”น้องโฮมส์“ ลูกชาย "พอร์ช ศรัณย์" หล่อเหมือนคุณพ่อ ออร่าดาราส่องประกายสุดๆ แจงดราม่าพระเอกแอบซุกลูก
ปิดตำนานพระเอกสายเฟี้ยวเพลย์บอยเบอร์ต้นๆ ของวงการเรียบร้อยแล้ว สำหรับ "พอร์ช ศรัณย์" ที่ล่าสุดขอเปิดชีวิตคุณพ่อมือใหม่พร้อมควงลูกชายสุดน่ารัก "น้องโฮมส์" มาอัพเดตความน่ารักในวัย 1 ขวบ 2 เดือน เผยลูกชายทำชีวิตเปลี่ยนจากสายปาร์ตี้ หันมาเลี้ยงลูกแบบเต็มตัว เลิกแอลกอฮอลล์เด็ดขาด ! เคลียร์ข่าวลือประเด็นพระเอกซุกลูกรวมถึงข้อสงสัยเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวหรือเปล่า ? ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บShow สเปเชี่ยล
อัพเดตพัฒนาการหน่อย ?
พอร์ช : พูดได้บางคำ เรียกปะป๊า กินกิน เดินเดิน จะกินนมก็ นมๆ จะได้แค่เป็นคำ ประโยคยังไม่ได้
ครั้งแรกที่เราได้ยินเรียกปะป๊าความรู้สึกเป็นยังไงบ้าง ?
พอร์ช : ยังถ่ายคลิปลง IG อยู่เลย ก็ถ่ายคลิปเล่นเนี่ยแหละ เรียกน้องโฮมส์ พอได้ยินครั้งแรก เห้ย ! เรียกปะป๊าเหรอ ช็อก มันตื่นเต้น
เห็นว่าออกกฎไม่ให้พูดคำหยาบ เพื่อนๆ เวลามาบ้าน ?
พอร์ช : ก็พยายามมากๆ เลย เพราะว่าเพื่อนมาบ้านบ่อย มาหาหลานบ้าง มาแฮงเอาต์ที่บ้าน เพราะผมไม่ค่อยออกจากบ้าน แล้วบางทีเพื่อนพูด แล้วก็พูดตามมาคำนึง พูดแอนนิมอล
แล้วเราบอกลูกยังไงไม่ให้พูดคำนี้ ?
พอร์ช : พอลูกพูดปุ๊บก็บอกว่าแปลว่าแอนนิมอลลูก
แล้วตัวเองมีหลุดบ้างหรือเปล่า ?
พอร์ช : หลุดเยอะ(หัวเราะ) พอหลุดก็พยายามไม่ให้เขาสนใจเราเหมือนพูดไปลอยๆ ถ้าตั้งใจไปพูดกับเขา เขาจะจำคำยิ่งตอนนี้ยิ่งจำคำเยอะ ตอนนี้พยายามพูดตามเราเยอะมาก
นอกจากหน้าที่เหมือนแล้ว นิสัยถ่ายออกมาตรงเป๊ะทุกอย่างเลย สำเนาถูกต้อง ?
พอร์ช : เขาอารมณ์ดี ร้องไห้ยาก จะร้องไห้แค่กินนมกับง่วง ถ้างอแงอย่างอื่นไม่ค่อย
ที่บอกว่าจะใช้เหตุผลคุยกับลูก ขวบนึงเขารู้เหตุผลแล้วเหรอ ?
พอร์ช : มันเป็นอารมณ์แบบว่าไม่โอ๋มากกว่า อย่างเช่นเขาเล่นอะไรที่เราไม่ให้เล่น บางอย่างที่มันอันตรายเราก็จะใช้วิธีบอก โฮมส์แบบนี้ไม่ได้นะ อย่าเล่นปลั๊กไฟ เขาก็จะรู้เรื่อง เขากลัวเสียงผม
ชีวิตก่อนที่จะมาเจอเป็นแด๊ดดี้ของน้องโฮมส์ ชิลล์ๆ สบายๆ ยังไงก็ได้ แต่พอมีลูกเปลี่ยนเลย เรื่องเวลาต้องเป๊ะมาก ?
พอร์ช : ใช่ ตอนนี้ไม่ได้เลย ตอนนี้เป๊ะเรื่องเวลามาก กินข้าวกี่โมงเพราะเราทำอาหารเองด้วย ตี 5 ครึ่งตื่นพาลงมาข้างล่าง เล่นข้างล่างก่อน กินนมนิดหน่อย เริ่มทำกับข้าวประมาณ 7 โมง ให้เขานั่งเก้าอี้รอ ดูเราทำกับข้าว เป๊ะมาก เช้ากลางวันเย็นจะตรงเวลา
เห็นว่าให้ลูกทานเองใช้มือหยิบ ?
พอร์ช : เริ่มฝึกให้ทานเองตอนประมาณ 6 เดือน ไปศึกษามามีกลุ่มเลยว่าเลี้ยงเด็กแบบ BLW (Baby-led weaning)
เห็นว่าเคยป่วยหนัก ?
พอร์ช : เป็นหวัดปกติ ช่วงนั้นมันร้อน ผมก็ไม่รู้ไปซื้ออ่างสระน้ำแล้วเหมือนอากาศมาร้อนมากแล้วเขาโดนความเย็นเร็ว ป่วย ไม่ได้เป็นอะไรหนักมากหรอก
พอลูกป่วยพ่อกูแพนิกไปเลย ?
พอร์ช : แพนิกไปเลยเพราะว่าเขานอนไม่ได้ กลางวันไม่ค่อยเท่าไหร่แต่พอกลางคืนเขาหายใจไม่ออก เขาร้อง ช่วงนั้นเราต้องทำงานเช้าด้วย แล้วเขาไม่นอนจนถึงเช้า มันก็เลยกดดัน เครียด แล้วป่วย 10 กว่าวัน พอไปโรงพยาบาลจะแอดมิทหมอบอกไม่ได้เป็นอะไรหนัก ก็บอกหมอผมว่าหนักนะ แอดมิทได้ป่ะ
ตอนที่บอกว่าหนักอาการเขาเป็นยังไงบ้าง ?
พอร์ช : จริงๆ เขาก็ไม่ได้เป็นอะไร แต่เขาหายใจไม่ออก เห็นเขางอแงเห็นเขานอนไม่ได้ ร้องไห้จะเป็นจะตาย แต่ไข้ก็ไม่มี ด้วยความที่เขาเป็นเด็กไม่ร้องไห้ พอถึงเวลาร้องไห้เราเห็นแล้วสงสาร แล้วเขาชอบร้องไห้แบบชาร์จพลัง
แล้วตอนนี้คุณพ่อหายแพนิกหรือยัง ?
พอร์ช : ดีขึ้นแล้ว อย่างที่บอกว่าเพื่อนในออนไลน์ เพื่อนในอินเทอร์เน็ต คนรอบข้างก็ช่วยเยอะ เลิกแพนิกไปได้ส่วนนึง
บางสื่อบอกว่าพอร์ชไม่รับงานแล้วจะเลี้ยงลูก 24 ชั่วโมง อันนี้จริงมั้ย ?
พอร์ช : ไม่ใช่ไม่รับ รับๆ (หัวเราะ) ละครน่าจะรอลูกเข้าโรงเรียน
แล้วจะทำใจออกไปทำงานได้ยังไง ?
พอร์ช : ก็มีเครียดนิดนึง เวลาออกไปทำงานบางทีกลัวไม่เต็มที่ ถ้ามันถึงเวลาที่ต้องทำอะไรรูทีนจองน้องโฮมส์เราจะนึกละ เดี๋ยวเที่ยงโฮมส์กินอะไรดี เพราะทำกับข้าวเอง ไม่อยากให้ลูกเบื่อก็ต้องคิดเมนูทุกวัน เช้าเรากินไข่ยัดไส้ กลงวันสปาเกตตี ตอนเย็นเป็นข้าวหมูกระเทียม มันต้องวางแผนในทุกๆ วัน
แล้วเวลาไปทำงานล่ะ ?
พอร์ช : เวลาไปทำงานก็จะอยู่กับคุณย่า คุณย่าจัดการผมก็จะมอบหมายรูทีนไปให้ แต่เขาก็ทำไม่ตรงซักอย่าง (หัวเราะ)
ถ้าเราไม่รับละครคลื่นลูกใหม่ก็มาเรื่อยๆ นะ แล้วอีกหลายปี เราเคยกังวลมั้ยว่ากลับมาเราจะได้เป็นพระเอกมั้ย ?
พอร์ช : เราให้ความสำคัญกับลูกเป็นอันดับหนึ่ง ผมจะมองว่า ณ ตอนไหนเราให้ความสำคัญกับอะไร ณ ตอนนี้เขายังเล็กอยู่ ให้ความสำคัญกับเขาเต็มที่ เราจะได้เลี้ยงเขาได้เต็มที่ ไม่เสียใจที่โตมาเป็นเด็กแบบไหน ถ้าเกิดโตมาแล้วเขาเป็นเด็กไม่ดี เราจะได้ไม่ต้องโทษใคร เพราะสุดท้ายเราก็เป็นคนเลี้ยงเอง
ยุคพี่ญ่าถ้าเป็นพระเอกดังมีลูกต้องปิด ทำไมคุณถึงไม่กลัวปิดเป็นความลับดีกว่า ไม่บอกใคร ?
พอร์ช : เอาจริงๆ ไม่ได้ปิดเลย มันเป็นเรื่องที่ดี ถ้าหากว่าแฟนคลับเราหรือคนที่ติดตามเราเขาก็ต้องรักลูกเราด้วย เพราะว่าเขาก็คือสายเลือดของผมคือลูกของผม
มีหลายคนตั้งข้อสงสัยว่าเป็นซิงเกิ้ลแด๊ดหรือเปล่า ?
พอร์ช : ไม่ๆ แต่ว่ารับหน้าที่เลี้ยงซะส่วนใหญ่ บางทีแม่เขาไม่ว่าง ที่สำคัญคืออยากเลี้ยงเองด้วย เราอยากทำให้เต็มที่จะได้ไม่ต้องเสียใจกลับมานั่งย้อนว่า ทำไมตอนเด็กไม่เลี้ยง เราเลี้ยงเต็มที่แล้วไม่ว่าเขาจะเป็นยังไงเราทำหน้าที่พ่อของเราได้เต็มที่
ทำไมเลือกที่จะทำเองทุกอย่างมากกว่าที่จะมีพี่เลี้ยง ?
พอร์ช : ผมเป็นคนขี้แพนิกรู้สึกว่าชอบทำอะไรด้วยตัวเองดีกว่า
วินาทีแรกที่เรารู้ว่าจะเป็นพ่อคนความรู้สึกเป็นยังไงบ้าง ?
พอร์ช : หลายอย่าง หลายอารมณ์มาก มันทั้งดีใจแล้วก็กลัว มันหลายอารมณ์แต่ความรู้สึกที่เด่นมากๆ เลยคือกลัว เรากลัวเราเลี้ยงเขาได้ไม่ดี พูดตามตรงเลยยอมรับว่าผมก็ไม่ใช่คนที่นิสัยดีซักเท่าไหร่ในบางมุม ไม่มีใครดี 100% ถูกมั้ย ก็เอาวะกูเลี้ยงเองเนี่ยแหละจะเป็นยังไงลูกเราก็ต้องเป็นตามที่เราเลี้ยง
อะไรในตัวเราที่รู้สึกว่าเราไม่ดีพอไม่สามารถเป็นพ่อที่ดีได้แบบที่เราคิด ?
พอร์ช : ตอนแรกๆ เลยที่มีลูก ผมว่าเป็นเรื่องอารมณ์ ผมเป็นคนอารมณ์ร้อนคือกลัวว่าจะไปลงกับลูกเวลาที่เราเหนื่อย เราไม่รู้อารมณ์ตัวเองหรอกเราบอกไม่ได้หรอกว่าเราจะไม่ใส่อารมณ์กับลูกนะ พอถึงวันที่เราเหนื่อยเราไม่รู้หรอกว่าเราจะเป็นยังไง
ผ่านมาแล้วปีนึง เราคุมอารมณ์ได้ดีมั้ย ทำให้เราใจเย็นลงมั้ย ?
พอร์ช : ดีครับ ดีมากๆ เพราะผมศึกษาเยอะ ในช่วงของเด็กแต่ละเดือนเขาจะมีการพัฒนาการทางด้านอารมณ์และร่างกายยังไงบ้าง เราก็จะรู้ว่า 3 เดือนเขาจะเป็นยังงี้นะ เราก็จะเข้าใจเด็กเราก็จะไม่โมโห ถ้าโฮมส์โยนของเรารู้แล้วว่าเขาเริ่มมีการพัฒนาการมันคือความเข้าใจมากกว่า พอเราเข้าใจเราก็จะไม่โมโห เราก็จะรู้ว่าเขาเป็นยังไง
แต่มันไม่ได้ง่ายนะในวงการบันเทิงยิ่งจะเก็บสถานะความเป็นพระเอกอยู่ไปนานๆ แล้วพอมันขาดตอนไปเรามีความกังวลมั้ยว่ากลับมาจะเป็นพระเอกได้อยู่มั้ยหรือไม่ได้ซีเรียส ?
พอร์ช : ไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้นแค่รู้สึกว่าตอนนี้ทำอะไรที่มันได้เงินแล้วมันสามารถเลี้ยงลูกได้และเขารู้สึกไม่ขาด ไม่อยากให้เขาขาดความรัก อยากให้เขาได้รับความรักจากเราเต็มที่ ไม่ว่างานอะไรก็ทำ ตอนนี้ก็มาทำยูทูบ ผมว่ารู้สึกดีด้วยนะ ทำยูทูบมันถ่ายเมื่อไหร่ก็ได้
ตอนมีข่าวเรื่องพระเอกดังปิดบังเรื่องมีลูก พอเราอ่านข่าวแล้วรู้สึกยังไง รู้สึกว่าเป็นเรามั้ย ?
พอร์ช : รู้สึกว่าเป็นเราแหละ แต่รู้สึกว่าเราไม่ได้ปิดเลยเราตั้งใจ คือคิดไว้แล้วตอนมีลูกว่าควรจะแถลงข่าวป่ะ พี่ผู้จัดการก็บอกว่าไม่ต้องหรอกเดี๋ยวทำตัวคนก็เห็นเอง ตอนมีลูกก็พาลูกออกไปข้างนอก ออกไปเที่ยวบ่อยมาก แต่ไม่มีคนทักเลยว่าลูกผม ก็ไปด้วยกัน ไม่รู้เลย เพิ่งรู้ตอนโฮมส์ 9 เดือน 10 เดือน
เห็นว่า 3 เดือนแรกหนักหนาเลยใช่มั้ย ?
พอร์ช : ตื่นทุก 2 ชั่วโมงกินนม ช่วงนั้นเหมือนยังถ่ายอะไรอยู่ด้วย ไม่ได้นอน อุ้มประมาณครึ่งชั่วโมงหลับ พอหลับกะว่าจะนอน นอนไม่หลับ กำลังจะเคลิ้มๆ ร้อง เคยมีเทนมใส่หน้าโฮมส์ด้วยนะ ประมาณตี3 ตี4 ปกติใส่นมไว้ในขวด เปิดฝาก็เปิดเลย แต่บิดแล้วเทเลย ดีไม่เข้าจมูก
การทำทุกอย่างที่คุณพูดมา คุณเครียดถึงขั้นร้องไห้ ?
พอร์ช : ใช่ เครียดร้องไห้เลย มันเป็นอารมณ์เหมือนที่เรารู้ว่าเรามีลูก แต่อันนี้มันเป็นอารมณ์แบบทำยังไงดีวะเนี่ย ทำอะไรไม่ถูก บางทีมีบางช่วง เครียดมากๆ เข้าไปโพสต์ในกลุ่มแม่และเด็ก ส่วนใหญ่จะโพสต์ถามช่วงเครียดๆ มีช่วงนึงที่เขาเริ่มหัด BLW ตอน 6 เดือน แต่ช่วง 8 เดือนถึง 9 เดือนเขาไม่กิน พอเขาไม่กินเราก็นอยด์
เมื่อก่อน ก่อนที่มีลูกความนิสัยไม่ดีของเรามีอะไรบ้างที่ทำให้เราเปลี่ยนไปหลังจากมีลูก ?
พอร์ช : หลักๆ เลยเรื่องอารมณ์ร้อนแล้วก็เรื่องผู้หญิง(หัวเราะ)
เรื่องผู้หญิงในที่นี้หมายถึงอะไร ?
พอร์ช : ในมุมผมนะแค่รู้สึกว่า
ธัญญ่า : ก็สร้างเรื่องไว้เยอะอยู่
ได๋ : พี่ญ่าได้ยินอะไรมาเหรอคะ
ธัญญ่า : ไม่ได้ยินค่ะ อยู่ในเหตุการณ์
พอร์ช : สมัยก่อนก็มีสมัยนี้ไม่มีเลย ไม่ได้จีบไปเรื่อยถ้ามีเจอที่เที่ยวทักก็คุยด้วย ถ้ามีแฟนก็ไม่ยุ่งกับคนอื่น แต่ถ้าไม่มีก็เต็มที่ แต่เขาทำให้เราเปลี่ยนจริงๆ หลายๆ อย่าง
สิ่งไหนที่มีความรู้สึกว่าโฮมส์เปลี่ยนเรามากที่สุด ?
พอร์ช : เลิกดื่มแอลกอฮอล์เลย ตอนนี้ไม่ดื่มเลยมาเกือบ 4 เดือนแล้ว แบบไม่กินเลยแม้แต่นิดเดียว แรกๆ มีกินนิดหน่อย แต่เคยกินแล้วตื่นมาตี 5 แล้วแฮงค์ รู้สึกว่าอารมณ์เราไม่พร้อมจะเอนจอยกับลูก เคยครั้งนึงครั้งเดียวเลย ตื่นมาแล้วรู้สึก เหมือนลูกเป็นอะไรแล้วเราจะอารมณ์ไม่ดี รู้สึกว่าต้องเตือนตัวเองตลอดว่าใจเย็นๆ พอหลังจากตอนนั้นลดลงเรื่อยๆ จนตอนนี้ไม่กินเลย แต่ก็ยังไปได้ ไปแต่ไม่กิน
ถ้ามองย้อนกลับไปมีอะไรที่เราอยากจะแก้ไขในอดีตมั้ย ?
พอร์ช : เยอะเลย แต่หลักๆ เลยน่าจะเป็นเรื่องการทำงาน สมัยก่อนเราเป็นคนตรงเวลานะแต่บางทีเราเที่ยวเล่นเกเรแฮงค์บ้างอะไรบ้างก็จะมีบางครั้งไม่ตรงเวลา แต่พอมาสมัยนี้พอเป็นคนตรงเวลาแล้วรู้สึกว่าชีวิตมันดี มันรู้สึกว่าเมื่อก่อนก็ทำแบบนี้ก็โอเคมากๆ ทำไมไม่ทำ
เราก็ซิ่งมาประมาณนึงลูกเราก็ถอดแบบเรามา ?
พอร์ช : กลัวลูกเหมือนตัวเอง
ถ้าลูกเหมือนเรา เราวางแผนไว้หรือยังว่าทำยังไงไม่ให้ลูกเดินเกมผิด ?
พอร์ช : ผมซ้อมไว้ตั้งแต่เด็กๆ เลย ซ้อมเรื่องการเลี้ยงอย่างเช่นเรื่องอารมณ์ ถ้าเขางอแงถ้าเราโอ๋เขาก็จะงอแงไม่หยุด ทุกวันนี้โฮมส์เป็นเด็กที่ไม่ค่อยร้องไห้ ไม่ค่อยงอแง ถึงเวลาโตนไปถ้าเขาจะต้องไปเจอปัญหาอะไรไม่ดุ ไม่ตี แต่น่าจะใช้วิธีคุย แต่เราก็ฝึกเขามาแต่เล็กให้เขาเป็นเด็กที่อยู่ง่ายกับทุกที่
ถ้าโตมานิสัยเหมือนพ่อโอเคมั้ย ?
พอร์ช : ก็คงต้องดุบ้าง ก็คงต้องคุยกับเขา
สมัยก่อนเป็นคนผาดโผนประมาณนึง แต่ตอนนี้พูดได้เลยว่ากลัวตาย ?
พอร์ช : กลัวๆ มันไม่ห้าวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว พอมันมีอีกหนึ่งชีวิตต้องดูแล ไม่ได้กลัวตายอย่างเดียว กลัวเจ็บด้วย บางทีเล่นอะไรเสี่ยงที่จะเจ็บเรากลัวเพราะเราเลี้ยงเขา เดี๋ยวอุ้มเขาไม่ได้
ตอนที่เกิดอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ล้มเหมือนมีเจ้ากรรมนายเวรตาม ?
พอร์ช : อันนั้นคือพระที่อยู่จันทบุรีทักมามีคนตามนะระวัง แล้วคว่ำจริงๆ อันนี้แม่มาเล่าให้ฟังทีหลังนะว่าเจ้ากรรมนายเวรเยอะ
ซึ่งตอนนั้นเป็นหนักมาก ?
พอร์ช : หนักๆ อยู่โรงพยาบาลเดือนกว่าเกือบสองเดือน ซี่โครงหัก 4 ทะลุปอดซี่นึง สะบักร้าว กระดูกสันหลังบิ่น ผมยืนนานๆ ไม่ได้ประมาณ 2 ปี ยืนแล้วเจ็บหลัง
เห็นว่าตอนนั้นที่รอดได้เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ?
พอร์ช : เชื่อว่าอยน่างนั้น ถ้าตอนรถคว่ำก็ยังไหว้พระปกติ แต่ถ้า ณ ตอนนี้ที่นับถือก็คือไปดูดวงแล้วหมอดูทักว่าทำไมไม่ไหว้พ่อศิวะเหมือนเดิมซึ่งตอนเด็กๆ ไหว้ตลอด เราเชื่อเพราะว่าเรื่องจริง ตอนเด็กๆ ที่บ้านของเพื่อนที่จันทบุรีเขาเป็นสำนักทรงเจ้าที่มีทรงพระศิวะด้วยแล้วเราก็อาศัยอยู่บ้านเพื่อนบ่อย เราก็จะไหว้เคารพบูชาตลอด พอย้ายโรงเรียนมาก็ไม่ได้ไหว้ยาวเลย พอหมอดูทักก็เชื่อก็เลยกลับมาไหว้มาบูชาท่าน แล้วก็มีอีกดอกนึง ดูดวงเหมือนกันแล้วหมอดูทักว่าน้องโฮมส์เนี่ยมีผู้หญิงใส่ชุดส่าหรี่อยู่ด้วยตลอดเลยแล้วเขาทักตรงเพราะว่าก่อนที่หมอดูจะทักผมเอาโฮมส์ไปวัดแขกไปหาแม่อุมาบอกว่าฝากดูแลน้องโฮมส์ด้วยนะ ฝากพ่อศิวะด้วย อันนี้ขนลุกเลย เลยเชื่อแบบจริงๆ
อาชีพใหม่ยูทูบเบอร์เป็นยังไงบ้าง ?
พอร์ช : สนุกมาก ทุกคนต้องรอคิวจากเราไง คอนเทนต์กับโฮมส์เราคิดเองแต่ก็มีทีมช่วยคิดคอนเทนต์
ต่อจากนี้ไปวางคอนเทนต์ช่องยูทูบไว้ยังไงบ้าง ?
พอร์ช : ช่องยูทูบผมส่วนใหญ่จะเป็นไลฟ์สไตล์ มีรายการท่องเที่ยว OKGO NOWHERE อันนี้ไปต่างจังหวัด แล้วก็ SARAN One Day อันนี้กว้างๆ 1 วันทำอะไรบ้าง แล้วก็มีกินข้าวกับน้องโฮมส์ มี UNBOX ของ ส่วนใหญ่จะเป็นคอนเทนต์ที่ไม่ได้ยากมาก ที่เรามีเวลาเลี้ยงลูกได้ด้วย
ถ้าวันนึงน้องโฮมส์โตขึ้นแล้วเขาได้ดูรายการนี้มีอะไรอยากจะบอกเขามั้ย ?
พอร์ช : อยากจะบอกก่อนเลยว่าเหนื่อยมากๆ เลยนะลูก แต่ก็ทำด้วยความเต็มใจ อยากให้เขาโตมาเป็นเด็กที่ดี ไม่ต้องเป็นเด็กที่เก่งหรอกแค่พูดรู้เรื่องและเป็นคนดีมีเหตุผลก็โอเคแล้ว ไม่ต้องเก่งหรอกเราอยู่ด้วยกันได้ โตไปด้วยกันได้
อยากมีอีกซักคนมั้ย อยากมีลูกสาวมั้ย ?
พอร์ช : ลูกสาวนี่กลัวมาก(หัวเราะ)
รักเขาขนาดไหน ?
พอร์ช : รักมากๆ บางทีมันเป็นความเหนื่อยหรืออะไรก็ไม่รู้ บางทีเขาไม่กินข้าวที่ผมทำให้ผมจะร้องไห้แล้ว มันนอยด์ กลับไปทำกับข้าวอุตส่าห์ตั้งใจทำเขาไม่กิน
คลิปสัมภาษณ์ https://youtu.be/o_S49pK4TN8?si=jpH0B9mB8DuCP7c8