"วราวุธ" เผย ศรส. ช่วย 3 วัยรุ่นหญิงพ้นเหยื่อค้ามนุษย์ พร้อมช่วย ด.ช. 3 ขวบหนีแม่ทาสยาเสพติดเดินไปบ้านย่า 15 กม.
เมื่อวันที่ 8 พ.ย.67 นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) ได้ส่งทีมปฏิบัติการหน่วยเคลื่อนที่เร็วไปที่กองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (ดส.) หลังได้รับการประสานขอให้ช่วยเหลือวัยรุ่นหญิง 3 ราย ถูกชักชวนมาทำงานที่ร้านอาหารให้บริการเครื่องดื่มกับลูกค้า โดยทีม ศรส. ได้พูดคุยสอบถามข้อเท็จจริง พบว่า ด.ญ.เอ อายุ 14 ปี ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ไม่ได้รับการรักษาต่อเนื่อง เรียนจบชั้น ม.2 ไม่ได้เรียนต่อ น.ส.บี อายุ 15 ปี เรียนจบชั้น ม.2 ไม่ได้เรียนต่อ และ น.ส.ซี อายุ 16 ปี มีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ไม่ได้รับการรักษาต่อเนื่อง เรียนจบชั้น ม.2 ไม่ได้เรียนต่อ ซึ่งทั้ง 3 ราย ได้ไปรู้จักกับหญิงรายหนึ่ง อายุ 25 ปี โดยเพื่อนพามาให้รู้จัก และเมื่อวันที่ 6 พ.ย. 67 เด็กผู้หญิงทั้ง 3 ราย ถูกหญิงดังกล่าวชักชวนไปทำงานที่ร้านอาหาร โดยให้เอนเตอร์เทนกับลูกค้า ในการบริการเครี่องดื่ม ซึ่งลูกค้าจะมีการล่วงเกิน และสามารถสัมผัสตามร่างกาย โดยทั้ง 3 ราย จะได้รับเงินค่าจ้างคนละ 1,500 บาทต่อครั้งที่ไปทำงาน แต่รายได้ที่ได้มาจะถูกหญิงคนดังกล่าวหักไว้คนละ 500 บาท ต่อมา ทีมตำรวจ ดส. ได้ล่อซื้อ และแสดงตัวเพื่อจับกุมหญิงคนดังกล่าว และตรวจสอบร้านอาหารเพื่อขยายผลการกระทำความผิด พร้อมทั้งแยกทั้ง 3 รายออกมา และทีม ศรส. ได้ร่วมสอบคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และผลปรากฎว่าทั้ง 3 ราย เป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ทางทีมตำรวจ ดส. จึงได้ออกหนังสือส่งตัว และลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และทีม ศรส. ได้รับทั้ง 3 ราย มาดูแลคุ้มครองสวัสดิภาพในหน่วยงานของ พม. เรียบร้อยแล้ว และทีมตำรวจ ดส. ได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 ค้ามนุษย์โดยการเป็นธุระจัดหาเพื่อแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ และอีกหลายข้อกล่าวหา โดยทางทีมตำรวจ ดส. ได้ส่งตัวผู้ต้องหาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บุคคโล เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
นายวราวุธ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีแม่ทาสยาเสพติด ปล่อยลูก 3 ขวบ หิวข้าว เดินไปบ้านย่า 15 กม. ริมถนนเลี่ยงเมืองอุดรธานี-หนองบัวลำภู ตามลำพัง ที่ จ.อุดรธานีนั้น ทาง ศรส.จ. อุดรธานี รายงานว่า ทีม ศรส.จ.อุดรธานี ร่วมกับ อบต.นิคมสงเคราะห์ และผู้นำชุมชน ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านและตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าแม่ของเด็กได้เสพยาเสพติด และมีอาการเมายาไม่รู้สึกตัว และเด็กหิวข้าว จึงได้เดินออกมาจากบ้านเพียงลำพัง เพื่อไปหาย่า และเดินเรื่อยมาตามถนน จนมีพลเมืองดีมาพบ และมีการสอบถามเด็ก โดยเด็กบอกว่าจะไปหาย่าที่บ้านโนนบุญมี ซึ่งอยู่ห่างจากที่พบตัวเด็กประมาณ 15 กิโลเมตร ต่อมาได้พาเด็กไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ใกล้บริเวณนั้น และพาเด็กกลับไปส่งให้กับย่าและพ่อ พร้อมแจ้งกับผู้ปกครองว่าเด็กเดินออกมาตามถนนเลี่ยงเมืองเพียงลำพัง ซึ่งเป็นอันตรายและเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุถูกรถชน ขอให้มีการดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด อย่าปล่อยให้เด็กอยู่คนเดียว
นายวราวุธ กล่าวว่า ทีม ศรส.จ.อุดรธานี ได้พูดคุยกับย่าของเด็ก ทราบว่า พ่อแม่ของเด็กได้แยกทางกัน มีลูกด้วยกัน 2 คน คนโตอายุ 8 ปี ส่วนคนเล็กอายุ 3 ปี ปกติเด็กทั้งสองคนจะอยู่กับพ่อและย่า แต่ช่วงสัปดาห์นี้ได้ฝากคนเล็กไปอยู่กับแม่ เนื่องจากย่าของเด็กต้องดูแลลูกชายที่กำลังป่วย ทีม ศรส.จ.อุดรธานีจึงได้แนะนำการเลี้ยงดูเด็กที่เหมาะสม พร้อมประสานกับผู้นำชุมชน และศูนย์ชุมชนคุ้มครองเด็ก ให้ช่วยติดตามดูแลเด็กและครอบครัวอย่างใกล้ชิด เนี่องจากไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก เพราะเกรงว่าเด็กจะได้รับอันตราย