บก.ทล.รวบ 2 ผู้ต้องหาขับรถกระบะรับจ้างขนแรงงานเถื่อนชาวเมียนมา 20 ราย
เมื่อวันที่ 20 พ.ย.67 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ร่วมกันจับกุม นายไกรวิชญ์ อายุ 24 ปี สัญชาติไทย (ผู้ขับขี่) และนายไกรวิชญ์ อายุ 21 ปี สัญชาติไทย (ผู้ขับขี่) ในความผิดฐาน "ซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือหรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเพื่อให้พ้นจากการจับกุม" นอกจากนี้ยังจับกุมบุคคลต่างด้าว สัญชาติเมียนมา ในความผิดฐาน "เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต" โดยจับกุมได้ที่บริเวณ ทล.225 ต.ทับกฤชใต้ อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์
สืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล. ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล.(นครสวรรค์), ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล (พระนครศรีอยุธยา), ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล.(ลพบุรี) และ ส.ทล.6 กก.1 บก.ทล.(สิงห์บุรี) บูรณาการร่วมกันสืบสวนในพื้นที่รับผิดชอบ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทาง ทล.225 ต.ทับกฤชใต้อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ พบรถยนต์กระบะ จำนวน 2 คัน ขับขี่มาด้วยความเร็วสูงและมีน้ำหนักมากกว่ารถยนต์ปกติ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับขี่ติดตามอย่างกระชั้นชิด พบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ISUZU D-MAX สีเทา และรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ ISUZU D-MAX สีเทา ติดฟิล์มสีดำมืดทึบต้องสงสัยมีพิรุธ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสัญญาณไฟกระพริบสีแดงและใช้สัญญาณเสียงรวมถึงการพูดออกคำสั่งผ่านไมโครโฟนเรียกรถยนต์ จำนวน 2 คันดังกล่าวให้หยุด จนกระทั่งมาถึง บริเวณ ทล.225 ต.ทับกฤชใต้ อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบ
จากการตรวจสอบ พบนายไกรวิชญ์แสดงตนเป็นผู้ขับขี่รถยนต์ โดยพบมีบุคคลต่างด้าว สัญชาติเมียนมา จำนวน 10 คน โดยสารมากับรถยนต์ และ นายไกรวิชญ์ แสดงตนเป็นผู้ขับขี่รถยนต์ โดยพบมีบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา จำนวน 10 คน โดยสารมากับรถยนต์
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเชิญผู้ถูกจับกุมพร้อมรถยนต์ทั้ง 2 คันดังกล่าว มาตรวจสอบเอกสารอย่างละเอียดอีกครั้งที่ สถานีตำรวจภูธรชุมแสง ภ.จว.นครสวรร คนต่างด้าวสัญชาติเมียนมาไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางแต่อย่างใดแสดง จากการสอบถามนายไกรวิชญ์และนายไกรวิชญ์ ให้การยอมรับว่า ได้รับการประสานจากชายไทย ให้ไปรับแรงงานต่างด้าวจำนวน 20 คน ที่บริเวณพื้นที่ ต.นาโบสถ์ อ.วังเจ้า จ.ตาก เพื่อไปส่งปลายทางที่ อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ โดยได้ค่าจ้าง 10,000 บาทต่อครั้ง และรับว่าได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวบรรทุกแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองมาจริง และตนรู้ดีอยู่แล้วว่าแรงงานต่างด้าวดังกล่าวไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางใดๆ และยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทาง
จนกระทั่งมาถูกตำรวจทางหลวงเรียกตรวจสอบ โดยเงินค่าจ้างที่ได้มาจะนำไปเที่ยวและใช้จ่ายต่างๆ ในส่วนของบุคคลต่างด้าวที่ถูกจับให้การยอมรับว่า ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และจะมีคนพาออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยเสียค่าใช้จ่าย จำนวน 18,000 - 20,000 บาท จากนั้นจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรชุมแสง ภ.จว.นครสวรรค์ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ผลการปฏิบัติภายใต้การอำนวยการ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล., พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.1 บก.ทล. สั่งการให้ พ.ต.ต.เชษฐ์ศุภากร พิริยะพงษ์พันธ์ สว.ส.ทล.4 กก.1 บก.ทล., พ.ต.ท.ปภินวิทย์ อุดมพร สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล., พ.ต.ต.พิฆเนศ เตรียมเกิดทรัพย์ สว.ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล., พ.ต.ท.ชนะ ขำทอง สว.ส.ทล.6 กก.1 บก.ทล. พร้อมข้าราชการตำรวจบก.ทล. ดำเนินการ