เวียงจันทน์, 17 ต.ค. (ซินหัว) — รายงานจากเว็บไซต์กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เมื่อวันเสาร์ (15 ต.ค.) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจลาวจะเติบโตร้อยละ 2.2 ในปี 2022 และเพิ่มเป็นร้อยละ 3.1 ในปี 2023 โดยกองทุนฯ คงตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจลาวที่ร้อยละ 2.2 ซึ่งถูกลดจากร้อยละ 3.2 ที่คาดการณ์ไว้ในเดือนเมษายนด้วยปัจจัยภายนอกและภายใน
ขณะเดียวกันมีการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะลดลงจากร้อยละ 6.0 ในปี 2021 เหลือร้อยละ 3.2 ในปี 2022 และร้อยละ 2.7 ในปี 2023 โดยเศรษฐกิจโลกราวหนึ่งในสามเติบโตติดลบสองไตรมาสติดต่อกัน ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วโลกจะเพิ่มจากร้อยละ 4.7 ในปี 2021 เป็นร้อยละ 8.8 ในปี 2022 แต่จะลดเหลือร้อยละ 6.5 ในปี 2023 และร้อยละ 4.1 ภายในปี 2024
ลาวรายงานราคาน้ำมันเชื้อเพลิงพุ่งสูงอย่างรวดเร็วและการขาดแคลนน้ำมันในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน ซึ่งส่งผลกระทบหนักต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการเกษตรและการผลิต
ด้านรายงานจากธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ปรับลดแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจลาวเหลือร้อยละ 2.5 ในปี 2022 จากเดิมคาดการณ์ไว้ร้อยละ 3.4 เมื่อเดือนเมษายน และเหลือร้อยละ 3.5 สำหรับปี 2023 จากเดิมคาดการณ์ไว้ร้อยละ 3.7 ซึ่งเชื่อมโยงกับการหยุดชะงักของอุปทานและราคาสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งสูงจนผลักดันอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น
นอกจากนั้นรายงานแนวโน้มทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกประจำเดือนตุลาคม 2022 ของธนาคารโลก (World Bank) ยังปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจลาวในปี 2022 เป็นร้อยละ 2.5 จากเดิมคาดการณ์ไว้ร้อยละ 3.8
อนึ่ง สถาบันวิทยาศาสตร์สังคมและเศรษฐกิจลาว (LASES) ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของลาวในปี 2022 เป็นร้อยละ 3 จากร้อยละ 4 ที่คาดการณ์ไว้ในเดือนสิงหาคม ซึ่งการปรับลดครั้งนี้เป็นผลจากการขยายตัวของภาคการบริโภค การส่งออก รวมถึงการลงทุนในภาครัฐและเอกชนที่ชะลอตัวลง