GMMTV แจงยิบ เหตุใดต้องฟ้องแบรนด์ดัง ปมปลด "โอม ภวัต" ?

2023-04-21 12:40:51

GMMTV แจงยิบ เหตุใดต้องฟ้องแบรนด์ดัง ปมปลด "โอม ภวัต" ?

Advertisement

เป็นเรื่องในอดีต-ไม่ขัดต่อกฎหมาย GMMTV แจงยิบ เหตุใดต้องฟ้องแบรนด์ดัง ปมปลด "โอม ภวัต" ? จากพรีเซนเตอร์






"คุณสุจรรยา วิลเลกัส" ผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมาย บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด(มหาชน) ตัวแทน บริษัท จีเอ็มเอ็มทีวี จำกัด ชี้แจงกรณีฟ้องดำเนินคดี บริษัท UGO Nutrition จำกัด หลังบริษัทดังกล่าวส่งหนังสือประกาศขอถอด "โอม ภวัต จิตต์สว่างดี" นักแสดงในสังกัดจีเอ็มเอ็มทีวี การเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับแบรนด์ หลังเกิดประเด็นที่ถูกพูดถึงในโลกออนไลน์เกี่ยวกับพฤติกรรมในอดีต ซึ่งดาราหนุ่มได้ออกมายอมรับว่าเคยบูลลี่และแกล้งเพื่อนที่เป็นออทิสติกจริง เจ้าตัวยอมรับว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นบทเรียนราคาแพง และพยายามปรับปรุงตัวให้ดีขึ้นกว่าเก่าก่อน พร้อมทั้งได้ขอโทษสำนึกผิด และเสียใจต่อเหตุการณ์ในอดีตเป็นอันมาก 





ต่อมาแบรนด์ดังกล่าวได้ร่อนหนังสือประกาศปลด "โอม" โดยมีเนื้อหาใจความว่า “ประกาศการยุติบทบาทพรีเซนเตอร์ของคุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี ให้กับแบรนด์ UGO Nutrition จากเรื่องของคุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี ที่เป็นประเด็นในโลกออนไลน์ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ทางบริษัท UGO Nutrition ไม่เคยนิ่งนอนใจ และได้เป็นฝ่ายติดต่อต้นสังกัดของศิลปินอย่างจริงจังหลายครั้ง แต่ต้นสังกัดเพิกเฉยต่อสิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญมาโดยตลอด”


“UGO Nutrition ให้ความสำคัญกับความรัก คุณค่าความเท่าเทียม ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และความรับผิดชอบเราจึงตัดสินใจยุติบทบาทพรีเซ็นเตอร์ของคุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี ตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน 2566 เป็นต้นไป บริษัท ยูโก นูทรีชันน์ จำกัด” ตามที่เสนอข่าวไปแล้ว





ด้าน "คุณสุจรรยา" กล่าวว่า “ที่มาในวันนี้ก็เนื่องจากว่ากรณีที่ทางบริษัท UGO Nutrition จำกัด ได้มีประกาศยุติบทบาทการเป็นพรีเซนเตอร์ของคุณโอม ภวัต จิตต์สว่างดี โดยที่ไม่มีเหตุผลอันควรในการที่ยุติบทบาทพรีเซนเตอร์อันนั้น รวมถึงทางจีเอ็มเอ็มทีวีไม่ได้มีการผิดสัญญาหรือผิดข้อตกลงใดๆ กับทางบริษัท UGO ซึ่งการที่ UGO ออกประกาศลักษณะแบบนั้นทำให้บริษัทและศิลปินก็คือคุณโอม ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง”

“นับตั้งแต่มีกรณีพาดพิงคุณโอมในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งเป็นเรื่องในอดีตของคุณโอมในวัยเด็ก เป็นการกระทำที่ไม่ได้ขัดต่อกฎหมายนะคะ ต้องบอกแบบนี้ แล้วทางบริษัทเองไม่เคยเพิกเฉย เราไม่เคยนิ่ง เรามีการติดต่อเจรจากับทาง UGO มาตลอด มีการเจรจาเพื่อหาข้อตกลงร่วมกัน”



“เราเจรจากันมาหลายครั้ง จนถึงวันก่อนที่ทาง UGO จะมีประกาศตัวนั้นออกมาด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นการที่ UGO มีประกาศยุติบทบาทพรีเซนเตอร์ออกมา ทางบริษัทจีเอ็มเอ็มทีวีได้รับความเสียหาย ทางจีเอ็มเอ็มทีวีและศิลปินเลยต้องขอความเป็นธรรมในกรณีนี้ เพื่อรักษาชื่อเสียงและเกียรติภูมิของบริษัท รวมถึงศิลปิน โดยเราคงต้องขอพึ่งทางกระบวนการของศาลยุติธรรม เพื่อสงวนไว้ซึ่งสิทธิ์และความเสียหายในเรื่องของชื่อเสียงของบริษัท และศิลปินต่อไปค่ะ”





แม้สิ่งที่โอมทำจะไม่ผิดกฎหมาย แต่อาจจะผิดในแง่ของศีลธรรม เป็นไปได้หรือไม่ว่า จากกระแสข่าวที่เกิดขึ้นกับโอมส่งผลกระทบกับทางแบรนด์ จึงเป็นเหตุให้ตัดสินใจยุติบทบาทการเป็นพรีเซนเตอร์ ?
"คุณสุจรรยา" กล่าวตอบว่า "อันนี้ทางเราคงตอบไม่ได้ คงต้องถามทาง UGO ค่ะ แต่ในเงื่อนไขสัญญาไม่ได้มีระบุเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้ ตอนนี้ทางเราดำเนินการฟ้องไปแล้ว ยื่นฟ้องละเมิดค่าเสียหาย ส่วนจำนวนเงินที่ฟ้องไป อันนี้คงพูดไม่ได้เพราะเป็นข้อมูลในคดี และหากทาง UGO ติดต่อมาขอไกล่เกลี่ย มันก็อยู่ในกระบวนการของทางศาล ยังไงทางคู่ความอีกฝั่งหนึ่งเขาย่อมต้องได้รับคำฟ้องอยู่แล้วค่ะ กระบวนการทางศาลต้องเจอกันอยู่แล้ว ถามว่านอกรอบไม่มีแล้วใช่ไหม มันยังตอบไม่ได้ เรายังไม่ทราบ เพราะเรายังไม่ได้รับการติดต่อมาค่ะ”





การที่ตัดสินใจฟ้องเป็นเพราะทางนั้นเขาร่อนจดหมายออกมาใช่ไหม ?
“เขาไม่ได้ร่อนจดหมายนะคะ อยู่ดีๆ เขาก็ประกาศ ทั้งที่เราเจรจากันตลอดเรื่อยมา จนก่อนวันประกาศเราก็ยังมีการคุยกัน แต่อยู่ดีๆ เขาก็ประกาศ ซึ่งทางเราไม่ทราบค่ะ จากที่สื่อออกข่าวก็มีผลกระทบกับชื่อเสียงของน้องและบริษัทค่ะ แต่ตอนนี้ยังไม่มีผลกระทบใดๆ กับงานอื่นๆ ค่ะ”

หลายคนมองว่าบริษัทไม่ได้ออกมา Take Action อะไรเลย ?
“ทางบริษัทมองว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดในอดีตและเป็นเรื่องในวัยเด็ก โดยทางโรงเรียนก็ได้ลงโทษตามระเบียบของโรงเรียน เขาได้รับการลงโทษไปแล้ว น้องเองก็ได้ขอโทษไปแล้ว และมันไม่ใช่เป็นเรื่องที่กระทำผิดต่อกฎหมายว่ากันอย่างนั้นเถอะ เพราะฉะนั้นเราไม่ได้นิ่งเฉย แต่นี่คือเหตุผลอย่างที่บอกว่าเป็นเรื่องในอดีต และเขาได้รับการลงโทษตามวัยของเขา คือตอนนั้นเขายังเด็กอยู่”



แต่คนก็ยังขุดเรื่องนี้ออกมาอีก เพราะต้องการให้บริษัทออกมาพูดบ้าง ?
“คืออันนี้คิดว่าในแง่ของคนที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์เราคงห้ามไม่ได้ว่าใครจะคิดยังไง แต่ในแง่ของบริษัทมองที่ความเป็นจริงของสิ่งที่เกิดขึ้น ความเป็นมนุษย์ค่ะ คือมันต้องดูจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นมากกว่าที่จะไปตัดสินตามกระแสสื่อสังคม สภาพจิตใจของโอมตอนนี้ก็คงไม่ดีหรอกค่ะ"

กลัวคนจะมองว่าค่ายปกป้องโอมเกินไปไหม ?
"การที่บริษัทยื่นฟ้องทางแบรนด์นั้น ต้องบอกว่าอันนี้เป็นเรื่องของข้อเท็จจริงและเป็นเรื่องของธุรกิจนะคะ มันเกิดขึ้นจริง อย่างที่แจ้งว่าเราไม่ได้เป็นฝ่ายยุติการเป็นพรีเซนเตอร์ เพราะฉะนั้นอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับกระแสสังคมจะตัดสินจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นค่ะ"