนโยบายนี้จะช่วยให้คนไทย 20 ล้านคน กลายเป็นแรงงานสำคัญที่จะทำให้แต่ละครอบครัวมีกินมีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี 2 นโยบายที่ดิฉันพูดมา พอเห็นแสงสว่างบ้างไหมคะ เพื่อไทยอยากให้พี่น้องออกจากจุดที่เป็นหนี้สิน ก่อนจะไปไกลกว่านี้ ขอเพื่อไทยแลนด์สไลด์ได้ไหมคะ แลนด์สไลด์เพื่อเอาชนะ 3 ป. แลนด์สไลด์เพื่อเอาชนะ 250 ส.ว. แลนด์สไลด์เพื่อเอาชนะสิ่งที่เขาร่างมาเพื่อพวกเขาเอง เอาชนะแลนด์สไลด์ เพื่อเอาชนะวิกฤตไปด้วยกันค่ะพี่น้อง” น.ส.แพทองธาร กล่าว