น้ำท่วมเชียงใหม่เกือบเท่าปี 54 หนักแทบปิดเมือง ส.ส.พท. ครวญทำได้แค่ตะโกนถามหน้าบ้าน ปชช. พะวงกลัวผิดกฎเหล็ก กกต.
เมื่อวันที่ 4 ต.ค.65 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย(พท.) นายบรรจงศักดิ์ วงศ์รัตนวรรณ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจพี่น้องประชาชนและหน่วยงานงานที่เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือรับมือสถานการณ์น้ำท่วมซึ่งเป็นผลพวงจากพายุโนรู ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องทำให้เกิดน้ำป่าบนเทือกเขาไหลทะลักท่วมหลายพื้นที่ ทั้งที่ อ.เวียงแหง อ.เชียงดาว อ.ไชยปราการ เส้นทางสายแม่จา-เมืองแหง ดินสไลด์ ไม้ล้มขวางเส้นทาง พาดทับสายไฟฟ้าหลายจุด ตลอดสายทางพื้นถนนด้านล่างทรุดตัวเป็นโพรงขนาดใหญ่ ขณะที่ถนนโชตนา ช่วงระหว่าง อ.เชียงดาว เข้า อ.ไชยปราการ ถนนมีการทรุดตัว สุ่มเสี่ยงต่อการสัญจร สำหรับ อ.เชียงดาว พื้นที่ลุ่มได้รับความเสียหายจากน้ำที่เอ่อทะลักท่วมพื้นที่การเกษตร ดินสไลด์ทับบ้านเรือนประชาชนที่บ้านห้วยตีนตั่ง น้ำพัดคอสะพานขาดที่บ้านห้วยทรายขาว ต.ทุ่งข้าวพวง ส่วนที่ อ.แม่แตง ดินถล่มสร้างความบ้านประชาชนจำนวนมาก นักท่องเที่ยวในเขต ต.เมืองก๋าย ต้องเดินเท้ากว่า 10 กิโลเมตร มาที่ศูนย์ชั่วคราวที่ อบต.เมืองก๋าย เนื่องจากเส้นทางสัญจรเสียหายอย่างหนัก
ขณะที่ น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย นายศรีเรศ โกฎคำลือ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยน.ส.ศรีโสภา โกฏคำลือ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายจากน้ำท่วมตั้งแต่คืนวันที่ 2 ต.ต.65 ต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ (4 ต.ค.65) โดยพบว่าพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายหนักจากน้ำป่าทะลักลงแม่น้ำปิงจนถนนในท้องถิ่นพัง พี่น้องประชาชนต้องช่วยเหลือกันเองด้วยการสร้างคันกั้นน้ำซึ่งเป็นเส้นทางสัญจรในท้องถิ่นริมแม่น้ำปิง เพื่อป้องกันการกัดเซาะตลิ่งพังจากไม้ในพื้นที่และเสริมกระสอบทรายเพื่อความแข็งแรง ในเบื้องต้นได้ประสานงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเร่งให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเพิ่มเติมแล้ว
นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนประชาชนในตัวเมืองเชียงใหม่ หลังถูกน้ำป่าจากดอยเชียงดาวและใกล้เคียงไหล ลงสู่แม่น้ำปิง จนเกินศักยภาพที่แม่น้ำจะรับได้ ระดับน้ำในแม่น้ำปิงสูงสุด ณ วันที่ 3 ต.ต.65 อยู่ที่ 4.63 เมตร น้ำล้นตลิ่งจนไหลเข้าท่วมพื้นที่ตั้งแต่คืนวันที่ 2 ต.ค.65 ที่ผ่านมา ระดับน้ำเทียบเท่ากับปี 54 ทำให้ตำบลช้างคลาน ตำบลป่าแดด และพื้นที่ใกล้เคียงถูกน้ำท่วม ทั้งเมืองกลายเป็นอัมพาต สถานที่ราชการ วัด โรงเรียน ภาคเศรษฐกิจท้องถิ่น เช่น โรงแรมอนันตรา โรงเรียนมงฟอร์ด ไนท์บาซา กาดต้นลำไย ร้านอาหาร ไม่สามารถเปิดทำการได้ การคมนาคมไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เกือบ 100%
นายจักรพล กล่าวอีกว่า ตอนนี้การให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนหยุดชะงักจากกฎเหล็ก 180 วันของ กกต.ที่กลายเป็นอุปสรรค ในภาวะที่พี่น้องประชาชนกำลังตกทุกข์ได้ยาก แต่ผู้แทนราษฎรที่พี่น้องประชาชนเลือกเข้ามาแก้ปัญหา ร่วมทุกข์-ร่วมสุข กลับไม่สามารถช่วยเหลือได้อย่างคล่องตัวและทันต่อความเดือดร้อน ไม่มีเวทีทำงานให้ ส.ส.เขต ตนทำได้เพียงตะโกนไถ่ถามพี่น้องประชาชนหน้าบ้าน และประสานงานหน่วยงานท้องถิ่นซึ่งก็ประสบภัยเช่นเดียวกันเข้ามาให้ความช่วยเหลือ ซึ่งเป็นไปด้วยความทุลักทุเล ไม่ทันการณ์ เช่น ประสานเทศบาลนครเชียงใหม่นำกระสอบทรายเข้าไปในพื้นที่เพิ่มเติม มีประชาชนส่งข้อความมาทางเฟซบุ๊ค ขอความช่วยเหลือด้านอาหารแห้ง น้ำ และยารักษาเบื้องต้น ทำได้เพียงให้หมายเลขโทรศัพท์หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดต่อ เช่น ไฟฟ้า ประปา ฯลฯ หากเปรียบเทียบกับในอดีต วันแรกที่เกิดเหตุจะต้องโดยสารเรืออพยพพี่น้องประชาชนออกจากพื้นที่น้ำท่วมสูง แจกจ่ายถุงยังชีพบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นไปแล้ว
“น้ำระลอกเดิมที่รอจะไหลผ่านไป รวมกับน้ำระลอกใหม่ เป็นสองระลอก ทำให้น้ำท่วมเกือบเทียบเท่าปี 54 แต่เราทำอะไรไม่ได้ เป็นได้เพียงสารตั้งต้น เป็นโทรโข่ง เรามีทีมงาน ก็ช่วยประชาชนไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน ตอนนี้ทำอะไรก็พะวงไปหมด ขยับแล้วจะผิดกฎหมาย สุดท้ายคนรับกรรมคือประชาชน” นายจักรพล กล่าว
ขณะที่พื้นที่ จ.ลำพูน นายรังสรรค์ มณีรัตน์ ส.ส.ลำพูน และนายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนประชาชน หลังจากน้ำปริมาณมากได้ไหลเข้าท่วม 5 อำเภอในจังหวัดลำพูน ได้แก่ อำเภอลี้ อำเภอทุ่งหัวช้าง อำเภอเวียงหนองล่อง อำเภอบ้านโฮ่ง และอำเภอป่าซาง ปริมาณน้ำจำนวนมากสร้างความเสียหายให้กับวัดและโบราณสถานหลายแห่ง พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนโดยด่วน