นิวยอร์ก, 20 พ.ย. (ซินหัว) — เมื่อวันอังคาร (19 พ.ย.) เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ รายงานว่าหุ่นยนต์ที่มีความสามารถเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน ทำให้พวกมันสามารถทำงานในคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้าได้มากขึ้น ทว่ายังคงมีภาระหน้าที่ที่หุ่นยนต์ทำได้ไม่ดีอยู่อีกมาก จึงเป็นเรื่องยากที่จะรู้ว่าเมื่อใดที่หุ่นยนต์จะถูกใช้งานในฐานะระบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบในอุตสาหกรรมนี้
“เครื่องจักรสามารถขนถ่ายสินค้าบนรถบรรทุก วางและยกสินค้าออกจากแท่นรองรับ ขณะที่หุ่นยนต์สามารถเคลื่อนย้ายสินค้าในคลัง หยิบจับพัสดุ และเคลื่อนย้ายสินค้าบนพื้นโกดังสินค้า มันสามารถทำงานทั้งหมดนี้ได้โดยไม่ต้องมีมนุษย์คอยคุมทุกฝีก้าว” รายงานระบุ
รายงานระบุว่าแม้จะมีการใช้ระบบอัตโนมัติเพิ่มขึ้น แต่โกดังสินค้ายังคงเป็นแหล่งจ้างงานมนุษย์ขนาดใหญ่ ข้อมูลจากรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เผยว่ามีผู้คนในสหรัฐฯ เกือบ 1.8 ล้านคนทำงานเป็นส่วนหนึ่งในห่วงโซ่อุปทานนี้ แม้ว่าตัวเลขดังกล่าวจะลดลงร้อยละ 9 จากจุดสูงสุดในปี 2022 ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทโลจิสติกส์พากันจ้างพนักงานเพิ่มขึ้นเพื่อมารับมือกับการเติบโตของอีคอมเมิร์ซช่วงเกิดโรคระบาดใหญ่ แต่ตัวเลขนี้ยังคงเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 30 นับแต่ต้นปี 2020
รายงานเผยว่ามีภาระหน้าที่สำคัญและไม่ยุ่งยากหลายอย่างที่มนุษย์นั้นทำได้ดีกว่าหุ่นยนต์มาก มนุษย์สามารถย้ายสิ่งของบางอย่างออกไปจากภาชนะที่มีสินค้ามากมายเพื่อหยิบเฉพาะชิ้นที่ต้องการได้ ซึ่งเป็นงานที่พนักงานอุตสาหกรรมเรียกกันว่าการคัดสรร แต่เหล่าวิศวกรหุ่นยนต์ยังคงไม่มั่นใจว่าเมื่อใดสิ่งประดิษฐ์ของพวกเขาจะสามารถทำงานข้างต้นได้รวดเร็วเพียงพอจะทดแทนคนงานมนุษย์ได้
ทั้งนี้ บริษัทด้านเอไออย่างเช่นโอเพนเอไอ (OpenAI) ให้บริการน่าประทับใจอย่างการสร้างงานเขียน รูปภาพ และวิดีโอที่รวดเร็วราวกับเป็นผลงานของมืออาชีพ แต่ในโกดังสินค้าที่เต็มไปด้วยสินค้าของเศรษฐกิจสมัยใหม่ ความก้าวหน้าของระบบอัตโนมัติกลับดำเนินไปอย่างเชื่องช้ามากกว่า และหุ่นยนต์ต้องพยายามอย่างหนักเพื่อฝึกฝนทักษะที่มนุษย์ส่วนใหญ่ทำได้แบบง่ายๆ