"ทักษิณ"ถึงไทยแล้ว กราบพระบรมฉายาลักษณ์ "ในหลวง-พระราชินี"

"ทักษิณ"ถึงประเทศไทยแล้ว กราบพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี  จากนั้นไปศาลฎีกา  ก่อนนำตัวมาคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทมหานคร

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 22 ส.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  สื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศจำนวนมาก  ได้เดินทางมารอเข้าพื้นที่อาคารผู้โดยสารอากาศยานส่วนตัว (Private Jet Terminal) หรืออาคาร MJETS ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง  โดยมีการจัดบริเวณลานด้านหน้าอาคาร MJETS ให้บันทึกภาพ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางกลับมาประเทศไทยในรอบ 17 ปี ขณะเดียวกันแกนนำพรรคเพื่อไทย ส.ส.พรรคเพื่อไทย รวมทั้งประชาชนจำนวนมากได้เดินทางทางมาปักหลักรอต้อนรับนายทักษิณเช่นกัน   

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  นายทักษิณ ได้เดินทางโดยเครื่องบินส่วนตัว ยี่ห้อ Gulfstream G650 ออกจากประเทศสิงคโปร์เวลา 06.45น. โดยมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินทางมาส่งที่สนามบิน  

ต่อมาเวลา 09.00 น. นายทักษิณได้วิดีโอคอลจากบนเครื่องบิน ทักทายนักการเมืองจากพรรคเพื่อไทย ประชาชน และสื่อมวลชน ที่มารอต้อนรับ โดยเครื่องบินส่วนตัวได้ลงจอดที่สนามบินดอนเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เวลา 09.25 น. นายทักษิณ ได้เดินทางออกมาบริเวณด้านหน้าอาคาร MJETS พร้อมกับลูกทั้ง 3 คน คือ นายพานทองแท้ ชินวัตร น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์  และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร  จากนั้นนายทักษิณได้กราบพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี  และได้ทักทายนักการเมือง และประชาชนเป็นเวลาสั้น ๆ ท่ามกลางเสียงตะโกนชื่อทักษิณดังกึกก้อง ก่อนกลับเข้าไปในอาคาร

ต่อมาเวลา 10.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายทักษิณ ขึ้นรถมุ่งหน้าไปยังศาลฎีกาจากนั้นได้นำตัวขึ้นไปยังห้องพิจารณาคดี  โดยบริเวณด้านหน้าศาลฎีกานั้น มีมวลชนคนเสื้อแดง ไปรอให้กำลังใจนายทักษิณจำนวนหนึ่ง  คาดว่าจะใช้เวลาภายในศาลประมาณ 1 ชม. จากนั้นจะนำตัวนายทักษิณไปยังเรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพมหานครต่อไป 

สำหรับการกลับมาในครั้งนี้ นายทักษิณต้องรับโทษตามกระบวนการยุติธรรมดังนี้

1.คดีหวยบนดิน โดยศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาจำคุก  2 ปี ไม่รอลงอาญา  

2.คดีทุจริตปล่อยกู้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์)  โทษจำคุก 3 ปี ไม่รอลงอาญา

3.คดีแก้สัมปทานเอื้อชินคอร์ป  ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง  พิพากษาจำคุก 5 ปี ไม่รอลงอาญา   

การนับโทษของนายทักษิณจะต้องไปดูคำพิพากษาแต่ละคดีว่าศาลสั่งอย่างไร

-ถ้านับโทษต่อทุกคดีโทษจำคุกคือ 10 ปี  ( คดีหวยบนดิน 2 ปี - คดีเอ็กซิมแบงก์ 3 ปี -คดีแก้สัมปทานเอื้อชินคอร์ป  5 ปี )

-ถ้าสั่งนับโทษต่อ จะถูกจำคุก 7 ปี หรือ 8 ปี  แล้วแต่ว่าจะนับโทษต่อจากคดีไหน

-ถ้าไม่สั่งให้นับโทษต่อ ก็จะนับโทษทับกันจะถูกจำคุกสูงสุด 5 ปี

ต่อมาเวลา 11.00 น. หลังจาก นายทักษิณ เข้าห้องพิจารณาคดีประมาณ 50 นาที ขบวนรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ขับรถออกมาจากศาลฎีกา และมุ่งหน้าไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยศาลพิพากษาจำคุก 3 คดี นับรวม 10 ปี แต่มีการนับโทษต่อกัน ดังนั้นจึงเหลือจำคุกจริงเพียง 8 ปี ทั้งนี้ ขบวนรถได้วิ่งออกมาจากศาล ผ่านบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มุ่งหน้าไปขึ้นทางด่วนยมราช เพื่อนำตัวนายทักษิณไปส่งที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยเมื่อเวลา 11.25 น. ขบวนรถนำตัวนายทักษิณได้เข้าสู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครเป็นที่เรียบร้อยแล้ว