เบอร์ลิน, 21 พ.ย. (ซินหัว) — เมื่อวันพุธ (20 พ.ย.) ฟอร์ด (Ford) ผู้ผลิตยานยนต์ของสหรัฐฯ ประกาศแผนการเลิกจ้างพนักงาน 4,000 อัตราในยุโรปภายในสิ้นปี 2027 เพื่อสร้างโครงสร้างที่สามารถแข่งขันด้านต้นทุนได้มากขึ้น และรับรองความยั่งยืนและการเติบโตระยะยาวของธุรกิจในยุโรป
ฟอร์ดระบุว่าแผนการเลิกจ้างพนักงานข้างต้นจะส่งผลต่อการดำเนินงานในเยอรมนีเป็นหลัก รวมถึงในสหราชอาณาจักร และจะมีการปรับลดจำนวนพนักงานในตลาดยุโรปแห่งอื่นๆ เพียงเล็กน้อย โดยฟอร์ดจะหารือร่วมกับหุ้นส่วนทางสังคมในยุโรปเกี่ยวกับแผนการเลิกจ้างที่จะเกิดขึ้น
ฟอร์ดยังวางแผนปรับลดชั่วโมงการทำงานเพิ่มเติมที่โรงงานในเมืองโคโลญในช่วงไตรมาสแรก (มกราคม-มีนาคม) ของปี 2025 เนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้
เมื่อสัปดาห์ก่อน โรงงานในเมืองโคโลญของฟอร์ดได้ประกาศปรับลดการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชั่วโมงการทำงาน เนื่องจากความต้องการยานยนต์ไฟฟ้าที่ซบเซาในตลาดยุโรป โดยเฉพาะในเยอรมนี ซึ่งปัจจุบันมีคนงานราว 2,000 คนถูกปรับลดชั่วโมงการทำงาน
สื่อเยอรมนีรายงานว่าฟอร์ดวางแผนเลิกจ้างพนักงานในเยอรมนี 2,900 อัตรา ในสหราชอาณาจักร 800 อัตรา และในกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (EU) อื่นๆ 300 อัตรา
ด้านเบนจามิน กรูชกา หัวหน้าสภาแรงงานของฟอร์ด เยอรมนี (Ford Germany) กล่าวว่าฝ่ายพนักงานจะต้องต่อต้านการเลิกจ้างครั้งนี้อย่างแน่นอน พร้อมย้ำว่าข้อตกลงแรงงานที่มีอยู่นั้นห้ามการเลิกจ้างด้วยเหตุผลด้านการดำเนินงานจนถึงปี 2032
การต่อสู้ดิ้นรนของฟอร์ดสะท้อนความท้าทายที่ขยายวงกว้างขึ้นภายในภาคยานยนต์ของเยอรมนี ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า โดยในช่วงหลายเดือนมานี้ ผู้ผลิตรถยนต์และซัพพลายเออร์ในเยอรมนีได้ประกาศเลิกจ้างพนักงานจำนวนมากหลายครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งส่งผลกระทบต่องานหลายพันอัตรา
(แฟ้มภาพซินหัว : ป้ายฟอร์ดสะท้อนบนฝากระโปรงรถที่โชว์รูมตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ฟอร์ดในเมืองลิเบอร์ตีวิลล์ รัฐอิลลินอยส์ของสหรัฐฯ วันที่ 6 ม.ค. 2021)
(แฟ้มภาพซินหัว : โชว์รูมตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ฟอร์ดในเมืองลิเบอร์ตีวิลล์ รัฐอิลลินอยส์ของสหรัฐฯ วันที่ 6 ม.ค. 2021)