"ปลากระพงร้า" สินค้าแปรรูปของเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ หวังฝ่าวิกฤตราคาปลากระพงตกต่ำ ขายดีมีกำไร
ปลากระพงขนาดประมาณ 0.7-1 กิโลกรัม ที่ผ่านการแช่เกลือเม็ดมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 วัน จะถูกนำมาล้างตากแดดตามออร์เดอร์ที่ลูกค้าติดต่อขอซื้อ ไปทำอาหารรับประทานในครัวเรือน และร้านอาหารที่ซื้อเพื่อไปปรุงอาหารขายให้กับลูกค้า โดยระยะเวลาการตากแดดจะแตกต่างกันไปตามขนาดตัวปลา อยู่ที่ประมาณ 1-3 วัน ก่อนจะแพ็คด้วยระบบสูญญากาศ ส่งมอบให้ลูกค้าในพื้นที่ต่างๆ ในราคา กิโลกรัมละ 250 บาท จนกลายเป็นอีกหนึ่งสินค้าของศูนย์การเรียนรู้วิสาหกิจชุมชนแปรรูปอาหารตำบลท่าเคย หมู่ที่ 1 ต.ท่าเคย อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี
น.ส.อัญชลีพร กิจหวน อายุ 26 ปี สมาชิกศูนย์การเรียนรู้วิสาหกิจชุมชนแปรรูปอาหารตำบลท่าเคย เล่าว่า สาเหตุที่นำมาปลากระพงที่เลี้ยงไว้มาทำปลากระพงร้า เนื่องจาก ปัญหาปลากะพงราคาตกต่ำ แพปลาและพ่อค้าคนกลางมาจับปลาช้า ต้องให้อาหารปลาไปเรื่อยต้องมาแบกรับภาระในเรื่องของอาหารปลาวันละ 600-1000 บาท ทำให้เกิดปัญหาการขาดทุนเพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งพ่อค้าแม่ค้ามาซื่อจากบ่อ แต่ก็ขายได้ในราคาที่ได้กำไรน้อยจนถึงขาดทุน ที่เหลือประมาณ 400-500 กิโลกรัม ก็นำมาดองเกลือเม็ด แปรรูปเป็นปลากระพงร้า จนได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ตอนนี้ก็เลี้ยงใหม่อีกบ่อเลี้ยงแบบกึ่งธรรมชาติ เพื่อทำปลากระพงร้า
ด้านนายสุกิจ มีพริ้ง นายอำเภอท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า อ.ท่าฉางมีเกษตรกรเลี้ยงปลากะพงอยู่หลายรายแต่ส่วนใหญ่จะขายเป็นเนื้อปลาสด เป็นที่ทราบกันว่าราคาจะไม่ค่อยแน่นอนมีการขึ้นลงตลอดเวลา ปลากะพงเมื่อมีคนเลี้ยงมากราคาก็ถูกลงแต่ก็ยังมีเกษตรกรนำปลากะพงมาแปรรูปเป็นปลากะพงร้าเพื่อสร้างมูลค่า ลดความเสี่ยง หรือเป็นการถนอมอาหารสามารถที่จะเก็บไว้ได้นาน ซึ่งทางอำเภอได้มีการประสานเจ้าหน้าที่ให้การสนับสนุนทางวิชาการ และด้านการตลาด เปิดตลาดบริเวณที่ว่าการอำเภอเพื่อให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนหรือพ่อค้า แม่ค้า สามารถนำสินค้าชุมชนเข้ามาจำหน่ายได้ อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้งในวันประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อีกทั้งยังให้เจ้าหน้าที่ประสานตลาดนัดต่าง ๆไม่ว่าจะเป็นที่หน้าศาลากลางจังหวัด ตลาดหน้าห้างเซ็นทรัลพลาซ่าสุราษฎร์ธานี อีกทั้งยังสร้างเครือข่ายทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัดใกล้เคียงในการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้กับเกษตรกรอีกด้วย
สำหรับปลากระพงในปัจจุบัน ราคาอยู่ระหว่าง 80-100 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเป็นปัญหาต่อเนื่องมาหลายปี ส่วนหนึ่งเกิดจากปลากระพงจากประเทศเพื่อนบ้านที่มีต้นทุนต่ำกว่าเข้ามาตีตลาดผู้เลี้ยงปลากระพงของไทย จนเกษตรกรหลายรายต้องขายยอมขาดทุนกำไร รักษาต้นทุน และปรับเปลี่ยนไปเลี้ยงสัตว์น้ำชนิดอื่น จนถึงหยุดเพาะเลี้ยงจนกลายเป็นบ่อร้างก็มี ดังนั้นผู้บริโภคท่านใดสนใจปลากะพงร้า สามารถติดต่อได้ที่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปอาหารตำบลท่าเคย สามารถติดต่อได้ที่หมายเลข 098-406-5543