"อนุทิน"ต้อนรับนายกสมาคมมิตรภาพจีนไทย เตรียมฉลองความสัมพันธ์การทูต 50 ปี

2024-11-14 09:44:48

"อนุทิน"ต้อนรับนายกสมาคมมิตรภาพจีนไทย เตรียมฉลองความสัมพันธ์การทูต 50 ปี

Advertisement

 "อนุทิน"ต้อนรับนายกสมาคมมิตรภาพจีนไทย เตรียมเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูต 50 ปีในปี 2568

เมื่อวันที่ 13 พ.ย.67 ที่ผ่านมา ที่ห้องดำรงราชานุภาพ ชั้น 2 อาคารศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ให้การต้อนรับ Mr. Wu Zhiwu อัครราชทูตที่ปรึกษา สถานเอกอัคราชทูตจีนประจำประเทศไทย Mr. Yang Wanming นายกสมาคมมิตรภาพจีนไทย พร้อมด้วย นายกร ทัพพะรังสี นายกสมาคมมิตรภาพไทย - จีน และคณะ ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะและหารือการเตรียมจัดงานครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการฑูตไทย - จีน ภาคประชาชน


นายอนุทิน กล่าวว่า สมาคมมิตรภาพไทย - จีน ถือเป็นภาคีที่สำคัญในการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น แม้ในปี 2568 ที่จะมาถึงเป็นวาระครบรอบ 50 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตของ 2 ประเทศอย่างเป็นทางการ แต่จริงๆ แล้วไทยและจีนมีความสัมพันธ์กันมาเป็นเวลากว่าร้อยปี ซึ่งประเทศไทยพร้อมที่จะต้อนรับและดูแลพี่น้องประชาชนชาวจีนที่เข้ามาท่องเที่ยวชื่นชมความงดงามในวิถีชีวิตของคนไทย ซึ่งในส่วนของกระทรวงมหาดไทยเองมีความยินดีและให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองในวาระสำคัญนี้ ทั้งจะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกันของประชาชนในทุกระดับ

นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อช่วงวันที่ 6-7 พ.ย. 67 ที่ผ่านมา ตนได้ร่วมคณะ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในโอกาสการเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำโขง (GMS Summit) และผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) ที่นครคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศจีน ซึ่งได้มีการหารือร่วมกับ นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน นับเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมยินดี ในความสำเร็จของการร่วมมือขับเคลื่อนแผนงานดังกล่าวอาจจะนำมาซึ่งการพัฒนาในมิติต่าง ๆ

"การหารือร่วมกันระหว่างกระทรวงมหาดไทย สมาคมมิตรภาพจีนไทย และสมาคมมิตรภาพไทย-จีน ในวันนี้ ถือเป็นวาระที่สำคัญในการมีส่วนร่วมหนุนเสริมรากฐานความสัมพันธ์อันดีในฐานะบ้านพี่เมืองน้องที่มีความสัมพันธ์อันดีอย่างยาวนานให้แนบแน่นมากขึ้น เพื่อทำให้ประชาชนของทั้งสองประเทศมีความผาสุก มีความเจริญรุ่งเรืองทั้งด้านเศรษฐกิจ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน" นายอนุทิน กล่าว