"เสียงแหบ-เสียงหาย" ทำไงดี ?
ในปัจจุบันปัญหาที่พบได้บ่อยมากขึ้นสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องใช้เสียงอยู่ตลอดเวลาคือ อาการ เสียงแหบ หรือ เสียงหาย ซึ่งนับว่าเป็นปัญหาที่ทำให้เกิดผลกระทบในการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะนอกจากจะไม่สามารถใช้เสียงในการพูดคุยได้แล้ว หากดูแลรักษาอย่างไม่ถูกวิธีอาจส่งผลทำให้อาการแย่ลงได้
อาการเสียงแหบ เสียงหายคืออะไร
เสียงแหบหรือเสียงหาย คือ อาการที่เกิดการบาดเจ็บทางสายเสียง มาจากการใช้เสียงที่มากเกินไป เช่น การร้องเพลง การตะโกนหรือเป็นไข้หวัด อาการเหล่านี้มักพบได้บ่อยในบุคคลที่จำเป็นต้องใช้เสียงอยู่ตลอดเวลา เช่น การทำงานในอาชีพนักร้อง นักแสดง ครู หรือพนักงานขาย เป็นต้น อาจมีเสียงผิดเพี้ยนไปจากเดิมในแง่ ความคมชัดของเสียง ความดัง หรือต้องใช้ความพยายามมากในการออกเสียง ประมาณการว่าในประชากรทั่วไปมีโอกาสเกิดเสียงแหบครั้งหนึ่งในช่วงชีวิตประมาณ 30% โดยคำแนะนำทั่วไปหากมีอาการเสียงแหบโดยไม่ดีขึ้นเองภายในสองสัปดาห์ควรปรึกษาแพทย์
สาเหตุของอาการเสียงแหบ เสียงหาย มาดูกันว่ามีสาเหตุหลัก ๆ อะไรบ้างที่ทำให้เกิดเสียงแหบ
ใช้เสียงมากเกินไป หรือใช้เสียงผิดวิธี
สาเหตุหลักที่พบได้บ่อยที่สุดของอาการเสียงแหบมักเกิดจากการใช้เสียงดังมาก หรือนานเกินไป ไม่ว่าจะใช้เสียงในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันหรือใช้เสียงเพื่อการประกอบอาชีพ มักเป็นหลังการใช้เสียงทันทีหรือในวันรุ่งขึ้น โดยปกติแล้วหากเสียงหายด้วยสาเหตุนี้มักเป็นจากสายเสียงบวมหรืออักเสบ โดยปกติใช้เวลาในการพักประมาณ 1-2 วันก็สามารถกลับมาใช้เสียงได้ปกติ แต่หากจำเป็นต้องใช้หรือฝืนใช้เสียงอย่างต่อเนื่องในขณะที่ยังมีสายเสียงบวม อาจทำให้อาการแย่ลงได้จากการอักเสบที่มากขึ้น ซึ่งบางครั้งต้องใช้การรักษาด้วยยาร่วมกับการพักการใช้เสียงจึงจะกลับมาหายเป็นปกติได้
อาการติดเชื้อหรือเป็นหวัด
ในกรณีนี้อาการเสียงแหบมักเกิดขึ้นได้เสมอในผู้ป่วยที่เกิดการติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนบน เช่นไข้หวัดจากไวรัส ซึ่งทำให้เกิดเยื่อบุเนื้อในลำคอไปจนถึงสายเสียงอักเสบ บวมทำให้เกิดอาการเสียงแหบ เสียงหายในที่สุด โดยปกติแล้ว อาการเหล่านี้สามารถหายได้เองตามธรรมชาติ เพียงแค่รักษาตามอาการ ดื่มน้ำให้มากและพักผ่อนให้เพียงพอ หากอาการแย่ลง เช่น มีอาการไออย่างรุนแรง ไข้สูง เจ็บคอมากขึ้น อาจต้องพบแพทย์เพื่อเข้ารับตรวจรักษาให้ถูกต้องต่อไป
สาเหตุอื่น ได้แก่ กรดไหลย้อนขึ้นกล่องเสียง โพรงจมูกภูมิแพ้อากาศที่มีการสั่งน้ำมูกหรือไอรุนแรง การสูบบุหรี่ หรือการใช้ยาบางประเภทเช่นยาขับปัสสาวะ วิตามินหรือการใช้ยาสเตียรอยด์พ่นทางปอดหรือจมูก ถ้ามีประวัติการผ่าตัดมาก่อนก็อาจเกิดได้จากกการใส่ท่อช่วยหายใจตอนวางยาสลบหรือการผ่าตัดที่ไปกระทบเส้นประสาทที่เลี้ยงสายเสียง ถ้ามีอาการระยะยาวนานอาจเป็นจากสาเหตุอื่นเช่นความผิดปกติของสมอง โรคมะเร็งบริเวณกล่องเสียงและลำคอ บางครั้งก็เป็นจากการการเปลี่ยนแปลงของวัย ไม่ว่าการแตกเนื้อหนุ่ม จนถึงการย่างเข้าวัยชรา
ผศ.นพ.ภูริช ประณีตวตกุล
ภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา
คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล