“บิ๊กโจ๊ก” เอาไม่อยู่ เปิดคลิปเสียง “สว.กิตติศักดิ์” เบ่งจะตบพระ เจ้าอาวาสวัดบางคลานยัน ถอยไม่ได้

2023-09-20 18:35:56

 “บิ๊กโจ๊ก” เอาไม่อยู่ เปิดคลิปเสียง “สว.กิตติศักดิ์” เบ่งจะตบพระ เจ้าอาวาสวัดบางคลานยัน ถอยไม่ได้

Advertisement

รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 20 ก.ย. 66 “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ทางช่อง 3 กดเลข 33 เกาะติดสถานการณ์ปัญหา “วัดบางคลาน” จ.พิจิตร ที่ถึงวันนี้ผ่านมา 6 เดือนแล้วแต่เจ้าอาวาสยังเข้าวัดไม่ได้ โดยสัมภาษณ์ ลุงพร ปั้นเพ็ง ไวยาวัจกร , พระครูพิสุทธิวรากร เจ้าอาวาสวัดบางคลาน, ชัชวาล ขันสำลี ทนายความ, สุรีรัตน์ ครอบสวย ชาวบ้านในพื้นที่



ตั้งแต่วันนั้นที่มาเป็นเดือนแล้ว ยังไม่ได้เข้าวัดเลย?



พระครูพิสุทธิวรากร : ใช่ เข้าครั้งนึงวันที่ 22 ส.ค. ครั้งนึงที่ผ่านมา ที่บิ๊กโจ๊กลงไปแล้วส่งมอบทรัพย์สินตามคำพิพากษาศาล วันนั้นมีเจ้าหน้าที่บ้านเมืองลงไป มีบังคับคดี มีรองอธิบดีบังคับคดี รองมหาดไทย นิติกรมหาดไทย นักกฎหมาย สำนักพุทธ และท่านสุรเชษฐ์ หักพาล ไปตามคำพิพากษาศาล บังคับคดี ใน 720 ให้ส่งมอบทรัพย์สินของวัดเป็นมรดกของวัด เมื่ออดีตเจ้าอาวาสท่านมรณภาพแล้ว จริงๆ แล้วก่อนมรณภาพเราได้ฟ้องให้อดีตเจ้าอาวาสส่งมอบทรัพย์สินของวัด ศาลพิพากษาถึงฎีกาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่านก็ต้องส่งมอบตามนั้น แต่อยู่มานานจนถึง 22 ส.ค. ที่ผ่านมา ถึงได้ส่งมอบ จริงๆ แล้วตัวท่านเองมรณภาพแล้ว เหลือแค่คณะไวยาวัจกรเท่านั้นเอง แต่มีการขัดขวางกันตลอดเวลา วันนั้นท่านสุรเชษฐ์ หักพาล ท่านลงไป พร้อมเจ้าหน้าที่ ในวันนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นจริงๆ ตั้งแต่ตอนเช้าก่อนส่งมอบ ก็มีการปิดประตูวัดทั้งหมด ก่อนที่ท่านบิ๊กโจ๊กท่านจะมา เมื่อขบวนรถมา อาตมาเองก็ตามไป ท่านบิ๊กโจ๊กเข้าได้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมืองเข้าได้ แต่มีกลุ่มบุคคลของอดีตเจ้าอาวาสกลุ่มเดิม เขาอยู่ในวัดกันอยู่แล้ว เป็นมวลชนจัดตั้งที่คอยกันอยู่ในวัดอยู่แล้ว เข้าไปอยู่ในวัดสัก 100-200 คน อาตมาไม่ทราบ ผอ.บังคับคดี ไปอ่านคำพิพากษา วันนั้นได้เข้าวัด แต่การเข้าก็เหตุการณ์ไม่ปกติ มีการวางแผนกัน มีการปิดประตูที่วัดให้เข้าเฉพาะเจ้าหน้าที่และคนของเขาเท่านั้น คนของอาตมา คณะกรรมการวัด ลูกศิษย์ลูกหา หรือคนในหมู่บ้านจะเข้าไปด้วยก็ไม่ได้ เมื่อถึงเวลาก็ประกาศเรื่องส่งมอบทรัพย์สิน ส่งมอบเสร็จเรียบร้อย เหตุการณ์ตรงนี้ที่เราฟ้องไปมี 2 คดี เราฟ้องขับไล่ให้จำเลยออกจากวัด ศาลมีคำพิพากษาห้ามยุ่งเกี่ยวกับวัด ก็ต้องกันจำเลยให้หมด จะได้ไม่มีปัญหา ถึงมีการส่งมอบทรัพย์สินถึงจะถูกต้อง

เกริ่นแบบง่ายๆ วัดบางคลานเป็นวัดดังที่พิจิตร อดีตที่ผ่านมา มีเจ้าอาวาสรูปนึง ท่านมีไวยาวัจกร กลุ่มขั้วทางท่านอดีตเจ้าอาวาส พอท่านเจ้าอาวาสมรณภาพ เขาก็มีการจัดตั้งเจ้าอาวาสรูปใหม่เพื่อให้เข้าไปอยู่และดูแลวัดบางคลานต่อเนื่อง ทั้งหมดชาวบ้านไม่ได้เลือก มาจากฝั่งมหาเถรสมาคม ถึงมีการลงมติว่าให้พระครูพิสุทธิวรากรเป็นผู้เข้าไปดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสและดูแล ครั้งแรกไปในฐานะรักษาการ จากนั้นถึงมีคำสั่งว่าให้พระครูเป็นเจ้าอาวาสอย่างถูกต้อง แต่ปรากฏว่ามีมุมไวยาวัจกร ลูกศิษย์ลูกหาของเจ้าอาวาสรูปเดิม ท่านก็บอกว่าพวกเขามีการสร้างวัดบางคลานไว้อย่างดี มีการทำมาค้าขายกันได้ โดยมีชาวบ้านไปขายบริเวณนั้นได้ มีการทำนุบำรุงวัดบางคลานมาให้เจริญรุ่งเรือง อยู่ดีๆ ทำไมมีเจ้าอาวาสรูปใหม่มา แล้วอาจจะผิดกลิ่น ไม่ได้เป็นขั้วพวกเขา หรืออาจมองว่าพระรูปนี้มาอาจไม่ได้สามารถทำนุงบำรุงวัดได้ดีเท่ารูปเก่า เขาต้องการหาเจ้าอาวาสของเขาเอง ทีนี้ประเด็นก็แตกออกไป เหมือนมีผู้นำชาวบ้านซึ่งเป็นลูกศิษย์เจ้าอาวาสองค์เดิม ได้มีการไปขอร้อง พูดคุยกับสว.กิตติศักดิ์ ท่านก็เลยเข้ามาช่วยดูแลวัดแห่งนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างมีกฎหมาย มีกฎของวัด มีกฎของมหาเถรสมาคมขึ้นมา แต่มันสิ้นสุดแล้ว ว่ามหาเถรสมาคม แต่งตั้งเจ้าอาวาสรูปใหม่ขึ้นมา หลังจากนั้นเจ้าอาวาสรูปใหม่ไปร้องกับทางศาล ให้ส่งมอบทรัพย์สินทั้งหมดสู่มือเจ้าอาวาสองค์ใหม่ แต่ปรากฏว่าศาลก็มีการบังคับคดีเรียบร้อย แต่คนเก่าไม่ให้เข้าวัด ที่มาทั้งหมดคือตรงนี้ คนของอดีตเจ้าอาวาสและท่านกิตติศักดิ์มองว่าให้เจ้าอาวาสรูปใหม่เข้าไปไม่ได้ เพราะไปแล้วไม่สามารถทำนุบำรุงวัดได้ แล้วมีการบอกด้วยว่าเจ้าอาวาสรูปใหม่มีการไปไล่ที่ชาวบ้านชาวช่องแถวนั้นไม่ให้ทำมาค้าขาย แถมไปไล่ฟ้องชาวบ้านด้วย เรื่องเลยบานปลาย ถูกมั้ย?



ลุงพร : ถูกไม่หมด ก่อนที่มาถึงประเด็นใหญ่สำคัญ มันเกิดจากการตรวจสอบและพบการทุจริต การยักยอกเงินของวัดไป มีอยู่ก้อนนึง 160 ล้าน เราได้ร้องต่อป.ป.ช. อดีตเจ้าอาวาสก็ถูกฟ้องไปถึงอัยการศาลทุจริตแล้ว ทั้งหมดเป็น 3 ช่วงด้วยกัน ช่วงแรก 45 ล้าน ช่วงที่สองเป็น 113 ล้าน เมื่ออดีตเจ้าอาวาสมรณภาพ ก็เหลือผู้เกี่ยวข้อง ทางวัดก่อนเกิดเหตุสองเดือน ก็ฟ้องเรียกเงินคืนจากผู้เกี่ยวข้อง 3 คดี คดีแรกฟ้อง 44 ล้าน คดีที่สองก็ 6 ล้าน คดีที่สาม 10 ล้าน 3 แสนกว่าบาท คนที่ถูกฟ้องก็เป็นอดีตไวยาวัจกร เป็นคนจำหน่ายวัตถุมงคล เป็นเจ้าหน้าที่การเงินการบัญชีที่ยังอยู่ในกลุ่มคนนั้น แล้วรอยต่อมีอยู่รอยต่อนึง อดีตไวยาวัจกรคนนี้ศาลไกล่เกลี่ยให้เลิก ให้ท่านเจ้าอาวาสรับไวยาวัจกรเดิมมาร่วมสองคน ร่วมบริหารจัดการ ก็เซ็นตกลงรับทราบกันหมด วัดจะได้สงบ ไม่ต้องมีอะไรกันอีก แต่ปรากฎว่าไวยาวัจกรที่อยู่ในกลุ่มชุดดำนั้นแหละไปแจ้งความดำเนินคดีผู้พิพากษาว่าถูกบังคับให้เซ็นชื่อ กลุ่มนั้นก็โดนคดีหมิ่นศาลไป ขณะเดียวกันเขาก็ไปร้องคุณกิตติศักดิ์ให้เข้ามา ก็เลยกลายเป็นเรื่องราว

ครั้งแรกที่กลายเป็นจุดสนใจ มีชายฉกรรจ์บุกวัดไป แล้วบอกว่านายสั่ง ครั้งนี้มีการเอาคนไปรุมกระทืบด้วย คนพิการก็โดนรุมกระทืบ?
สุรีรัตน์ : เป็นสามีค่ะ พี่ไม่เห็นว่าเขาโดนทำร้ายอะไร แต่พอลงมาจากข้างบนก็เห็นว่าผู้ชายลากเขาไปมา ตอนนั้นเขาบอกเขาสลบไปแล้ว ไอออกมาเป็นเลือดถึงได้รู้ว่าโดนทำร้าย

ผ่านมาก็มีเหตุอีกเจ้าอาวาสจะเข้าวัดตามคำสั่งศาล แต่พอไปโดนปิดไม่ให้เข้า ล่าสุดพอไปก็มีกลุ่มชายกลุ่มนึงเอาหนังสติ๊กมายิงเจ้าอาวาส?
พระครูพิสุทธิวรากร : วันที่ 13 ก.ค. ยังไม่ได้บังคับคดี วันนั้นเข้าไปปกติ ฝ่ายปกครองเขาก็ทำหน้าที่ ไม่ได้ทวงวัดคืน แต่พาไปเข้าวัดเฉยๆ





เป็นชาวบ้านในพื้นที่มั้ย?
สุรีรัตน์ : ไม่ทุกคน

พระครูพิสุทธิวรากร : ที่เราเห็นหน้าจำได้ มีทั้งในและนอก



ล่าสุดบิ๊กโจ๊กยังเอาไม่อยู่ เห็นว่ามีการทะเลาะเบาะแว้งระหว่างสว.กิตติศักดิ์กับพี่ทนาย ทุกวันนี้ท่านจำวัดที่ไหน?
พระครูพิสุทธิวรากร : วัดหนองดง เมื่อก่อนเคยเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองดง ตอนนี้ก็พักที่นั่นอยู่ เพราะเข้าวัดบางคลานไม่ได้

เหตุผลที่ฝั่งลูกศิษย์อดีตเจ้าอาวาสวัดบางคลาน แล้วแต่ท่านส.ส.เอง ไม่อยากให้ท่านเข้า ด้วยเหตุผลอะไร?
พระครูพิสุทธิวรากร : เห็นที่เขาพูดเวลาออกรายการ ส่วนมากจะพูดว่าเราเป็นพระนอก ไม่ได้อยู่ในบางคลาน แต่จริงๆ แล้วจะเป็นพระนอกหรือพระใน ก็ไม่เป็นไร อย่านอกรีตก็พอ ส่วนมากเจ้าคณะสงฆ์จะแต่งตั้งเจ้าอาวาสที่มีคุณสมบัติ มีความรู้ความสามารถ มีสติปัญญา ที่จะไปบริหารจัดการวัดได้ ไม่ถูกครอบงำจากชาวบ้าน ผู้ไปหาประโยชน์จากวัด และปัญหาก็จะตามมาที่คณะสงฆ์

ที่ไม่ชอบท่านเพราะไม่ได้อยู่ในพื้นที่อย่างเดียวเหรอ?


พระครูพิสุทธิวรากร : เราไม่ได้อยู่ในอาณัติเขา ต้องเป็นพระในอาณัติของคนกลุ่มนี้ เขาต้องปกครองได้ ชี้ได้ว่าทำโน่นนี่นั่น แต่อาตมาไม่ใช่แบบนั้น

อยากมีเจ้าอาวาสที่สั่งได้?
พระครูพิสุทธิวรากร : เขาเรียกว่าเจ้าอาวาสอยู่ในบ้าน สมภารอยู่ที่วัด เจ้าอาวาสทำอะไรไม่ได้ เขาต้องชี้นำ ดูแลเอง เห็นมั้ยปรากฎการณ์ที่วัดการดูแลก็เป็นฆราวาสญาติโยมทั้งนั้น

พี่ทนาย เหตุการณ์วันนั้นเป็นเหตุการณ์อะไร ทำไมถึงปะทะกับท่านกิตติศักดิ์?
ชัชวาล : เมื่อศาลพิพากษาแล้วจะมีอยู่สองคดี คือขับไล่กับส่งมอบเฉพาะทรัพย์ที่อยู่ในความครอบครองของเจ้าอาวาส วันที่บังคับคดี เมื่อพิพากษาแล้วเขาไม่ปฏิบัติ ก็จะออกหมายบังคับคดีไปยังกรมบังคับคดีเพื่อให้ดำเนินการบังคับคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ พอไม่ปฏิบัติตาม เขาก็ไปปิดประกาศขับไล่ ถ้าไม่ออกภายใน 15 วัน ศาลต้องออกหมายจับ แล้วท่านกิตติศักดิ์ เรียกคุณเปี๊ยกได้มั้ย พฤติกรรมไม่น่าเป็นสว.แล้วตอนนี้ ให้เกียรติเรียกคุณเปี๊ยกแล้วกัน ในคลิปเขาชี้หน้าผมแล้วบอกว่าเดี๋ยวมึงโดน หลังจากที่เขาเข้าใจผิดว่าทางฝ่ายโจทก์อะไรก็ฟ้อง อะไรก็หมายจับ ชาวบ้านไม่รู้เรื่องก็ถูกออกหมายจับ ศาลสั่งห้ามยุ่งเกี่ยวกิจการของวัด แต่มีการทำบุญซ้อนวัด ที่ไหนทำบุญสองที่ ทำบุญวัดเดียวสองที่ ศาลาโน้นด้วย ศาลานี้ด้วย สวดซ้อนกันตลอด นี่ถือว่ายุ่งเกี่ยวแล้ว พอเข้ามายุ่งเกี่ยว คนที่มายุ่งเกี่ยว ก็ถือว่าเป็นบริวารจำเลย ต้องถูกดำเนินคดีถูกออกหมายจับด้วยเช่นกัน เลยดูว่าคนถูกออกหมายจับเยอะ



ชาวบ้านบอกว่าไปรังแกเขา แต่ทุกอย่างยึดหลักตามกฎหมาย?
ชัชวาล : ใช่ครับ ไม่ทำก็ไม่ได้ เพราะเจ้าพนักงานสั่งทนายให้ทำ ตัวผู้นำไม่ได้ติดคุกหรอกมันไปโยนให้ชาวบ้าน ว่าชาวบ้านไม่รู้เรื่อง แล้วชาวบ้านถูกฝังชิฟว่าท่านเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันเป็นคนไม่ดี ทั้งที่ท่านไม่เคยไปว่าชาวบ้านเลย ไม่เคยกล่าวหาชาวบ้านแม้แต่นิดเดียว เขาสำนึกท่านก็บอกว่าให้ถอนฟ้องเถอะ ไม่เอา ผมก็ถอน หลายคดี หลายคนด้วย เรื่องบังคับคดี ตอนนี้สำนักบังคับคดีเป็นเจ้าภาพใหญ่ มันจะสำเร็จหรือไม่อยู่ที่เจ้าภาพ เมื่อเจ้าภาพดำเนินการบังคับคดีไม่เข้มงวด เช่นกฎหมายบอกว่าขณะที่ไปบังคับคดี ถ้ามีการขัดขวาง 284 เลย ถ้าขัดขวางในการส่งมอบ ให้ตร.จับออกไปก็ได้

กรมบังคับคดีมีหน้าที่ต้องเข้าสู่พื้นที่และมีการประกาศว่าที่แห่งนี้ศาลตัดสินแล้ว และส่งมาให้กองบังคับคดีแล้ว ถ้าไม่ออกเอาตร.จับออกไป แต่นี่จะบอกว่าเขาหย่อนยาน?
ชัชชาล : เขาไม่ได้ขอ บางทีตร.บอกว่าบังคับคดีไม่ได้ขอให้จับ ต้องบังคับคดีบอกถึงจะทำ แต่บังคับคดีบอกว่าไม่ได้ ไม่มีอำนาจ ต้องไปขออำนาจจากอธิบดีก่อน จริงๆ ความเห็นส่วนตัว ถ้ามีการต่อสู้ขัดขวาง น่าจะทำได้ ไม่ต้องไปขออำนาจอธิบดี ตรงนี้ท่านส.ส.ทวี สอดส่องน่าจะเข้ามาดู มันจะได้รวดเร็วและติดตามคดีได้เร็วกว่านี้

เหตุการณ์กับสว.กิตติศักดิ์คืออะไร?
ชัชวาล : ผมจะเข้าวัด ผมกับทีมงานไปดูแลว่าเขาจะไปสำรวจทรัพย์ในวัดว่าอะไรสูญหายบ้าง ที่บอกว่าบิ๊กโจ๊กส่งมอบให้ ท่านก็ต้องรับผิดชอบนะ ถ้าหายไปท่านก็ต้องโดนคดี เราก็อยากไปสำรวจว่าทรัพย์หายมั้ย พอเข้าไปดูคุณเปี๊ยกมาชี้หน้า

ไม่เรียกสว.เหรอ?
ชัชวาล : ไม่เรียกครับ เรียกท่านเปี๊ยกได้

ในนั้นเขาถามว่ามึงเป็นใครหรือ คุณเป็นใคร?
ชัชวาล : มึงเป็นใคร ท่านก็รู้จักผมดี เคยเจอที่ศาล ที่บ้านเขาก็เจอ เขาคงอายุเยอะแหละ ความจำไปยังไงหรือเปล่าก็ไม่ทราบ แต่เขาก็ไม่ให้เกียรติผม แล้วผมจะต้องให้เกียรติเขา ผมผิดอะไร เขาเรียกพระว่าคุณ แม้แต่พระก็ไม่ให้เกียรติ เขาไม่ให้เกียรติใคร แล้วเขาควรได้รับเกียรติจากใครมั้ยครับ

ในมุมเจ้าอาวาสองค์ใหม่ ท่านกิตติศักดิ์มีส่วนอะไรกับวัดเหรอ ถึงมาห้ามได้?
ชัชวาล : ในมุมผม เดาๆ ว่าอยากดัง ผมไม่เคยคิดจะออกเลยนะ ไม่ได้หิวแสง นี่ออกรายการครั้งแรก สอง ณ ขณะนั้นท่านอยากสร้างผลงาน ชาวบ้านไปขอร้องหรือเปล่าผมไม่ทราบ พอเป็นคดีใหญ่ ทำให้ท่านมีผลงาน คิดได้แค่นั้น แต่ท่านจะฟังเหตุผลคนอื่นหรือไม่ ผมเข้ามาทีหลังในส่วนบังคับคดีเท่านั้น ฉะนั้นอะไรที่ถึงที่สุดแล้ว ผมก็ต้องบังคับคดี มันเป็นนิติรัฐ

บิ๊กโจ๊กไปก็ยังเอาไม่อยู่?
ลุงพร : วันที่ท่านไป เราได้คุยกันเป็นส่วนตัว ว่าท่านจะทำอะไร วันนั้นท่านไปในนามที่ปรึกษาท่านผู้ว่าฯ ส่วนเรื่องบังคับคดี ก็เป็นเจ้าภาพ อย่างที่ท่านชัชวาลพูดนี่แหละ การบังคับคดีก็เป็นสองส่วน เขาคุยกับผมเลยว่าจะเอาจำเลยตามบังคับออกให้หมดก่อน ส่งมอบให้เสร็จแล้วก็ย้ายของเข้าพิพิธภัณฑ์เลย เขาคุยกับผมแบบนี้ แต่พอถึงวันนั้นมีม็อบจัดตั้งมา มีเสื้อเหลืองมา ก็ทำให้ของเราเข้าไม่ได้ แล้วส่งตร.คุมที่บ้านผมอีก ที่คนงานเตรียมย้ายของ มีอยู่ 30-40 คนที่เข้าไม่ได้ เขาไม่ให้เข้า ก็กลายเป็นวันนั้นการบังคับคดีกลายเป็นแค่ส่งมอบก่อนแล้วเดี๋ยวเขาจัดการเอาคนออก รับไปก่อน เราก็เห็นว่าพอเสร็จแล้วไม่ทำแบบนั้นซะแล้ว การบังคับคดีขับไล่จำเลยทั้ง 11 และบริวาร จำเลยที่หนึ่งคือคุณกิตติศักดิ์ จำเลยทั้งหมดอยู่ตรงนั้นทั้งหมด เดินเคียงคู่กันไป มันถูกมั้ย แล้วไม่ไล่เขาออก ให้อยู่ตรงนั้น การรื้อถอนก็ไม่ได้รื้อ เราก็ต้องบันทึกว่าการบังคับคดี 864 ยังไม่เสร็จสิ้น

ชัชวาล : การบังคับคดี ผมมองว่ามันค่อนข้างผิดเพี้ยนไปนิดนึง ถ้าศาลสั่งแล้ว การนำบังคับคดี ผู้ชนะคดีคือโจทก์ ต้องให้ผู้แทนโจทก์ชี้นำการบังคับคดีทั้งหมด แต่ท่านดูเหตุการณ์ สว.กิตติศักดิ์ขึ้นเครื่องมา ซึ่งเป็นจำเลยที่หนึ่งในคดี ไม่ใช่มากับฝ่ายเจ้าหน้าที่ส่วนกลางที่มีอำนาจหน้าที่ทั้งนั้น นั่งมาด้วยกัน สว.กิตติศักดิ์นั่งเครื่องมากับรองอธิบดีกรมบังคับคดี นั่งกันมาทั้งหมดเลย ผมทำเรื่องบังคับคดีมา 30 ปี เวลาจะยึดโจทก์ต้องนำชี้ต้องฟังโจทก์ แต่การบังคับคดีครั้งนี้ มันค่อนข้างจะบิด ผิดเพี้ยนไปนิดนึง

จะบอกว่าไม่ชอบเหรอ?
ชัชวาล : ไม่ใช่ไม่ชอบ แต่มันจะเป็นจำเลยยังไง พาจำเลยมา ผมกำลังบังคับคดีอยู่บนตึก ท่านบิ๊กโจ๊กบอกว่าบอกกิตติศักดิ์แล้ว กิตติศักดิ์บอกโอเค อย่างนี้เหรอที่ผู้ชนะบังคับคดีเป็นคนชี้ให้บังคับคดี สอง การบังคับคดีทำไมไม่กันคนออกไปข้างนอกก่อนแล้วมาบังคับคดี จำเลยและบริวารต้องออกไปข้างนอกให้หมด ถึงจะมีการส่งมอบ การส่งมอบของบิ๊กโจ๊กครั้งนั้นไม่ได้มีผลอะไร เพราะมันเข้าครอบครองไม่ได้ ผมก็คัดค้านท่านตั้งแต่ต้นแล้วว่าทำไมไม่ให้คนออกก่อนแล้วค่อยส่งมอบ ท่านบิ๊กโจ๊กรับปากว่าเสร็จแล้วจะเคลียร์คนออกให้หมด แล้วมาบอกว่าจะให้ท่านบริหาร มันหมดหน้าที่แล้วเป็นไปไม่ได้หรอก

ท่านบิ๊กโจ๊กบอกงว่าเหลือแต่เจ้าอาวาสจะทำยังไงให้ชาวบ้านศรัทธา?
ชัชวาล : ส่วนหนึ่งผมก็เห็นด้วย แต่นี่ให้โอกาสท่านมั้ยล่ะครับ ประชาชนก็ถูกฝังชิฟโดยผู้นำว่าท่านไม่ดี ไปดูว่าการพัฒนาวัดเทียบกับก่อนที่ท่านเข้ามา อะไรดีกว่า เงินที่มาบูรณะวัด ดีกว่าเงินที่หายไป ที่เราตามมั้ย ไม่ได้บูรณะวัดเลย

ติดใจเรื่องกรมบังคับคดี เมื่อกี้บอกว่านั่งเครื่องไปด้วยกันกับท่านสว. ซึ่งเป็นจำเลยที่หนึ่ง พอลงเครื่องมา?
ชัชวาล : ท่านบิ๊กโจ๊กก็เดินคู่กันมาแบบนี้ แล้วประชาชนมาถามผม ผมจะตอบยังไงครับ แล้วในการบังคับคดีต้องถามจำเลยที่หนึ่งตลอดว่ายอมมั้ย เอาแบบนี้มั้ย ผมบอกให้รื้อถอน บังคับคดีบอกว่าไม่ต้องแล้ว วินิจฉัยเสร็จแล้ว ผมบอกว่างั้นให้บันทึกว่าไม่ได้รื้อถอนนะ ถ้าไม่บันทึกผมไม่เซ็นกันนะ สุดท้ายก็บันทึก ผมก็ไปร้องศาล รอฟังคำสั่งศาล วันที่ 25

บางคลานโมเดล คือต่อไปนี้ วัดอื่นๆ ทั่วประเทศไทย ถ้ามหาเถรสมาคมมีการแต่งตั้งเจ้าอาวาส แล้วขั้วอำนาจเดิมที่เคยอยู่กับพระรูปเดิมบอกว่ากูไม่เอา จะเอาคนที่กูชอบกูแฮปปี้ แล้วจะมีมหาเถรสมาคมไว้ทำไม เท่ากับสืบทอดตำแหน่งโดยให้ฝั่งขั้วอำนาจเดิมเจ้าอาวาสรูปเดิมไปคัดกันเอาเอง? ลุงพร : กฎหมายไม่ต้องมีเลย

ผมไม่ได้เข้าข้างใครนะ ถ้าคุยมุมข้อกฎหมาย เอานักกฎหมายที่ไหนมานั่ง ก็ต้องพูดคำเดียวกัน ไม่งั้นบางคลานโมเดลจะคือมาตรฐานใหม่ ที่กำลังถูกสร้างมาเลยว่ากูไม่เอาเจ้าอาวาสคนนี้กูจะเอาเจ้าอาวาสคนนั้น แล้วจะแต่งตั้งไปทำไม?
ชัชวาล : พรบ.สงฆ์บอกพระมาจากการแต่งตั้ง ก็แก้ว่ามาจากการเลือกตั้งของชาวบ้าน เมื่อไม่แก้ก็ต้องเป็นไปตามกฎหมายแบบนี้ก่อน เหมือนสว.แต่งตั้งมา คุณแก้ให้เลือกตั้ง คุณก็ต้องเลือกตั้ง ไม่เห็นยาก ก็ไปแก้กฎหมาย ไม่เห็นต้องมาต่อต้านกันแบบนี้เลย

ลุงพร : ตั้งแต่วันที่ 6 ผมบอกว่าถ้าผู้บัญชาการตร.แห่งชาติ ดำเนินการไม่ได้ กฎหมายประเทศไทยก็ใช้ไม่ได้ แค่คนๆ เดียวไม่ยอมรับกฎหมาย ไม่ยอมรับกฎหมายรัฐธรรมนูญ ไม่ยอมรับพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ คนๆ เดียวจะรื้อกฎหมายทั้งประเทศเลยใช่มั้ย ตั้งแต่ 6 เม.ย.เป็นต้นมา เกิดเหตุอุกฉกรรจ์ แต่จนวันนี้ฮาร์ดดิสถูกขโมยไป ไม่รู้วี่แววไปไหน เราแจ้งความ เรียกไป แจ้งข้อกล่าวหาแล้วก็มาคุมวัดเหมือนเดิม มันเกิดอะไรขึ้นกับความไม่เข้มแข็งของกฎหมาย

คนบอกว่าอยากให้ท่านชาดามาจัดการเรื่องนี้ แต่ท่านชาดาบอกว่าอันนี้ไม่ได้อยู่ในกรอบอำนาจของท่าน เรื่องนี้ขึ้นตรงกับยุติธรรม วันนี้เท่าที่ทราบ ท่านก็ไปร้องยุติธรรมด้วยเหมือนกัน ต้องรอดูว่าข้อเท็จจริงจะเป็นยังไง แต่ก็ต้องฟังอีกมุมเหมือนกัน มีเสียงสว.ท่านกิตติศักดิ์ ท่านให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้?
กิตติศักดิ์ : น้ำหนักตั้ง 84 ใครจะมาอุ้มเล่า ก็นายพรนั่นแหละที่ไปร้องทั่วประเทศไทย ไปร้องว่าผมมีอิทธิพล ขัดขวาง พยายามใส่ร้ายผม ให้ทนายดูหมดแล้วนะดำเนินคดีหมด มันไม่เป็นความจริง กิตติศักดิ์น่ารักจะตาย ต้องไปถามไอ้เจ้าอาวาส เพราะไอ้เจ้าอาวาสไปจ้างคนจากที่อื่นมา ชาวบ้านบางคลานจริงๆ เขาอยู่ในวัด 400-500 คนโน่น ไอ้เจ้าอาวาสจับไปกี่คน เขามีปัญหากับชาวบ้าน ไม่ได้มีปัญหากับสว. จะมาบุกวัดไม่ต่ำกว่า 3 ครั้งแล้วมั้ง สว.ไม่เคยอยู่เลย มีวันนั้นแหละวันที่ไปชี้หน้า ไม่ตบก็บุญแล้วพระนั่นนะ ผมไปผมไม่รู้มาก่อนว่าจะไป ไปถึงก็บอกโยมมาทำไม มาก็ดีแล้ว เปิดประตูให้ด้วย เป็นพระเล็กๆ แล้วมาชี้นิ้วให้ผมเปิดประตู มันใช่มั้ยล่ะ

นี่เพิ่งฟังครั้งแรกเหมือนกัน?
ลุงพร : อยากให้ดูคลิปที่ผมส่งให้ จะมีรถคุณกิตติศักดิ์ คนสนิทเขา นายฮะ ผมแจ้งความดำเนินคดีเขาอยู่ เขาขับรถวนไปในวัดที่เขาอ้างว่าเขามาจากที่ไหน เขาห่วงจะมาดูชาวบ้าน จริงๆ เขาอยู่ในวัดนั่นแหละ ดูคลิปได้เลย

เมื่อกี้สว.บอกว่าท่านไม่ตบพระก็บุญแล้ว รู้สึกยังไง?
พระครูพิสุทธิวรากร : อาตมาเฉยๆ ถ้าเกิดท่านตบก็คงรู้ว่าอะไรจะเกิดกับตัวเขาเอง กรรมก็จะตามไปเอง



เขาบอกเป็นพระเล็กๆ ไปชี้ให้เขาเปิดประตูได้ไง?
พระครูพิสุทธิวรากร : พระเล็กพระใหญ่เอาอะไรมาวัด จริงๆ สว.ก็เป็นฆราวาส อาตมาเป็นพระ คำว่าพระบวชวันแรกพ่อแม่เขายังไหว้เลย แล้วสว.เป็นใคร พ่อแม่พระบวชใหม่ยังไหว้พระได้เลย เห็นมั้ย แม้แต่ในหลวงท่านก็ไหว้พระ แล้วท่านเป็นใคร ไม่ไหว้พระ ไม่นับถือพระ ไม่เคารพพระ

ท่านสว.อาจหมายถึงท่านหรือเปล่า?
พระครูพิสุทธิวรากร : หมายถึงอาตมาก็ช่างเหอะ จริงๆ แล้วคำว่าพระคำพูดของท่านสว.ที่พูดว่าจะตบพระหรือตบอาตมา จริงๆ เขาก็มีสิทธิ์นะ เขาตบได้ แต่การตบอาตมา ก็ต้องรู้นะว่าอะไรจะเกิดขึ้น อาตมาก็ไม่ได้ไปท้าทายเขาหรอก

นึกว่าพระอาจารย์จะบอกว่ามีมือมีตีนเหมือนกัน ไม่ใช่นะ?
พระครูพิสุทธิวรากร : ไม่ใช่ (หัวเราะ) ถ้าเขาตบอาตมาวันนั้นเขาก็คงรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่ยังดีที่เขาไม่ได้ตบ

เปิดคลิปเหตุการณ์วันนั้น ตอนที่ท่านเจ้าอาวาสเจอท่านกิตติศักดิ์ เท่าที่ฟังก็น่าจะเป็นเหตุการณ์เดียว เรื่องที่พระชี้ให้เปิดประตู พยายามคิดเป็นคนอื่นแต่ดูทรงแล้วเป็นใครไม่ได้เลย ท่านก็คงคิดว่าจะตบพระก็คือท่าน แล้วบอกเป็นพระเล็กๆ?
พระครูพิสุทธิวรากร : อาตมาเป็นรองเจ้าคณะอำเภอโพทะเล ไม่ได้เล็กนะ โดยมีเจ้าหน้าที่ปกครองคณะสงฆ์ตั้ง 12 ตำบล โดยการมอบหมายของเจ้าคณะอำเภอ

วันนี้อยู่ดีๆ ฟ้าผ่าเปรี้ยงมา เปลี่ยนเจ้าอาวาส เปลี่ยนเป็นรูปอื่นเลย เขาทำได้มั้ย?
ชัชวาล : ตามพรบ.สงฆ์ คิดว่าน่าจะต้องเริ่มต้นจากเจ้าคณะตำบลเสนอ ถ้าเจ้าคณะตำบลไม่เสนอไป ก็ไม่สามารถทำได้

พระครูพิสุทธิวรากร : ในเรื่องการเปลี่ยนตัวเจ้าอาวาส จริงๆ แล้วการเปลี่ยนตัวคณะสงฆ์ไม่ได้เปลี่ยนง่ายๆ หนึ่งต้องมีอธิกรเกิดขึ้นในวัด อธิกรหมายถึงมีคดี มีการร้องเรียนให้ตรวจสอบเจ้าอาวาสรูปนั้น ว่าทำผิดอะไรหรือเปล่า ยักยอกเงินวัดมั้ย ทำผิดกฎหมายอะไรต่างๆ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบมั้ย ก็ต้องเรียนเรียนไปที่เจ้าคณะตำบล เจ้าคณะตำบลก็ต้องตั้งคณะกรรมการสอบอาตมาก่อน ก่อนสอบอาตมาก็สอบผู้ร้องก่อนตามกฎหมายสงฆ์หรือกฎหมายบ้านเมือง เมื่อสอบอาตมามีความผิดตามนั้นมั้ย ถ้าผิดตามนั้นสงฆ์ก็พิจารณาให้ออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส ถอดถอน ให้ออก หรือทำทัณฑ์บน เมื่อคณะสงฆ์ตั้งกรรมการสอบเรียบร้อย มีความผิดจริงเขาก็ให้ออก ถ้าอาตมาไม่พอใจการตรวจสอบของคณะสงฆ์ อาตมาก็มีสิทธิ์อุทธรณ์ได้ และฎีกาได้อีก

มุมพี่ที่เป็นชาวบ้าน ตอนนี้เป็นยังไง?
สุรีรัตน์ : เศรษฐกิจพังไปแล้วค่ะรอบๆ วัดบางคลาน ไม่มีนักท่องเที่ยว แม่ค้าพ่อค้าที่อยู่รอบๆ นอก หรืออยู่ในวัดก็ขายของกันไม่ค่อยได้ เพราะนักท่องเที่ยวที่เคยหลั่งไหลมาเที่ยววัดบางคลาน กราบไหว้หลวงพ่อ ก็เลือกไปวัดอื่นดีกว่าเพื่อความสบายใจ ชาวบ้านพ่อค้าแม่ค้าเดือดร้อนกันมาก

มุมสว. เห็นว่ามีชาวบ้านนอกพื้นที่ ไม่อยากให้ท่านเข้าไปยุ่ง? 
สุรีรัตน์ : พี่ไม่ทราบว่าชาวบ้านที่อยากให้สว.มายุ่งมีเยอะเท่าไหร่ แล้วกลุ่มคนที่อ้างว่าเป็นกลุ่มคนรักวัดบางคลาน ไม่จริงหรอกค่ะถ้ารักวัดบางคลานจริงจะไม่ทำแบบนี้ เพราะวัดบางคลานตอนนี้ชื่อเสียงเสียหายนะคะ เสียหายไปทั่วเลย

อยู่ในสายกับ ท่านพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอนนี้ปัญหายุ่งเหยิงไปหมดเลย มีนโยบายจะจัดการเรื่องนี้ยังไงบ้าง?
พวงเพ็ชร : คงไม่ได้ใช้คำว่าจัดการ ใช้คำว่าประสานงานให้ราบรื่นไปมากกว่า เพราะอำนาจหน้าที่ของพี่ดูแลสำนักพุทธก็จริง แต่ไม่ได้มีอำนาจในเรื่องของพระ เป็นอำนาจของเจ้าคณะจังหวัด ที่เขาสืบสวนกันขึ้นมา ที่เขาจะเป็นผู้ตัดสินตั้งพระหรือปลดพระ ในฐานะเป็นชาวพุทธก็อยากให้วัดนี้มีการเปิด ก็เลยอยากเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลก่อน โดยจะนัดสำนักพุทธ ตร.ที่ไปแล้วทำงานไม่สำเร็จ ท่านโจ๊กก็คงมาให้ข้อมูลว่าเกิดอะไรขึ้น แต่หลังจากวันสองวันที่มา ก็รับทราบว่ามีการฟ้องกันทั้งต่างคนต่างฟ้อง ก็คิดว่ากฎหมายเป็นยังไง เราก็ยึดกฎหมายเป็นหลัก ต้องเชิญและเอาข้อมูลมาดูกันว่าฟ้องร้องไปถึงไหนใครแพ้ใครชนะ ขออนุญาตดูข้อมูลก่อนได้มั้ยคะ ก่อนตัดสินว่าใครผิดใครถูก

มีประเด็นที่เจ้าหน้าที่กองบังคับคดีลงพื้นที่ จริงๆ เขาสามารถใช้อำนาจบังคับคดีได้เลย และให้ตร.จับกุมตัวคนขัดขวาง แต่กลายเป็นว่าเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีเองไม่เข้มพอ ตรงนี้เลยทำให้หลายคนมองว่ามีเรื่องอิทธิพลมืดไปครอบงำหรือเปล่า?
พวงเพ็ชร : จริงๆ แล้วท่านรัฐมนตรี ท่านทวีคงดูแลในเรื่องนี้ได ท่านคงเรียกกรมบังคับคดีมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงทำไม่สำเร็จ

ถ้าข้อกฎหมายออกมาแบบไหน ต้องเดินตามรอยแบบนั้น?
พวงเพ็ชร : ค่ะ เราต้องใช้กฎหมายเป็นหลัก ถ้าทุกคนอยากทำตามอำเภอใจตัวเอง ก็คงไม่ได้ค่ะ กฎหมายต้องเคารพค่ะ

จะเรียกไปคุยเมื่อไหร่?
พวงเพ็ชร : วันจันทร์คงเริ่มคุยในวงเล็กก่อน แล้วจะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาอีกครั้งนึง เพราะเห็นในทีวีก็มีหลายท่าน แต่มีคนรอบนอกมาให้ข้อมูลเยอะพอสมควร ก็เก็บข้อมูลไปก่อนยังไม่ตัดสินอะไร ให้กำลังใจชาวพิจิตรอยากให้วัดนี้ได้เปิดค่ะ



จะเรียกสองฝั่งมาพร้อมกันมั้ย?
พวงเพ็ชร : ยังค่ะ ทยอยดูข้อมูลก่อน ที่สำคัญคืออยากเอากฎหมายมาดู ใครฟ้องร้องยังไง ใครแพ้ชนะยังไง ขอดูตัวนี้เป็นหลักด้วย อยากให้ทุกคนให้กำลังใจชาวพิจิตรด้วย วัดนี้จะได้เปิด

พระครูพิสุทธิวรากร : ส่วนมากเราไม่เคยไปต่อสู้กับท่านสว. เราทำหน้าที่ของเราเฉยๆ

ท่านบิ๊กโจ๊กหรือสว. ก็บอกว่าท่านเองไปไล่ฟ้องชาวบ้าน เขาจะมาขายของก็ไม่ให้เขาขาย ?
ชัชวาล : ถ้าเป็นผู้นำ ก็สมควร แต่ชาวบ้านที่ไม่รู้เรื่อง ถูกฝังชิฟมาก็ไม่ควรดำเนินคดี ผมบอกไงว่าขนาดเราดำเนินคดีคนละเมิดกฎหมาย ทำผิดกฎหมาย ถ้าเราไม่ทำก็จะยิ่งฮึกเหิมมากกว่านี้ เราก็ดำเนินคดีไปตามความจำเป็นแต่ละเรื่องแต่ละราว ที่เขาละเมิดกฎหมาย เราจะปล่อยไว้เหรอ ท่านมอบอำนาจให้ผม ผมก็มีหน้าที่ ถ้าไม่ได้ทำวัดอาจเลวร้ายกว่านี้ก็ได้

ทุกอย่างดำเนินการตามกฎหมาย?
ชัชวาล : ถูกต้องครับ คนละเมิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย

ถ้าจะโกรธพระก็อย่าโกรธเลย ถ้าจะโกรธไปโกรธคนที่ให้คุณมาออกหน้าดีกว่า?
ชัชวาล : ถูกต้องเลย คนที่ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ณ ปัจจุบันนี้คือผู้นำที่ไม่ฟังอะไรเลย แล้วคนที่นำไม่ใช่คนพื้นที่บางคลาน คนนำขบวนการจริงๆ คือคนที่อื่น

พระครูพิสุทธิวรากร : คนที่ทำปัจจุบันนอกพื้นที่ทั้งนั้น อย่างสว.กิตติศักดิ์ ท่านเป็นคนโพธิ์ทับช้าง ถ้าพูดง่ายๆ ไม่เอากำแพงเพชรก็ได้ โพธิ์ทับช้างอยู่ติดกำแพงเพชร สองโยมบุญเลิศ อาตมาไม่รู้จักนะ รู้จักแค่ชื่อ เขาก็ไม่ใช่คนที่นั่น เขาเป็นคนจังหวัดปทุมฯ มีอดีตผอ.สำนักพุทธอีกคน มาอยู่ในกระบวนการนี้ เราไม่รู้เขาผิดเขาถูก แต่เขาอยู่เป็นแกนนำ แล้วก็มีสุภา ที่เป็นผู้หญิง ก็ไม่ใช่คนบางคลาน เขาอยู่บ้านติดกับอาตมานี่แหละ

ชัชวาล : ลองนึกภาพ ถ้าไม่ดำเนินคดีเลย อะไรจะเกิดขึ้นกับวัดบางคลาน จะกลายเป็นเมืองเถื่อน ไม่ใช่นิติรัฐ

พระครูพิสุทธิวรากร : แล้วเรื่องขายของในวัด อาตมาไม่เคยไปห้ามใครเด็ดขาดเลย ขายได้เลย อาตมาเคยจัดประชุม จัดระเบียบร้านค้าอยู่แล้ว ใครจะค้าขายก็ให้เป็นไปตามระเบียบ ไม่เคยหวงด้วย แต่ต้องตั้งให้เป็นระเบียบแค่นั้นเอง พูดง่ายๆ ร้านค้าก็ตั้งขายในวัดปกติอยู่แล้ว แต่คนที่มาพูดว่าอาตมาหวงไม่ให้ขายของในวัดเป็นใครเท่านั้นเอง แล้วไม่เคยเก็บร้านค้า มีช่วงหลังที่เก็บแค่ค่าไฟอย่างเดียว มีแต่พูดว่าอาตมาหวง อาตมายังไม่รู้เรื่องเลย คนที่หวงคือแม่ค้าในวันดนั่นแหละ บางทีแม่ค้าจรเขาจะมาขายข้าวเหนียวไก่ย่างส้มตำ ไอติมมาขาย แม่ค้าจะหวงเลย บอกเจ้าหน้าที่ในวัดว่ามาตั้งขายไม่ได้นะ ถ้าจะมาขายต้องเข้าระบบ เป็นที่เป็นทาง ไม่ใช่อยู่ๆ จะให้คนโน้นคนนี้มาขาย เป็นการเสียผลประโยชน์กัน ถ้าแม่ค้าคนนี้มาขายข้างหน้าได้ เขาก็อยากไปขายข้างหน้าบ้าง เราไม่เคยหวง ไม่เคยห้าม

ชัชวาล : ขอแก้ข่าวให้กรมบังคับคดี วันนั้นผมเห็นเฉพาะที่เดินมาด้วยกันกับสว. เขาบอกมีสว.มารออยู่แล้ว ไม่ได้นั่งเครื่องมาด้วยกัน ต้องแก้ข่าว วันนั้นผมมาทีหลัง ผมเห็นเขามาด้วยกัน ไปต้อนรับกันมา ตรงนี้ก็แก้ข่าวนิดนึง ว่าไม่ได้นั่งเครื่องมาด้วยกัน แต่บังคับคดีต้องรอฟังจำเลย ซึ่งมันผิดเพี้ยน จริงๆ ตัวจำเลยและบริวารต้องออกไปทั้งหมดถึงจะส่งมอบได้ จริงๆ เราไม่ได้ตำหนิบังคับคดี อยู่ที่ว่าใครจะบังคับใช้กฎหมายเข้มข้นเท่านั้น อย่างบังคับคดีบอกว่าสั่งตร.ไม่ได้ ตร.ไม่ทำ ตร.บอกว่าบังคับคดีไม่เห็นสั่งเลย วนเวียนอยู่อย่างนี้เลยไม่จบตั้งแต่แรก

พระครูพิสุทธิวรากร : ในเรื่องบังคับคดีวันนั้น เมื่อส่งมอบเรียบร้อยแล้ว ท่านบิ๊กโจ๊กก็พาเดิน กลุ่มของเขาพาเดินไปถ่ายรูป พาไปดูบนวิหาร บนกุฏิบ้าง เสร็จเรียบร้อยก็เดินมาหากลุ่มชาวบ้าน เขาบอกว่าไม่ต้องการเจ้าอาวาส แต่มีการเรียกร้องก่อนว่าจะเข้ามานอนวัด อาตมาก็ให้นะวันนั้น ท่านบิ๊กโจ๊กก็ปรึกษาอาตมาถ้าจะเข้ามาอยู่ก็ได้สองสามคน แต่เขาเรียกร้องเป็นสิบคน สิบคนไม่พอ บางอย่างอาตมาอนุโลมได้ก็อนุโลม แต่เรียกร้องว่าไม่เอาเจ้าอาวาส แต่วันนั้นคนของเขาทั้งนั้น คนของเราไม่ได้เข้าไป ก็ไม่มีสิทธิ์พูดอะไรได้

ท่านจะถอยมั้ย ถอนตัว?
พระครูพิสุทธิวรากร : ถอยไม่ได้ เราทำเพื่อคณะสงฆ์ ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง ทำเพื่อวัด คณะสงฆ์ เพื่อพระพุทธศาสนา ถ้าไม่เข้มแข็งวัดจะอยู่ไม่ได้ มันจะเป็นโมเดลอย่างที่โยมหนุ่มพูด วัดไหนที่มีผลประโยชน์อย่างนี้ ต่อไปก็จะเป็นแบบบางคลานโมเดล โยมจะไปครอบงำ โยมเมื่อเห็นประโยชน์ของวัด มีรายได้เยอะ คนก็จะไปหาผลประโยชน์ ชาวบ้านก็จะไปบีบคั้นกดดันพระสงฆ์ ถ้าคณะสงฆ์ทำตามแบบนี้ต่อไปจะล้มเหลว ปกครองไม่ได้ ที่สุดต่อไปจะลำบากต่อการปกครองของคณะสงฆ์

พี่พรไม่มีถอย?
ลุงพร : ครับ สิ่งที่เราทำ ถ้าเรื่องคดีหรือกฎหมาย มันจบแล้ว แต่คุณกิตติศักดิ์ไม่ยอมจบ สร้างเรื่อย ผมตรวจสอบ ก็พบหมดแล้ว ใครทำอะไร เรารู้แล้ว แต่อยู่ที่ว่าคนที่เรารู้เขาจะรู้ในใจเราแค่ไหน หรือเขาจะล้มกระดานเจ้าอาวาส เพื่อไม่ยอมรับผิดชอบอะไรเลย นี่เป็นประเด็นลึกที่คุณกิตติศักดิ์ไม่เคยพูด ถ้าสิ่งไหนที่เขาผิด เขาจะไม่พูด อย่างเรื่องงาช้างเงียบเลยเขาไม่โต้ตอบ ตอนนี้งาช้างอยู่ในกุฏินั่นแหละไม่ไปไหน เพียงแต่เขาไปแจ้งครอบครองเป็นชื่อของเขาเอง เราก็แจ้งความให้ป่าไม้ดำเนินคดีว่าเขาแจ้งความเท็จกัน นี่คือส่วนลึกภายใต้ความลึกล้ำของเขา ไม่ใช่มาอ้างเจ้าอาวาส เขาจะให้เจ้าอาวาสออก เพื่อมาครอบครองเอง แล้วคนบางคลานจริงๆ เขาเป็นคนรักสงบ วัดจริงๆ สามารถเจรจาพูดคุยได้ อย่างเช่นวันนี้บิ๊กโจ๊กได้พูดกับผมชัดเจน ว่าเมื่อบังคับคดีเสร็จก็มาเจรจากันเรื่องคดี เราก็ยินดีโอนอ่อนผ่อนปรนให้ วัดไม่ใช่ของเรา เงินไม่ใช่ของเรา มันหายก็เรียกคืนไม่ได้หรอก แต่เขาไม่เข้าใจบริบทพุทธศาสนา

ชัชวาล : เหมือนเคยคุยกันในบัลลังก์ของศาลว่าทำบุญร้อยบาท กับทำบุญล้านบาทก็เป็นเจ้าของวัดไม่ได้ เป็นเรื่องของสงฆ์เขา ก็อย่าไปยุ่ง คุณไม่เคารพ ไม่นับถือ ไม่ศรัทธาวัดนี้ก็ไปทำบุญวัดอื่น ต่อไปวัดก็อยู่ไม่ได้ สองเรื่องการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐ ฟังทั้งสองฝ่าย อย่าหูเบา เพราะวัดจะเสียหาย สามสื่อเช่นเดียวกัน เวลาฟังฝ่ายตรงข้าม เรามีเอกสารทั้งหมด แต่พอฟังกิตติศักดิ์ หรือใคร ก็ขออนุญาตสื่อทุกท่าน พยายามดูเอกสาร ดูให้เป็นหลักฐานแล้ววินิจฉัยว่าใครผิดใครถูก แล้วนำเสนอไปในส่วนที่มันถูกต้อง

สุรีรัตน์ : ฝากคนบางคลานทุกคน หรือคนใกล้เคียง วัดบางคลานไม่ใช่สมบัติของกลุ่มคนใดคนหนึ่งที่จะมายึดครอง ทุกวันนี้วัดต้องมาจ่ายค่าไฟให้พวกคุณเดือนละ 5-6 หมื่น คุณมายึดวัดแบบนี้ ทำให้วัดเสียหาย นักท่องเที่ยวไม่มี เศรษฐกิจไม่ดี ประชาชนก็เดือดร้อนกันไปหมด ปลุกจิตสำนึกคนอ้างตัวว่ารักวัดบางคลาน กลับมารักวัดบางคลานจริงๆ เถอะค่ะ

ลุงพร : ถ้าคุณกิตติศักดิ์นักเลงจริง มานั่งต่อหน้าผมคนละโต๊ะเลย อย่าหลบ ไม่ต้องหลบ ไม่ต้องกลัว

ท้ากันอย่างนี้?
ลุงพร : นักเลงไม่จริง นักเลงกำแพงเพชรอะไรขี้หดตดหาย นักเลงกำแพงเพชรไม่แน่จริง ขี้หดตดหาย ไม่กล้าเจอหน้าผมซึ่งหน้า เอาความจริงมาพูดกับผม ไม่ใช่เอาความเท็จไปพูดกับประชาชน เอาหลักฐานมา ไม่ใช่เอามันส์เข้าว่า หรือไปเบ่งจะชกคนโน้นคนนี้ ผมนี่แก่กว่าคุณ แต่ผมท้าคุณคุยได้ พูดได้ ผมไม่กลัวคุณหรอก แต่ผมสงสารประชาชน สงสารชาวบ้าน สงสารวัดผม คุณมายุ่งวัดเพราะเงิน เอาลิ่วล้อมาด้วย  ถ้าจะให้ผมไปวัดบางคลาน เดี๋ยวติดต่อท่านเรวัช กลิ่นเกษร ให้นำหน้าผมไปก่อน